‘ลำปาง’ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 2 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย-สถานที่เสี่ยง 6 แห่ง
3 มกราคม 2564 ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง พร้อมด้วย นายประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดลำปาง รายใหม่ จำนวน 2 ราย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย ซึ่งเป็นชาวลำปาง 9 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย มีสถานที่เสี่ยงจำนวน 6 แห่ง อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง จังหวัดลำปาง 3 แห่ง
สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 33 ปี เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 1 เมื่อวันที่ 25ธันวาคม 2563 ขับรถพร้อมผู้ป่วยรายที่ 3 ไปรับผู้ป่วยรายที่ 1 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และแวะรับเพื่อนอีก 1 คนที่บ้านย่านสนามกีฬา 700 ปี จากนั้นไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง (21.30-24.00) และไปดื่มนมที่ร้านนมสดในเชียงใหม่ (00.30-01.00) จากนั้นส่งเพื่อนที่บ้านและโรงแรม ในข้างต้น ขับรถกลับลำปางส่งผู้ป่วยรายที่ 3 ที่บ้าน แล้วจึงกลับถึงบ้านในตำบลต้นธงชัย
วันที่ 26 ธันวาคม ขับรถพร้อมผู้ป่วยรายที่ 3 ไปรับเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ย่านสนามกีฬา 700 ปี เพื่อมาร่วมงานแต่งงานที่จังหวัดลำปาง ระหว่างทางแวะทานอาหารที่ร้านอาหารในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ถึงจังหวัดลำปางส่งผู้ป่วยรายที่ 3 และส่งเพื่อนที่บ้าน หลังจากนั้นจึงกลับบ้าน
วันที่ 27 ธันวาคม ไปร่วมงานแต่งงานในช่วงเช้า เวลาประมาณ 11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนอีก 3 คน ช่วงเย็นไปร่วมงานแต่งงาน หลังจากนั้นสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน
วันที่ 28 ธันวาคม ทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลให้ไปตรวจหาเชื้อ ผลเป็นลบ หลังจากนั้นกักแยกตัวเองอยู่ที่บ้านจนถึงวันที่ 2 มกราคม 2564 ขับรถไปตรวจหาเชื้อ COVID 19 ตามแนวทางของเจ้าหน้าที่ ผลตรวจครั้งนี้ ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ผู้ป่วยรายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้านเดียวกันอีก 2 ราย
ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 24 ปี เป็นผู้สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 นั่งรถไปกับผู้ป่วยรายที่ 2 ไปรับผู้ป่วยรายที่ 1 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และแวะรับเพื่อนอีก 1 คนที่บ้านย่านสนามกีฬา 700 ปี จากนั้นไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่ร้านอาหาร และไปดื่มนมที่ร้านนมสดในเชียงใหม่ หลังส่งเพื่อนที่บ้านและโรงแรม จึงกลับลำปางโดยผู้ป่วยรายที่ 2 มาส่งที่บ้าน
วันที่ 26 ธันวาคม นั่งรถไปกับผู้ป่วยรายที่ 3 ไปรับเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อมาร่วมงานแต่งงานที่จังหวัดลำปาง ระหว่างทางแวะทานอาหารที่ร้านอาหารในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากนั้นผู้ป่วยรายที่ 3 มาส่งที่บ้าน
วันที่ 27 ธันวาคม ช่วงเช้าอยู่บ้าน ช่วงเย็นพี่สาวมารับไปเที่ยวบ้านที่ต.ปงแสนทอง หลังจากนั้นจึงกลับบ้าน
วันที่ 28 ธันวาคม ทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลให้ไปตรวจหาเชื้อ ผลเป็นลบ หลังจากนั้นกักแยกตัวเองอยู่ที่บ้านผู้ป่วยรายที่ 3 จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2564 ขับรถไปตรวจหาเชื้อ COVID 19 ตามแนวทางของเจ้าหน้าที่ ผลตรวจครั้งนี้ ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ผู้ป่วยรายนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้านเดียวกัน 4 ราย และบ้านพี่สาว 3 ราย
ทั้งนี้จังหวัดลำปางได้ดำเนินการในเบื้องต้นแล้ว ดังนี้ ทีมสอบสวนโรคได้ทำการสำรวจค้นหา และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำแนกกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทั้งหมด 9 ราย ทุกรายจะได้ตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในวันนี้ โดยจะได้รับการตรวจยืนยันอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ให้แยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัดเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 14 วัน (Home Quarantine) ผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 1 (อีก 18 ราย) ซึ่งได้กักแยกตัวเองที่บ้านตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563 ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซ้ำในวันที่ 2 มกราคม 2564 ผลเป็นลบ ให้ทำการกักแยกตัวเองที่บ้านต่อจนครบ 14 วัน โดยระหว่างนี้จะมีการตรวจหาเชื้อซ้ำต่อเนื่องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
สำหรับผู้สัมผัสซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา 14 วัน (Self Monitoring)ทั้งนี้จะมีการสุ่มเพื่อนำมาตรวจหาเชื้อเชื้อโควิด 19 ในวันนี้ จำนวน 200 คน หลังจากนั้นจะตรวจอีกต่อเนื่องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ได้แจ้งให้ ทีมสอบสวนโรคที่จังหวัดเชียงใหม่รับทราบเพื่อดำเนินการควบคุมโรคในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เทศบาลตำบล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์เสียงตามสายในหมู่บ้านในเรื่อง “การเฝ้าระวังและการปฏิบัติดูแลตนเอง” เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 แนะนำผู้สัมผัสให้ป้องกันตนเองและผู้ใกล้ชิด โดยสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆด้วยน้ำกับสบู่ หรือ แอลกอฮอล์เจล และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่สาธารณะ/ชุมชน และสังเกตอาการตัวเอง หากมีอุณหภูมิร่างกายตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป ร่วมกับมีอาการทางเดินหายใจอย่างใดอย่างหนึ่ง (ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก) ให้รีบพบเจ้าหน้าที่เพื่อเข้ารับการตรวจทันที ติดตามเยี่ยมบ้านผู้ป่วยทุกวันร่วมกับค้นหาผู้ที่มีอาการป่วยเพิ่มเติมในชุมชนโดยภาคีเครือข่าย ผู้นำชุมชน ฝ่ายปกครอง อาสาสมัครสาธารณสุข โรงพยาบาล สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี