ที่มูลนิธิแสนคม อุทิศธรรม เลขที่ 5 ซ.พิศาลสุข ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายวิโรจน์ ขวัญเกื้อ ประธานมูลนิธิ พร้อมด้วย นายธนา รุ่งนิรันดรกุล ที่ปรึกษาและคณะกรรมการ รวมไปถึงพุทธศาสนิกชนจำนวนหนึ่ง ได้พร้อมใจร่วมกันประกอบพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ระดมทุนรายได้ปัจจัย ถวายให้กับวัดที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำท่วมใหญ่เมื่อช่วงต้นเดือน ธ.ค.2563
ที่ผ่านมา 10 แห่ง ประกอบด้วย วัดศรีสมบูรณ์ (วัดหอยราก)ปากพนังฝั่งตะวันตก วัดป่าระกำใต้ (วัดบน) ต.ป่าระกำวัดสุขุม,วัดปิยราม ต.คลองกระบือ วัดเทพสิทธิ์ธาราราม (วัดบางหมัน),วัดหมก,วัดบางคุระ,วัดบางไทร ต.บ้านใหม่ วัดโบสถ์ธาราวดี ต.เกาะทวด อ.ปากพนัง และ วัดปากลง ต.กรงชิงอ.นบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อนำไปบูรณะซ่อมแซมศาสนสถาน และสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดวาอาราม ที่ได้รับความเสียหาย ให้กลับคืนสู่สภาพเดิม แห่งละ 2-4 หมื่นบาท ตามสภาพหลังลงพื้นที่สำรวจ เพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
โดยในพิธีได้มีการบริกรรมคาถา สวดเสกน้ำมนต์ และวัตถุมงคลต่างๆ ที่ชาวบ้านเชื่อถือศรัทธา และเคารพกราบไหว้บูชา อย่าง “หัวนะโม”,“ไอ้ไข่” รุ่นป้องกันภัยสิบทิศ รวมถึงพระพุทธสิหิงค์ และของบูชาอื่นๆ จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดจำนวน 10 รูป พร้อมสวดส่งขจัดปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงเพิ่มพลัง ป้องกันโรคภัยให้กับผู้ร่วมพิธี และคนไทยทั้งประเทศ เพื่อให้รอดพ้นจากไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้ ตามความเชื่อของชาวพุทธ และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้ร่วมพิธีซึ่งวัตถุมงคลที่ผ่านบริกรรมคาถา ได้แจกจ่ายให้ผู้ร่วมพิธีรวมถึงเปิดให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาได้มีโอกาสนำไปบูชา โดยการร่วมกันบริจาคเงินปัจจัยตามพลังศรัทธา เพื่อรวบรวมทุนทรัพย์นำไปถวายให้วัดตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว
นายวิโรจน์ กล่าวถึงความศรัทธาของพี่น้องชาวใต้ ที่มีความเชื่อใน หัวนะโม หรือหัวนอโม ซึ่งเป็นวัตถุมงคลที่มีความศักดิ์สิทธิ์ด้านปกปักรักษาโรคร้ายให้รอดพ้นและหายไปจากตัวและบ้านเมืองได้ เนื่องจากในอดีตเมื่อ 100 ปีก่อน ในช่วงยุคที่มีการแพร่ระบาดของโรคที่ชื่อว่า “โรคห่า” เกิดขึ้น หรือที่เรียกกันว่า “จับกินตับ” ซึ่งเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายได้ เกิดแพร่ระบาดไปทั่ว ส่งผลให้มีผู้คนเจ็บป่วยล้มตายกันนับหมื่นคนทั่วโลกกว่า 8 หมื่นคน ภายใน 7 วัน ประเทศบ้านเราครั้งนั้น พระเจ้าศรีธรรมโศกราช ทรงจัดนิมนต์พระสงฆ์สวดเสกสร้างหัวนะโมขึ้น เพื่อใช้ปราบโรคห่าที่ระบาดอยู่อย่างหนัก โดยนำหัวนะโมแช่ในน้ำมนต์พร้อมบริกรรมคาถา ไปแจกจ่ายให้ชาวบ้าน นำไปประพรม ดื่มกินใส่แหล่งน้ำ ชำระร่างกาย เพื่อขับไล่สิ่งชั่วร้าย ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บ เพิ่มพลังศรัทธาในตัวให้เกิดความเข้มแข็งเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้ต่อสู้กับโรคร้ายจนอยู่รอดปลอดภัย อย่างได้ผล ตามความเชื่อและศรัทธามาจนถึงปัจจุบัน สำหรับหัวนะโม คือ ภาษาคำบูชาพระพุทธเจ้า คือ นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
หลังเสร็จสิ้นพิธีตนเองจึงอยากส่งมอบน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์นี้ให้กับคนไทยในทุกภูมิภาค ที่มีความเลื่อมใสศรัทธา กำลังเกิดความหวาดกลัวกังวลใจกับไวรัสโควิด-19 ที่แพร่ระบาดอยู่นี้ เพื่อนำไปดื่มกิน ชำระร่างกาย ขจัดปัดเป่าโรคร้าย ให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจด้วยการนำไปบูชา ควบคู่กับการป้องกันทางยา พร้อมรักษามาตรฐานการป้องกันจากทางการ ภยันอันตรายใดก็จะผ่านพ้นไปในที่สุด ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อขอรับได้ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ พร้อมจัดส่งถึงบ้านซึ่งจำนวนมีจำกัด เพียง 2,564 ขวด ตามปี พ.ศ.เท่านั้น และหากผู้มีจิตศรัทธาต้องการจะบริจาคเงินปัจจัยส่วนตัวตามกำลัง เพื่อร่วมบุญสร้างกุศล สมทบทุนถวายให้กับวัดอีกหลายแห่งทั่วทั้งจังหวัด ที่ยังคงขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อนำไปบูรณะซ่อมแซมศาสนสถานที่พังเสียหายจากเหตุน้ำท่วมดังกล่าว ก็สามารถติดต่อสอบถามและสั่งจองน้ำมนต์ หรือวัตถุมงคลซึ่งได้ทำขึ้นมาให้ไว้บูชาในราคาต้นทุนการผลิต ไม่ได้เป็นการแสวงหาผลกำไรในด้านการค้า แต่อย่างใด แต่เพื่อนำรายได้ไปช่วยเหลือวัดวาอารามที่ได้รับความเสียหายจากเหตุน้ำท่วมที่ผ่านมาดังกล่าว ซึ่งสามารถติดต่อได้โดยตรงที่นายวิโรจน์ ขวัญเกื้อ โทร./ไลน์ 081-9790807,063-5860800 พร้อมบริการจัดส่งถึงบ้าน ซึ่งทางมูลนิธิจะจัดส่งวัตถุมงคลให้ไปเป็นที่ระลึกเพื่อนำไปบูชา โดยเฉพาะ “ไอ้ไข่” รุ่นป้องกันภัยสิบทิศ และ “หัวนะโม” ไว้ไปป้องกันไวรัสโควิด-19 นายวิโรจน์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี