แฉเล่ห์แก๊งลอบพาคนข้ามแดน‘แม่สาย’ สะพัดสาวติดโควิดโผล่เชียงใหม่ใช้บริการ
29 พฤศจิกายน 2563 ที่ชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่ทหารจากร้อย ม.3 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พ.อ.สัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผบ.ฉก.ม.3 นำโดย ร.อ.พิสิฐ อภิเดช ผบ.ร้อย ม.3 ฉก.ม.3 ร่วมกับฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันตรวจพื้นที่ชายแดนตามจุดช่องทางธรรมชาติที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย หลังพบว่ามีการลักลอบข้ามพรมแดนเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย ทั้งพื้นที่ตามไร่นาของชาวบ้านที่มีพื้นที่ติดกับลำน้ำสาย และบ้านเรือนของประชาชนที่มีหลังบ้านติดลำน้ำสาย ที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดน ซึ่งอาจจะเป็นช่องทางที่ผู้ลักลอบเข้าเมืองใช้ในการข้ามพรมแดนได้
พ.อ.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน ได้มีการเพิ่มกำลังในการลาดตระเวน รวมถึงเพิ่มอุปกรณ์ในการป้องกันการลักลอบเข้าเมือง ทั้งการเพิ่มไฟส่องสว่างในจุดต่างๆ การติดกล้อง CCTV ตลอดแนวชายแดน พร้อมทั้งใช้โดรนในการตรวจตรา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ และการสกัดกั้นการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งอีกส่วนหนึ่งต้องขอความร่วมมือกับประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องบุคคลภายในหมู่บ้านของตนเอง หากพบเห็นคนแปลกหน้าหรือกลุ่มคนที่ผ่านหรือเข้ามาในหมู่บ้าน ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ที่ลักลอบข้ามพรมแดนได้บ่อยครั้ง โดยมีการให้การรับสารภาพว่าได้เสียค่าจ้างให้กลุ่มขบวนการ 3,000 -5,000 บาท เพื่อแลกกับการพาข้ามพรมแดน โดยจะมีคนมารับอีกทอดหนึ่งในฝั่งประเทศไทย โดยบางคนลักลอบข้ามมาในบริเวณไร่นาของชาวบ้าน โดยสวมชุดเหมือนไปทำสวน แล้วนั่งท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาจากสวนเสมือนว่าไปทำสวนไร่นามา เป็นการตบตาของเจ้าหน้าที่
จากการสอบถามคนในพื้นที่ทราบว่าคนไทยส่วนใหญ่ที่ข้ามไปฝั่งประเทศเมียนมาแล้วกลับไม่ได้ เนื่องจากว่าได้ลักลอบข้ามพรมแดนไปโดยไม่ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง ทำให้เมื่อปิดด่านพรมแดนขึ้น ไม่สามรถเดินทางกลับได้เพราะต้องรับโทษในประเทศเมียนมาในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง จึงทำให้ต้องหลบซ่อนตัวและพยายามข้ามพรมแดน จึงทำให้มีกลุ่มขบวนการลักลอบพาคนข้ามแดนเกิดขึ้น
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าการลักลอบข้ามแดนของหญิงสาวที่ตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ที่เชียงใหม่ พบว่า ได้ลักลอบเดินทางจากประเทศเพื่อนบ้านจาก อ.แม่สาย แล้วได้มีกลุ่มขบวนการนำไปส่งที่สถานีขนส่งแม่สาย เพื่อนั่งรถตู้โดยสารประจำทางไปยังสถานีขนส่งจังหวัดเชียงรายแห่งที่ 2 เพื่อนั่งรถโดยสารประจำทางไปยังจังหวัดเชียงราย ก่อนจะไปยังสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่แล้วตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้พบว่ามีการโพสในกลุ่มเฟสบุ๊กข้อความว่า “ถ้าใครติดอยู่ฝั่งท่าขี้เหล็กอยู่อยากข้ามกลับไทยช่วยติดต่อมาเบอร์นี้น่ะค่ะ” โดยระบุหมายเลขโทรศัพท์ทั้งไทยและเมียนมาเอาไว้ คาดว่าจะเป็นขบวนการที่พยายามลักลอบนำคนไทย หรือเมียนมา ข้ามมายังฝั่งประเทศไทยอยู่ อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ได้มีการติดตามจับกุมเครือข่ายขบวนการดังกล่าว
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 เพจเฟซบุ๊ก "ไทยคู่ฟ้า" โพสต์ข้อความระบุว่า ได้ผล! เปิดแจ้งเบาะแสบ่อน - แรงงานเถื่อน ต้นตอโควิด 16 วัน 237 เรื่อง
เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 24 มกราคม 2564 พ.ต.อ.สุทธินันท์ คงแช่มดี ผกก.สืบสวน ตำรวจภูธร จ.นครสวรรค์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สันติราษฎร์ แสงไทย รองผกก.ร่วมกันนำเจ้าหน้
เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 24 มกราคม 2564 พ.ต.ท.ประเสริฐ แจ่มใส สว.สส.สภ.ทับปุด พร้อม พ.ต.ต.วินัย สายคุ้ม สว.กก.5 บก.ปทส. , ร.ต.อ.ปรีชา สุดสาย รอง สวป.สภ.
"โฆษก ตร."เผย"ตำรวจกองทะเบียนประวัติอาชญากร"ติดโควิดจริง เน้นทุกหน่วยให้เข้มมาตรการป้องกัน เมื่อวันที่ 24 มกรา
ยึดไอซ์-ยาบ้า 16 กระสอบซุกรถบรรทุก เตรียมขนเข้าพื้นที่ชั้นใน
เมื่อวันที่ 22 มกราคม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณ
‘บิ๊กอู๊ด’ นำทีมแถลง ตม.ลุยแคมป์บ้านเป้าหมายลอบตัดไม้ไผ่รุกป่าสงวนเมืองกาญจน์ จับจะๆจ้างแรงงานเมียนมาหนีเข้าเมือง สารภาพลอบเดินเท้าเข้ามาผ่านช่องทางธรรมชาติบ่อยครั้ง
เว้นสักพักได้ไหม! หัวหินรวบ’22 เซียนไก่’ มั่วสุมเล่นพนันเย้ยโควิด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี