ค้านประกัน"ด.ต.ปืนโหด" บุกกระหน่ำยิงอดีตภรรยาสาหัส-เพื่อนดับ2 แม่ร่ำไห้ไม่ได้ฆ่าแค่2คน แต่พรากอีกหลายชีวิต
เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563 ความคืบหน้ากรณีที่ ด.ต.อร่าม สังข์ชัย อายุ 44 ปี ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 มม.บุกเข้าไปกระหน่ำยิง น.ส.นุจรินทร์ แก้วจัตุรัส อายุ 42 ปี อดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาลอยู่ รพ.โนนสุวรรณ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และใช้ปืนกระบอกเดียวกันยิง นายจรัญ และนางสมคิด สุขวงศกฎ สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นเพื่อนของอดีตภรรยาเสียชีวิต ขณะนั่งอยู่ภายในร้านอาหารในเขตเทศบาล ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นร้านอาหารที่ผู้บาดเจ็บและผู้ตายได้ร่วมหุ้นกันเปิด สร้างความแตกตื่นตกใจให้กับลูกค้าที่นั่งดื่มกินในร้าน และประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง ก่อนที่ ด.ต.อร่าม จะเข้ามอบตัวพร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นคาดว่า ชนวนเหตุเกิดจาก ด.ต.อร่าม ระแวงอดีตภรรยาแอบไปมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายจรัญ ผู้ตาย จึงตัดสินใจบุกเข้าไปกระหน่ำยิงทั้ง 3 ขณะนั่งอยู่ในร้านอาหารดังกล่าว
ล่าสุด ร.ต.อ.สมคิด ชุ่มเสนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนสุวรรณ ได้นำตัว ด.ต.อร่าม ผู้ต้องหา ออกจากห้องขังมาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ด.ต.อร่าม อยู่ในอาการเครียดหนัก จนต้องให้กินยาคลายเครียดเพราะเกรงว่าจะคิดสั้น ซึ่งระหว่างการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพด้านใน มีเพียงทนายความที่ร่วมฟังการสอบสวนเท่านั้น แต่เบื้องต้นก็ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวน เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ และผู้ต้องหาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเกรงจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งนี้ เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนข้อหาอื่นต้องรอการสอบสวนและพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง
ส่วน น.ส.นุจรินทร์ อดีตภรรยา ของผู้ก่อเหตุที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ อาการยังน่าเป็นห่วง
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 52 บ้านน้อยอุบล ต.โนนสุวรรณ อ.โนนสุวรรณ ซึ่งเป็นบ้าน นายจรัญ และนางสมคิด สองสามีภรรยาที่เสียชีวิต ซึ่งญาติพี่น้องและชาวบ้านได้ช่วยกันกางเต็นท์จัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับศพของสองสามีภรรยา ซึ่งกำลังทำการชันสูตรอยู่ที่โรงพยาบาลโนนสุวรรณ ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปด้วยความโศกเศร้า
โดยเฉพาะ นางไพฑูรย์ สุขวงศ์กฎ อายุ 63 ปี แม่ของนายจรัญ ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะต้องสูญเสียทั้งลูกชายและลูกสะใภ้พร้อมกัน และกล่าวทั้งน้ำตาด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ได้ฆ่าแค่ 2 คน แต่พรากอีกหลายชีวิต เพราะผู้ตายทั้งสองเป็นเสาหลักของครอบครัวดูแลหลายชีวิต โดยเฉพาะหลานชาย 2 คน ซึ่งกำลังเรียน ก็ต้องกลายคนเป็นกำพร้าทั้งพ่อและแม่ในคราวเดียวกัน และไม่รู้ว่าหลังจากนี้ใครจะส่งเสียและจะใช้ชีวิตอยู่ยังไง เป็นห่วงความรู้สึกหลานมาก ส่วนตัวไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไรถึงได้ก่อเหตุอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ ก็อยากให้ตำรวจลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด หากเป็นไปได้ก็อยากให้ตายตกไปตามกัน แต่ก็เห็นใจเพราะอีกฝ่ายก็มีลูกเหมือนกัน
ด้าน น.ส.ชาลี สุขวงศกฎ อายุ 46 ปี พี่สาวนายจรัญ ผู้ตาย เล่าว่า ตนก็ทำมาค้าขายอยู่ต่างจังหวัด นานๆ จะได้กลับมาเยี่ยมบ้าน จึงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะอะไรถึงได้มาฆ่ากันแบบโหดเหี้ยมขนาดนี้ แต่รู้ว่าน้องชายและน้องสะใภ้ได้หุ้นกับ น.ส.นุจรินทร์ ผู้บาดเจ็บ เปิดร้านอาหารร่วมกันได้ประมาณ 1 ปีแล้ว แต่ไม่เคยเห็นน้องชายเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง จึงไม่แน่ใจว่าจะขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ร้านอาหารหรือไม่ ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาระแวงว่าอดีตภรรยาตัวเองจะแอบมามีสัมพันธ์กับน้องชาย หรือไม่นั้น ตนเองก็ไม่ทราบเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว ก็อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวด้วย เพราะผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : สลด! ดาบตำรวจหึงโหด บุกกระหน่ำยิงถล่มร้านอาหาร เมียสาหัส-เพื่อนเมียสังเวย 2 ศพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี