เทียบฟอร์ม-ฐานเสียง‘ม้าเต็ง-ม้ามืด’ ขับเคี่ยวควบชิงชัย‘นายก อบจ.น่าน’
30 พฤศจิกายน 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) น่าน ว่า จ.น่าน มีจำนวนผู้สมัครนายก อบจ. รวม 5 คน และ ส.อบจ 73 คน
เทียบฟอร์ม...ภายหลังจากการเปิดสนามในโค้งแรกนี้แล้ว มองจากบนเวที เส้นทางแห่งการเมือง ใครจะเป็น “เต็งหนึ่ง-ม้ามืด”
เช็ครายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.น่าน มี 5 คน คือ เบอร์ 1 นายพิชิต โมกศรี อายุ 60 ปี สังกัดอิสระ ปลัดเทศบาลเมืองน่าน , เบอร์ 2 นายโสภณ ศรีมาเหล็ก อายุ 55 ปี สังกัดอิสระ อดีตสมาชิกวุฒิสภาน่าน (ส.ว.น่าน) และอดีตกำนัน , เบอร์ 3 นายนพรัตน์ ถาวงศ์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน อายุ 49 ปี ผู้สมัครสังกัดพรรคเพื่อไทย , เบอร์ 4 นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ อายุ 67 ปี ผู้สมัครอิสระ อดีต ส.ว.น่าน และเบอร์ 5 นายธนโชติ ยั่งชยุตพงศ์ อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการครูวิทยาลัยเทคนิคน่าน ผู้สมัครอิสระ
เริ่มจาก “ตัวเต็ง”...ผู้สมัครเบอร์ 1 นายพิชิต โมกศรี อายุ 60 ปี สังกัดอิสระ อดีตผู้สมัครนายก อบจ.น่าน ครั้งล่าสุด แต่สอบตก อาชีพเป็นข้าราชการบำนาญ (องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ปลัดเทศบาลเมืองน่าน) บนเส้นทางทางการเมือง เริ่มจากการเป็นปลัดเทศบาลเมืองแพร่ ปลัดเทศบาลเมืองลำปาง แล้วหันเหสู่สายการเมืองท้องถิ่นเป็นรองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองน่าน แล้วตัดสินใจลงสมัครนายก อบจ.น่าน เป็นครั้งแรกแพ้คะแนนแบบเฉียดฉิวหลักร้อย และเป็นปลัดเทศบาลเมืองน่านก่อนออกมาแก้มือลงสมัครนายก อบจ.น่าน ได้ลงพื้นที่ จ.น่าน การหาเสียง จากชาวบ้านขยันเดินลงพื้นที่ส่วนใหญ่พื้นที่ห่างไกล
“ตัวเต็ง” อีกราย เบอร์ 3 นายนพรัตน์ ถาวงศ์ อดีตประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดน่าน สมัยที่ผ่านมา อายุ 49 ปี ผู้สมัครสังกัดพรรคเพื่อไทย ด้านเส้นทางสายการเมือง มีความใกล้ชิดกับการเมืองระดับประเทศ โดยคาดจะได้ฐานเสียงเดิมของ สส. แต่ก็อาจไม่แน่ขึ้นอยู่กับการลงพื้นที่เข้าหาชุมชน
“ม้ามืด” นายสันติภาพ อินทรพัฒน์ อายุ 67 ปี ผู้สมัครอิสระ อดีต ส.ว.น่าน ก่อนลงสมัครนายก อบจ.น่าน ครั้งนี้ ผ่านร้อนผ่านหนาวบนเส้นทางการเมืองมายาวนาน เริ่มต้นจากการเป็นทนายความ จากนั้นก้าวขึ้นเวทีระดับชาติ เป็น ส.ว.น่าน มีการสร้างฐานเสียงทางการเมืองโดยลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดหลายปี แถมคว้าแกนนำชุมชนเข้าทีมดึงฐานเสียงมาได้หลายพื้นที่ ส่วนด้านนโยบายแอบทำการบ้านมาหลายปี
เทียบฟอร์ม “เต็งหนึ่ง” ของเมืองน่านแล้ว ยังมองกันไม่ขาดว่าใครได้เปรียบ เป็นการช่วงชิงฐานเสียงทางการเมืองที่มีมายาวนาน แต่จะประมาทไม่ได้ กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ยังไม่มีใครสามารถครองใจได้ กลุ่มนี้จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมที่ชัดเจน ทั้งหมดนั้นก็ขึ้นกับเสียงของชาวบ้านเป็นคนคิดว่าเขาได้ประโยชน์หรือ ไม่
เพราะยุคสมัยเปลี่ยน ทำอะไรหรือเคยทำอะไรเสียหาย รู้กันทั้งน่าน หรือการเลือกตั้งครั้งนี้อาจมี “ม้ามืด” ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
คนตัดสินใจที่ดีที่สุด คือ ประชาชน เพราะเป็นการปกครองของประชาชนเอง…
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี