หนุ่มบาร์น้ำท่าข้ามตายอีกราย
สังเวย‘เคนมผง’
โยงกลุ่ม‘อ่อนนุช30’
แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์
เร่งหาสาเหตุให้แน่ชัด
ตายอีก 1 ศพ หนุ่มบาร์น้ำผับย่านท่าข้าม นอนเสียชีวิตกลางห้องพัก ตำรวจ สน.บางขุนเทียน เร่งสอบความเชื่อมโยงกับ “เคนมผง”
เมื่อเช้าวันที่ 16 มกราคม ตำรวจ สน.บางขุนเทียน รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในห้องพักแห่งหนึ่ง ถนนเอกชัย ซอย 32 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม. ตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูที่เกิดเหตุเป็นคอนโดมิเนียมสูง 7 ชั้น จากการตรวจสอบในห้องดังกล่าว พบศพนายธนากร หรือไม้ อายุ 23 ปี ผู้เช่า นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นใกล้เตียงนอนสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ปากเขียวซีด ตามร่างกายไม่พบบาดแผลแต่อย่างใด จากการสอบสวนเพื่อนๆ ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมเดียวกันให้ข้อมูลว่า นายธนากร เป็นพนักงานบาร์น้ำอยู่ที่ผับแห่งหนึ่งย่านท่าข้าม ปัจจุบันเช่าห้องอยู่กับแฟนสาว ก่อนเกิดเหตุวันที่ 15 มกราคม เจ้าตัวเดินทางไปเยี่ยมเพื่อน ซึ่งเสพยาเคนมผงเกินขนาดจนได้รับบาดเจ็บที่บ้านในซอยอ่อนนุช 30
จากนั้นพอช่วงเย็นก็เดินทางกลับมาที่คอนโดฯ แต่กลับมาถึงในสภาพสะลึมสะลือร่างกายอ่อนแรงเหมือนคนไม่มีสติ จน รปภ.ของคอนโดฯ ต้องช่วยพยุงร่างขึ้นมาที่ห้องเพื่อนอนพักผ่อน กระทั่งแฟนสาวของผู้ตายพบว่ามีอาการหยุดหายใจเสียชีวิตคาที่นอนไปแล้วในช่วงเช้ามืดวันนี้ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะมอบร่างให้แพทย์ทำการผ่าชันสูตรหาสารเสพติดเเละสาเหตุการตาย ก่อนสรุปสำนวนรายงานผู้บังคับบัญชาต่อไปว่าเกี่ยวข้องกับยาเคนมผงหรือไม่ต่อไป
ก่อนหน้านี้ รศ.นพ.สัมมน โฉมฉาย อาจารย์ประจำสาขาวิชาพิษวิทยา อาชีวเวชศาสตร์ และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อม ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะหัวหน้าฝ่ายแพทย์ศูนย์พิษวิทยาศิริราช กล่าวถึงกรณีมีวัยรุ่นเสียชีวิตจากการเสพยา”เคนมผง”ว่า ยาเค คือ สารเคตามีนที่ทางการแพทย์ใช้เป็นยาระงับความรู้สึกในการผ่าตัด แต่พบว่ามีการใช้สารนึ้เป็นสารเสพติดโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ไปตามสถานบันเทิงและร้านอาหารตอนกลางคืน
แต่ในช่วง 1 สัปดาห์หลังปีใหม่ที่ผ่านมา ได้มีรายงานข่าวการใช้สารนี้ สูดดมยาทางจมูกแล้ว มีอาการรุนแรงทำให้หมดสติเฉียบพลัน ซึ่งกรณีนี้ทางการแพทย์ไม่เคยพบมาก่อน จึงคาดว่ายาเคที่ใช้อาจเป็นสูตรใหม่ผสมสารหลายอย่าง ซึ่งจากการตรวจวิเคราะห์เบื้องต้นจากตัวอย่างยาของคนไข้ พบสิ่งที่ใกล้เคียงกับการรายงานข่าว โดยตรวจพบส่วนประกอบ ได้แก่ สารเคตามีน เฮโรอีน และยานอนหลับกลุ่มสารเบ็นโซไดอาเซพีน (Benzodiazepine) ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบและยืนยันกันต่อไป
รศ.นพ.สัมมน กล่าวว่า สำหรับยาเคนมผง เป็นสารเสพติดชนิดใหม่จะทำให้มีอาการตั้งแต่หายใจลำบาก ใจสั่นมาก ชัก และหมดสติได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานผลข้างเคียงจากการเสพยาเคในฮ่องกง ไต้หวัน และจีน โดยทำให้มีความผิดปกติในระบบทางเดินปัสสาวะ ส่งผลให้ผู้ที่เสพมีปัญหาเรื่องกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ กระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง โดยพบเด็กวัยรุ่นฮ่องกงจำนวนมากที่อายุเพียง 20 ปีที่มีประวัติการใช้ยานี้ ต้องใส่ผ้าอ้อมไปตลอดชีวิต เนื่องจากกลั้นปัสสาวะไม่ได้ ถ้าจะรักษาจำเป็นจะต้องผ่าตัดใหญ่เพื่อซ่อมแซมทางเดินปัสสาวะโดยเอาลำไส้ใหญ่มาซ่อม ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มาก เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาศูนย์พิษวิทยาศิริราชได้รับบริการปรึกษากับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วย และให้การรักษาเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวโดยคาดว่าจะมีมากขึ้น ๆ
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลจึงต้องการเตือนถึงผลเสียต่อสุขภาพจากการเสพยาเคนมผงสำหรับผู้ที่เสพยาชนิดนี้ ควรทราบถึงอันตรายที่เกิดขึ้น และควรเลิกเสพ หากมีอาการผิดปกติต่าง ๆ เหล่านี้ ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็ว หรือเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินมารับ ไม่ควรรอหรือรักษากันเอง เพราะอาจเสียชีวิตได้และไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที หากประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์มีข้อสงสัย สามารถรับคำปรึกษาได้ที่ ศูนย์พิษวิทยาศิริราช โทร. 0 2419 7007 (ตลอด 24 ชั่วโมง) ซึ่งทางศูนย์ฯ มีประสบการณ์ในการดูแลคนไข้กลุ่มนี้ และมีห้องปฏิบัติการที่สามารถตรวจพิสูจน์ได้ว่า สิ่งที่คนไข้ได้รับเข้าร่างกายคือสารอะไร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี