ภาคเหนือ หนาวจัดอุณหภูมิลดลงเหลือ 4 องศาฯ เหมยขาบขาวโพลนยอดดอยอินทนนท์ นักท่องเที่ยวแห่ชม สัมผัสอากาศหนาว อีกด้าน พบหญิงสูงวัยมีอาการป่วย นอนหนาวตาย ที่ จ.อ่างทอง
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวบนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ว่ามีนักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสอากาศหนาวเป็นจำนวนมาก และต่างประทับใจเพราะนอกจากได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นสมใจ วัดอุณหภูมิต่ำสุดได้ 4 องศาเซลเซียส ทั้งที่กิ่วแม่ปาน และยอดดอยแล้ว ท้องฟ้ายังเปิดทำให้สามารถชมทะเลหมอกที่สวยงาม ตัดกับเส้นขอบฟ้าสีทอง ภายหลังพระอาทิตย์ขึ้น โดยที่กิ่วแม่ปาน เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นสูงสุดเปรียบเสมือนหลังคาของประเทศไทย
ส่วนที่บริเวณยอดดอยหน้าหน่วยพิทักษ์ฯ ที่ (อน.5) และหน้าป้ายสูงสุดยอดแดนสยาม เกิดเหมยขาบหรือน้ำค้างแข็งบนยอดหญ้า ขาวโพรนเป็นแนวยาว มองเห็นเป็นเกร็ดน้ำแข็งสวยงาม โดยช่วงนี้เหมยขาบเกิดขึ้นเกือบทุกวันเพราะช่วงเช้าอุณหภูมิลดต่ำเหลือประมาณ 3-4 องศาเซลเซียส ซึ่งฤดูหนาวนี้เกิดเหมยขาบบนยอดดอยอินทนนท์ แล้ว 12 วัน ทางอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ได้จัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามสถานที่สาธารณะรวมถึงที่พักลานกางเต็นท์ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย
ขณะที่ยอดภูลมโล อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.พิษณุโลก ช่วงเช้าวันเดียวกัน ตรวจวัดอุณหภูมิได้ 6 องศาเซลเซียส หลังจากอากาศหนาวเย็นลง ส่วนยอดหญ้าอุณหภูมิลดต่ำลงเหลือ 2 องศาเซลเซียส จนเกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้ง เป็นบริเวณกว้าง มีชาวบ้านและนักท่องเที่ยว ขึ้นไปเที่ยวชมดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย บนยอดภูดังกล่าว และต่างพากันถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ขณะเดียวกัน สถานีอุตินิยมวิทยาศรีสะเกษรายงานสภาพอากาศว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงอีกระลอกจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมถึงประเทศไทยตอนบนแล้ว ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ลมแรง อากาศเย็นถึงหนาว ตามพื้นที่ราบใน จ.ศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่14 องศาเซลเซียส ชาวบ้านที่บ้านกุดโง้ง ต.โพนข่า อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ทนสู้กับความหนาวเย็นไม่ไหวต้องก่อไฟผิงสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย
จากสภาพอากาศดังกล่าว บนยอดภูอุณหภูมิลดลงอีก 2 องศาเซลเซียส ที่จุดชมวิวผามออีแดง อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 11 องศาเซลเซียส ลมแรง มีหมอกบางในตอนเช้า บริเวณหน้าผามออีแดงมีทิวทัศน์ตะวันขึ้นสามแผ่นดินอย่างสวยงาม
อีกด้านหนึ่ง ร.ต.อ.นธีศิริทอง รอง สว.(สอบสวน) สภ.ไชโย จ.อ่างทอง แพทย์ รพ.ไชโย และกู้ภัย เข้าตรวจสอบเหตุพบผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 63-65 หมู่ 1 ต.จระเข้ร้อง อ.ไชโย โดยพบศพ นางรุจี จงไพบูลย์ อายุ 67 ปี สภาพสวมเสื้อกันหนาวแขนยาวสีขาว กางเกงสามส่วนสีดำ นอนเสียชีวิตในสภาพมือเท้าเกร็ง
น.ส.ณัฐพัชร์ ปานเกษม อายุ 59 ปี อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่ดูแลผู้เสียชีวิต ให้การว่า หลังจากเกษียณอายุราชการ ผู้เสียชีวิตเช่าบ้านหลังนี้อาศัยอยู่เพียงลำพัง ไม่มีญาติพี่น้อง ไม่กี่เดือนก่อนได้ล้มป่วยด้วยโรคประจำตัวหลายโรคกลายเป็นอัมพฤกษ์ กระทั่งช่วงเช้า พบว่านอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียง
ด้านนายโสภณ กุลรุ่งโรจน์ กำนัน ต.ไชโย เผยว่า ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ในพื้นที่มีอุณหภูมิลดลงกะทันหัน จู่ๆ ก็มีลมหนาวและลมกระโชกแรง คาดว่าผู้เสียชีวิตซึ่งป่วยอยู่แล้ว ดูแลตัวเองไม่ได้ อาจจะช็อกจนเสียชีวิตจากสภาพอากาศ ซึ่งหลังจากนี้จะส่งศพไปชันสูตร เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี