นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เป็นหนึ่งในพื้นที่แห้งแล้งทุรกันดารมากที่สุดของประเทศไทย เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเขตเงาฝน ทำให้แต่ละปีมีฝนตกมาน้อยกว่า 800 มิลลิเมตรต่อปี
อีกทั้งพื้นดินส่วนใหญ่เป็นดินทราย พอฝนตกลงมาน้ำก็จะไหลซึมลงดินเกือบทั้งหมด ทำให้ไม่มีแหล่งน้ำตามธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ลำห้วย ในพื้นที่เลย ลักษณะเช่นนี้ส่งผลให้พี่น้องชาวอำเภอห้วยกระเจา ประสบปัญหาภัยแล้งเป็นประจำทุกปี บางปีแล้งนานติดต่อกันถึง 10 เดือน ชาวบ้านจึงมีความเดือดร้อนเรื่องน้ำเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องน้ำกินน้ำใช้ และน้ำเพื่อการเพาะปลูก จนมีคนขนานนามว่าอำเภอห้วยกระเจา คือดินแดนอีสานของภาคตะวันตก ต่อมาชาวบ้านจึงได้รวมตัวกัน ร้องขอความช่วยเหลือด้านน้ำอุปโภค-บริโภค ผ่านหน่วยงานท้องถิ่น ทั้งเทศบาลและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มายังกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในอำเภอห้วยกระเจา
ในการนี้ ตนจึงได้มอบหมายให้นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผู้อำนวยการสำนักสำรวจและประเมินศัยกภาพน้ำบาดาล จัดทีมงานเร่งเข้าดำเนินการ โดยมอบหมายให้น.ส.อัคปศร อัคราช ผู้อำนวยการส่วนวิจัยและพัฒนางานสำรวจน้ำบาดาล พร้อมทีมงานลงพื้นที่สำรวจน้ำบาดาลในทันที
จากการเตรียมข้อมูลพบว่า พื้นที่อำเภอห้วยกระเจาเป็นพื้นที่หาน้ำบาดาลยากหรือพื้นที่สีแดง ข้อมูลเดิมไม่พบการเจาะและพัฒนาน้ำบาดาลใช้มากนัก ส่วนใหญ่จะเจาะตื้นๆ และปริมาณน้ำบาดาลค่อนข้างต่ำกว่า2 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง อีกทั้งชั้นหินส่วนใหญ่เป็นหินแข็ง จำพวกหินแปร และหินอัคนี จึงทำให้เจาะยาก
แต่จากการลงพื้นที่สำรวจในภาคสนามอย่างเข้มข้นเป็นเวลากว่าหนึ่งสัปดาห์ สามารถสำรวจพบแนวรอยแตกที่ซ่อนอยู่ข้างล่าง ในชั้นหินแปร จำพวกหินควอร์ตไซต์ ซึ่งแนวรอยแตกดังกล่าว มีโครงสร้างคล้ายเส้นท่อขนาดใหญ่ที่ไขว้กันไป-มา ในหลายระดับความลึกและมีความกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร ยาวมากกว่า 25 กิโลเมตร
นอกจากนี้ได้ทำการสำรวจธรณีฟิสิกส์ โดยวิธีการวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าจำเพาะ (Resistivity survey) พบว่าแนวรอยแตกดังกล่าวมีหลายระดับตั้งแต่ 30, 50, 70, 90, 120, 175 และมากกว่า 250 เมตร ตามลำดับ ผลการคำนวณหาปริมาณการกักเก็บของแหล่งน้ำบาดาล ในอำเภอห้วยกระเจา พบว่า มีปริมาณน้ำบาดาลกักเก็บมากกว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งหากมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบจะสามารถนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในการอุปโภค-บริโภค และเพื่อการเกษตรอย่างพอเพียง
นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวต่อว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะได้ร่วมกับท้องถิ่นในการพัฒนาน้ำบาดาลที่ค้นพบขึ้นมาใช้แก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนเขตตัวอำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี โดยจะเน้นด้านน้ำกินน้ำใช้อย่างเร่งด่วนที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่มีอยู่กว่า 1,300 ครัวเรือน หรือกว่า 5,000 คนจะได้มีน้ำสะอาดไว้กินไว้ใช้อย่างเพียงพอและทั่วถึงทุกครัวเรือนให้ทันในหน้าแล้งที่จะถึงนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี