ความวิตกกังวลระหว่าง พ่อแม่ผู้ปกครอง กับเด็กๆ ในความปกครอง ในยุคดิจิทัลถึงเรื่องการดูแลลูกให้มีวินัยในการใช้เวลาอยู่กับสื่อเทคโนโลยีและการคัดกรองสื่อดูเหมือนจะไม่เพียงพอแล้ว เนื่องจากทุกวันนี้ภัยไซเบอร์คุกคามเข้าใกล้เราเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องทำงานและเรียนจากที่บ้าน ทำให้ใช้เวลากับโลกเสมือนจริงมากขึ้นและแน่นอนว่าอาจเป็นการเพิ่มโอกาสของภัยจากคนแปลกหน้าที่พยายามเข้าถึงครอบครัวของคุณ พ่อแม่จึงจำเป็นต้องสวมบทบาท CIO หรือหัวหน้าฝ่ายสารสนเทศ ของบ้านเพื่อช่วยให้ทุกคนรู้วิธีท่องโลกอินเตอร์เนต อย่างปลอดภัย
เจน มิลเลอร์ ออสบอร์น รองผู้อำนวยการหน่วยข่าวกรองภัยคุกคาม Unit 42 โดยพาโล อัลโตเน็ตเวิร์กส์ เผยเคล็ดลับเพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติง่ายๆ ในการปกป้องเด็กๆ ให้พ้นจากภัยทางไซเบอร์ภายในบ้าน ไว้น่าฟังมาก มีสาระดังต่อไป
1.ทำความเข้าใจว่าบุตรหลานของคุณก่อนว่า พวกเขากำลังจะทำอะไรบนโลกออนไลน์ โดยหากคุณใช้อุปกรณ์ส่วนตัวให้ตั้งค่าการควบคุมโดยผู้ปกครองในอุปกรณ์ของลูกๆ ทั้งนี้เมื่อพวกเขาจะทำอะไรพวกเขาจะต้องได้รับอนุญาตก่อนที่จะดาวน์โหลดหรือทำการซื้อสิ่งใด และหากคุณ ตรวจสอบการตั้งค่าของแอพพลิเคชั่นยอดนิยม เช่น Fortnite ซึ่งคุณมีตัวเลือกในการบล็อกการแชทในเกมที่พวกเขาจะเล่น อีกทั้งคุณจะต้องรู้และเข้าใจบัญชีโซเชียลมีเดียที่เด็กๆ ใช้ รู้ว่าผู้ติดต่อของพวกเขาคือใครและกำลังสนทนาอะไรอยู่ สุดท้ายคุณต้องพูดคุยกับพวกเขาเกี่ยวกับการเปิดกว้างของอินเตอร์เนต อิสระที่ทุกคนสามารถโพสต์อะไรก็ได้บนโลกออนไลน์และสอนการสังเกตข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
2.ระวังพฤติกรรมที่น่าสงสัยกับแอพพลิเคชั่นการประชุมทางวีดีโอ เรื่องนี้จะเป็นอันตรายสูงสุดซึ่งเป็น “อันตรายจากคนแปลกหน้า”มักมากับโลกเสมือนจริงเช่นเดียวกับที่เราพบเจอในสังคมทุกวันที่หลายคนคิดว่ามันมีประโยชน์มหาศาล สิ่งที่คุณจะต้องทำเป็นพิเศษคือ แนะนำเด็กๆ ให้ออกจากการประชุมออนไลน์ หากพบเจอการกระทำที่น่าสงสัยซึ่งไม่สามารถยอมรับได้ในชีวิตจริง เช่น ผู้เข้าร่วมประชุมที่ไม่รู้จักและไม่มีการแจ้งเตือนมาก่อน
3.อธิบายถึงความสำคัญของรหัสผ่านที่คาดเดายาก รหัสผ่านเปรียบเหมือนกุญแจบ้านของคุณ กุญแจนั้นปกป้องทุกสิ่งภายในบ้านและจำเป็นต้องเก็บรักษามันไว้ให้ปลอดภัย ห่างไกลจากคนแปลกหน้า หรือแม้กระทั่งจากเพื่อนของพวกเขาเอง ดังนั้น รหัสผ่านก็เหมือนกับกุญแจ ที่ควรใช้ต่างกันเพื่อเปิดประตูแต่ละบาน ควรใช้รหัสผ่านที่ต่างกันสำหรับอุปกรณ์ส่วนตัวและบัญชีต่างๆ ที่สามารถกำหนดรหัสผ่านได้ด้วยตัวเอง และ ตัวจัดการรหัสผ่าน (password manager) ก็เหมือนกับพวงกุญแจ เป็นแอพพลิเคชั่นที่เก็บรหัสผ่านไว้ด้วยกันเพื่อการใช้งานง่าย ผู้ปกครองควรเข้าถึงรหัสผ่าน/passwordmanager ของพวกเขา
4.สังเกตสิ่งที่พวกเขากำลังทำ สิ่งแรกคือ วางตำแหน่งหน้าจอเพื่อให้คุณสามารถมองเห็นกิจกรรมของพวกเขาสะดวก ชัดแจ้งถ้าเป็นไปได้ ให้ใช้พื้นหลังเสมือนจริงขณะที่มีการเรียนทางไกล เพื่อช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัวและให้มุ่งความสำคัญกับการเรียนรู้พูดคุยกับเด็กๆ เกี่ยวกับอันตรายของการคลิกลิงก์ที่มีข้อเสนอดีเกินจริง กระตุ้นให้พวกเขาถามคุณก่อนจะคลิกเข้าไป เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจากนั้นให้เปิดแท็บเบราว์เซอร์ใหม่เพื่อเข้าไปยังเว็บไซต์โดยตรง
5.อย่าเปิดเผยข้อมูลเกินความจำเป็นข้อนี้เป็นธรรมชาติของเด็กๆ ทุกคนที่มักจะพูดความจริง ดังนั้น คุณต้องกำหนดขอบเขตเกี่ยวกับสิ่งที่เด็กๆ สามารถโพสต์ทางออนไลน์ เช่นไม่มีภาพใบหน้า ไม่เปิดเผยตำแหน่งที่ระบุตัวตนได้ง่ายและไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ชื่อ นามสกุล ข้อมูลติดต่อโรงเรียน ฯลฯ และเปลี่ยนการตั้งค่าอุปกรณ์ของคุณเพื่อปิดเมทาดาทา (metadata) บนแอพพลิเคชั่นกล้อง วิธีนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าคนแปลกหน้าไม่สามารถรู้ได้ว่าคุณอยู่ที่ไหนจากรูปภาพที่โพสต์ทางออนไลน์
6.ปรับปรุงระบบให้ทันสมัยอยู่เสมอโดยการอัพเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดให้อุปกรณ์ของคุณอยู่เสมอ ซึ่งอาจรวมถึงการอัพเดตความปลอดภัยด้วยเช่นกัน
และหากท่านที่สนใจมากกว่านี้ผู้ปกครองสามารถชวนให้ลูกๆ เข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านตัวการ์ตูน ZUKY ในฐานะเพื่อนที่จะมาให้คำแนะนำให้รู้จักถึงโลกอินเตอร์เนตและการใช้ให้ปลอดภัยผ่านภาพ วีดีโอ เกมส์สนุกๆ ทั้งบนเว็บไซต์ ZUKY’S SAFETY GUIDE หรือยูทูบ Zuky The Robot ได้ตลอดเวลา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี