ยอดดับพุ่ง316ศพ
สังเวย5วันฉลองเทศกาลปีใหม่
บาดเจ็บ-อุบัติเหตุจ่อแตะ3พัน
สาเหตุ‘เมาแล้วขับ-ขับรถเร็ว’
เชียงใหม่-โคราชสูญเสียสูงสุด
ตร.ดำเนินคดีทะลุ1.17แสนราย
5 วันปีใหม่ เสียชีวิตแล้ว 316 ศพ ยอดบาดเจ็บ-อุบัติเหตุอื้อใกล้แตะ 3 พันราย สาเหตุหลัก “ดื่มแล้วขับ-ขับรถเร็ว”มี 9 จังหวัดไร้ผู้เสียชีวิต “เชียงใหม่” อุบัติเหตุมากที่สุด เกือบร้อยครั้ง“โคราช” แชมป์เสียชีวิต 16 ศพ มีผู้ถูกดำเนินคดีทะลุ 1.17แสนราย ด้าน “ศปถ.” สั่งดูแลเข้มเดินทางกลับ-รถหนาแน่น
เมื่อวันที่ 3 มกราคม ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
พ.ศ. 2564 ว่าศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน(ศปถ.)ช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และความร่วมมือของหน่วยงานภาคีเครือข่ายได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2ม.ค.2564ซึ่งเป็นวันที่5ของการรณรงค์“ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เกิดอุบัติเหตุ 383 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 384 คน
5วันปีใหม่เสียชีวิดแล้ว316ศพ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.29 ขับรถเร็ว ร้อยละ28.98 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.85 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ67.10 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ38.38 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ37.86 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01–20.00 น.ร้อยละ33.94 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุด อยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป ร้อยละ30.84
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,930 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,655 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 529,869 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 117,106 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,305 ราย ไม่มีใบขับขี่ 28,884 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด (20 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงราย เชียงใหม่ (จังหวัดละ 3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด (21 คน)
“สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5วันของการรณรงค์(29ธ.ค.63–2ม.ค.64)เกิดอุบัติเหตุรวม 2,748ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 316 ราย ผู้บาดเจ็บรวม 2,741 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต(ตายเป็นศูนย์)มี 9 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงใหม่ (97 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา(16ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ (99 คน)”ปลัดกระทรวงคมนาคม ย้ำ
เน้นจุดตรวจสายหลัก-สายรอง
นายชยธรรม์กล่าวว่าวันนี้เป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลปีใหม่ คาดว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเดินทางกลับเป็นจำนวนมากทำให้เส้นทางสายหลักจากภูมิภาคต่างๆที่มุ่งเข้าสู่กรุงเทพมหานคร และเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัด มีปริมาณรถหนาแน่นและบางเส้นทางอาจมีการจราจรติดขัด ประกอบกับผู้ขับขี่อาจมีอาการอ่อนล้าจากเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จึงทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุง่วงหลับใน ศปถ.จึงได้กำชับให้จังหวัดเพิ่มความเข้มข้นในการปฏิบัติงานของจุดตรวจ บนเส้นทาง สายหลัก ถนนสายรอง เส้นทางลัด และเส้นทางเลี่ยงเมือง โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด คุมเข้มพฤติกรรมเสี่ยงขับรถเร็ว รวมถึงเรียกตรวจเพื่อประเมินความพร้อมของผู้ขับขี่ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุง่วงหลับใน
นอกจากนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับของประชาชน ทั้งความพร้อมด้านรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยและแนวทางการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ(COVID-19) อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลประชาชนที่ใช้บริการสาธารณะให้เดินทางกลับอย่างปลอดภัยและไม่ให้มีผู้โดยสารตกค้าง
มท.กำชับกวดขันด่านชุมชน
ด้านนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง กล่าวว่า ศปถ.ได้เน้นย้ำให้ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดใช้กลไกของด่านชุมชน จุดสกัด และด่านตรวจในพื้นที่ระหว่างอำเภอ ชุมชน หมู่บ้าน เข้มข้นการปฏิบัติเพื่อรองรับการเดินทางของประชาชน โดยให้ทุกภาคส่วนยังคงเฝ้าระวังและป้องกันพฤติกรรมเสี่ยง เน้นการกวดขันการขับรถเร็ว การดื่มแล้วขับ และการไม่ใช้อุปกรณ์นิรภัย เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
สั่งคุมกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
ขณะที่นายนายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.)ในฐานะ เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน(ศปถ.)กล่าวเผยว่า ในวันนี้บางเส้นทางอาจมีการจราจรคับคั่งและใช้ระยะเวลาในการเดินทางนาน จึงขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด มีน้ำใจกับผู้ร่วมใช้เส้นทาง ไม่ขับรถเร็ว ง่วงไม่ขับ หยุดพักรถเมื่อมีอาการเมื่อยล้าหรือง่วงนอน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่ปฏิบัติหน้าที่สร้างความปลอดภัยบนเส้นทางสายต่าง ๆ เพื่อให้เดินทางถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
บขส.โคราชขึ้นปีใหม่ไม่คึกคัก
ที่ จ.นครราชสีมา ช่วงเช้าผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ประชาชนยังทยอยเดินทางไปซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครกันอย่างต่อเนื่องแต่ไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกปี คาดสาเหตุเพราะคนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยงการเดินทางร่วมกับคนหมู่มาก กลัวการระบาดของเชื้อโควิด-19ซึ่งผู้ประกอบการรถโดยสารทุกราย บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เทศกาลปีใหม่ปีนี้ คนเดินทางน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมามาก เป็นเพราะกลัวโควิดจึงงดการเดินทางโดยใช้รถโดยสาร
คนทุกภาคแห่เดินทางเข้ากทม.
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ ช่วงผ่าน จ.นครราชสีมา เดินทางมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ได้มีประชาชนยังคงเดินทางเข้ากรุงเทพฯอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นสะสมมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตำรวจทางหลวงยังต้องเปิดช่องทางพิเศษบนถนนมิตรภาพเป็นระยะเพื่อระบายปริมาณรถที่สะสม
โดยได้เปิดช่องทางพิเศษช่วงหลักกิโลเมตรที่208-204 ระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตร เขตอำเภอคง และเปิดช่องทางพิเศษช่วงหลักกิโลเมตรที่36-31 ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เขตรอยต่อระหว่าง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กับ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรีเนื่องจากถนนมิตรภาพมีปริมาณรถหนาแน่นเต็มทุกช่องจราจร ขณะที่ถนนมิตรภาพช่วงอื่นๆยังพอเคลื่อนตัวได้ดี คาดว่าสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพ จะมีปริมาณหนาแน่นต่อเนื่องไปตลอดทั้งวัน เพราะเป็นวันหยุดส่งท้ายเทศกาลปีใหม่ เพื่อจะกลับไปทำงานตามปกติวันจันทร์นี้
ขณะที่การเดินทางในเส้นทางถนนสายพหลโยธิน จากตัวเมืองสระบุรี มุ่งสู่กรุงเทพฯ ตำรวจทางหลวงหินกอง จ.สระบุรี ได้เปิดช่องทางพิเศษช่วงที่ 1 จากหลัก กม.ที่ 92-87 หากมีรถเพิ่มปริมาณมาก ช่วงที่ 2 ก็จะเปิดเส้นทางจากหลัก กม.ที่ 99 เขต อ.หนองแค ถึง กม.ที่ 74 อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจะเปิดรวม 6 เลน วิ่งสวนเข้ากรุงเทพฯ ซึ่งรถที่จะเข้ามา จ.สระบุรี จะมีการบังคับใช้เส้นทางคู่ขนาน
สภาพการจราจรบริเวณทางหลวงหมายเลข 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก เส้นทางหลักพหลโยธิน มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ ปริมาณรถเต็มพื้นผิวการจราจร ส่งผลให้สภาพจราจรติดขัดสลับหยุดนิ่ง รถใช้ความเร็วไม่ได้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ต้องคอยอำนวยความสะดวกตามจุดกลับรถต่างๆ เพื่อระบายรถให้คล่องตัวขึ้น
ส่วนถนนเพชรเกษม รองรับรถที่มาจากภาคใต้ การจราจรคล่องตัว ไม่มีปัญหาติดขัดแต่อย่างใด เช่นเดียวกับภาคตะวันออก ถนนมอเตอร์เวย์ รถน้อย คล่องตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี