เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 14 มกราคม 2564 พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.วิญญู แจ่มใส รอง ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก รอง ผกก.2 บก.ป. , พ.ต.ท.สุรเชษฐ เดชะพันธุ์ รอง ผกก.3 บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม 60 นาย นำหมายค้นศาลแขวงนนทบุรี ที่ 4/64 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 14/11 หมู่ 6 ถนนกาญจนาภิเษก ต.บางรักพัฒนา อ.บาวบัวทอง จ.นนทบุรี หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวแอบลักลอบเปิดเป็นบ่อนเล่นการพนัน มีนักพนันทั้งคนไทยและต่างชาติเล่นการพนัน
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านหรู 2 ชั้น เนื้อที่ ประมาณ 1 ไร่ มีรั่วรอบขอบชิดสูง 3 เมตร ในบ้านมีรถยนต์จอดเกือบ 10 คัน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังปิดล้อมไว้ ก่อนบุกเข้าไปในบ้านพบนักพนันกำลังสุมหัวเล่นการพนันกันโดยไม่สนใจโรคโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ พอเห็นเจ้าหน้าตำรวจต่างพยายามจะหลบหนี แต่ไม่สามารถหลบหนีไปได้แม้แต่คนเดียว
จากการตรวจสอบชั้นล่างพบโต๊ะพนันเสือมังกร 2 โต๊ะ ไพ่ 365 สำรับ นักพนัน 40 คน เป็นชาวกัมพูชา 7 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 6 คน เป็นหญิงชาวจีน 2 คน คนไทย 31 เป็นชาย 9 หญิง 22 คน รวมทั้งหมด 40
ตรวจยึดของกลางหลายรายการ ประกอบด้วย โต๊ะเสือมังกร 2 ตัว ผ้าปูเสือมังกร 2 ผืน ไพ่ 365 สำรับ ชิพแลกเงิน ราคา 1,000 บาท จำนวน 50 เหรียญ ชิปแลกเงิน ราคา 500 บาท จำนวน 57 เหรียญ ชิปแลกเงิน ราคา 100 บาท จำนวน 50 เหรียญ ชิปแลกเงินบรรจุเเท่งราคาเหรียญละ 10,000 บาท จำนวน 50 เหรียญ รวมมูลค่าชิปมูลค่า 1,158,500 บาท เงินสด 10,040 บาท จากการสังเกตพบว่าบ่อนดังกล่าวเป็นบ่อนขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์การเล่นการพนันครบ นอกจากนี้ ยังมีอาหารเครื่องดื่มไว้คอยให้บริการนักพนันอีกด้วย
สอบสวน นางสมจิตร หรือเจ๊นาง หินเกิด อายุ 40 ปี รับเป็นเจ้าของบ่อน ให้การอ้างว่า ตนมาเช่าบ้านหลังดังกล่าวได้ 3 วัน ราคา 30,000 บาท เพื่อเปิดบ่อนเสือมังกร แต่เปิดได้เพียง 2 วัน ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าจจับกุมเสียก่อน
พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป.กล่าวว่า ทางผู้บังคับบัญชามีนโยบายกวดขันจับกุมผู้ลักลอบเล่นการพนันเนื่องจากช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดปัญหาเรื่องบ่อนการพนัน และเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้การแพร่ระบาดเพิ่มมากยิ่งขึ้น ผู้บัญชาสั่งการให้จับกุมหากมีการลักลอบเล่นการพนัน ซึ่งทางกองปราบได้รับคำสั่งมาเช่นกัน จึงได้สืบสวนจนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีการลักลอบเล่นการพนันเสือ มังกร และมีผู้ลักลอบเล่นเป็นจำนวนมาก ทั้งยังมีต่างด้าว ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอยู่ในบ่อนด้วย จึงวางแผนจับกุม
พ.ต.อ.บุญลือ กล่าวอีกว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าเป็นบ่อนวิ่ง โดยจะย้ายไปเรื่อยๆ แต่ว่าสมาชิกส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มเดิม หากสมาชิกใหม่จะเข้ามาเล่นต้องมีคนเก่าพาเข้ามาถึงจะเข้าได้ ส่วนเงินสดหมุนเวียนแค่หลักหมื่น แต่ว่าต้องขยายผล เพราะชิปแลกเงินมีเป็นจำนวนมาก ผู้เข้าเล่นจะต้องมีเงินสดมาแสดง จึงจะสามารถเข้าเล่นได้ หลังจากจะคนตัวส่ง สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ทางผู้บัญชาสั่งการให้ขยายผลให้ถึงเจ้าของที่แท้จริง และตรวจสอบเงินหมุนเวียนที่แน่นอน ขยายผลความผิดที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนเรื่อการคัดกรองทางกลุ่มผู้จัดให้เล่น ได้มีการคัดกรองกันเอง แต่ว่าเราก็ต้องเรียกเจ้าหน้าที่สาธารสุขมาตรวจคัดกรองอีกครั้งนึง เพราะว่าเป็นที่ชุมนุมและมีต่างด้าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนางสมจิตร เพราะพบว่าบ่อนดังกล่าวมีชิปแลกเปลี่ยนเงินสดเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบว่ามีนักพนันทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสับเปลี่ยนเข้ามาเล่นที่บ่อนดังกล่าวตลอดเวลา หลังจากนี้จะทำการสอบสวนนักพนันทั้งหมด ร่วมถึงตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางสมจิตร ว่าใช่เจ้าของบ่อนตัวจริงหรือไม่ ก่อนจะควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดขึ้นรถควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดี โดยกล่าวหาว่ามีความผิดฐาน "ร่วมกับพวกร่วมกันลักลอบเล่นการพนันไพ่เสือมังกร (ไพ่สามใบ) พนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต , ฝ่าฝืนคำสั่งจังหวัดคำสั่งจังหวัดนนทบุรีที่ 3780/2563 เรื่องการปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีชั่วคราว , ฝ่าฝืนข้อกำหนดการออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ข้อ 3 การปราบปรามและการลงโทษผู้กระทำผิดอันเป็นเหตุให้เกิดการระบาดของโรค" นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี