นางกุลฤดี พัฒนะอิ่ม รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเปิดเผยว่า จากสถานการณ์พายุฝนที่ตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลาก ปริมาณน้ำล้นตลิ่งและสูงขึ้นต่อเนื่องไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนในภาคใต้ ช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา ไม่เพียงทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมเฉพาะที่จ.นครศรีธรรมราชเท่านั้น แต่ยังส่งผลให้มีน้ำท่วมอีกหลายจังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี พัทลุง ตรัง สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส เป็นต้น ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ห่วงใยเกษตรกรในภาคใต้ จึงสั่งการให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรฯ ติดตามสถานการณ์ และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคใต้อย่างเร่งด่วน
โดยกรมส่งเสริมการเกษตรมอบหมายเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ทั้งสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 5 จังหวัดสงขลา สำนักงานเกษตรจังหวัด และสำนักงานเกษตรอำเภอออกสำรวจพืชและพื้นที่เกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยดังกล่าว รวมถึงสนับสนุนพันธุ์พืชผักเพื่อสร้างแหล่งอาหารภายในครัวเรือนและสร้างรายได้หลังน้ำลด ตลอดจนสนับสนุนปัจจัยการผลิตอื่นๆ เพื่อใช้ในการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ บรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่เกษตรกร พร้อมให้คำแนะนำ ฟื้นฟู การดูแลรักษาพืชแก่เกษตรกรโดยเฉพาะสวนไม้ผลในช่วงฤดูฝนที่เกิดน้ำท่วมขัง จนกระทั่งหลังน้ำลดให้กลับคืนสู่สภาวะเดิมโดยเร็ว โดย
1. จัดการสวนไม้ผลควรตัดแต่งกิ่งที่อาจหักได้ง่าย เพราะหากปล่อยให้มีกิ่งก้านหนาทึบเกินไป จะทำให้กิ่งไม้หักหล่นลงมาสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินบ้านเรือนหรือร่างกายได้ 2. การจัดการสวนไม้ผลระหว่างน้ำท่วมขัง ควรเร่งระบายน้ำออกจากสวนไม้ผลเพื่อกู้สวน การเสริมคันดินรอบสวนให้มีความสูงและความแข็งแรง สามารถป้องกันและต้านทานน้ำจากภายนอกที่อาจท่วมล้นเข้าสวนได้ โดยให้ยกขอบแปลงเป็นคันดินสูงกว่าระดับน้ำที่เคยท่วมไม่ต่ำกว่า 50 เซนติเมตร
3.พยุงต้นไม้ผลที่เอนหรือล้ม ไม้ผลแต่ละชนิดมีความทนทานต่อน้ำท่วมขังต่างกัน หากน้ำท่วมขังเป็นเวลานานจะล้มได้ง่าย เนื่องจากพื้นดินอ่อนตัว สำหรับต้นไม้ที่อยู่ใกล้บริเวณทางน้ำไหล ดินอาจถูกน้ำกัดเซาะออกไปได้ ส่วนต้นไม้ขนาดใหญ่เมื่อถูกน้ำท่วมขังนาน รากจะเน่าเพราะไม่มีอากาศหายใจและมีเชื้อโรคเข้าทำลาย 4. การจัดการสวนไม้ผลหลังน้ำลดตัดแต่งกิ่งพร้อมกับการฟื้นฟูความสมบูรณ์ให้แก่ต้น เมื่อดินเริ่มแห้ง ตัดแต่งกิ่ง เอาใบแก่ กิ่งที่ฉีกหัก เหี่ยวเฉา และกิ่งที่อยู่ภายในทรงพุ่มไม่ได้รับแสงแดดออก และตัดกิ่งขนาดใหญ่ออกบ้างเพื่อลดแรงปะทะจากลมให้ทรงพุ่มโปร่ง ลดการคายน้ำของพืช และเร่งให้พืชแตกใบใหม่เร็วขึ้น
นอกจากนี้ ควรช่วยให้ไม้ผลฟื้นตัวเร็วขึ้นด้วยการฉีดพ่นปุ๋ยทางใบ เนื่องจากระบบรากยังไม่สามารถดูดน้ำและธาตุอาหารจากดินได้ตามปกติ อาจใช้ปุ๋ยน้ำสูตร 12-12-12 หรือ 12-9-6 หรือปุ๋ยเกล็ดสูตร 21-21-21หรือ 16-21-27 ละลายน้ำฉีดพ่น สวนไม้ผลที่ถูกน้ำท่วมนานหลังน้ำลดมักเกิดปัญหาโรครากเน่า โคนเน่า ควรป้องกันรักษาด้วยการราด หรือทาโคนต้นด้วยสารเคมีป้องกันเชื้อรา หรือใช้สารชีวภัณฑ์ เช่น ไตรโคเดอร์มาหรือปรับปรุงสภาพดินด้วยการโรยปูนขาว หรือโดโลไมท์
สำหรับพื้นที่ใดประกาศเขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (กรณีเหตุอุทกภัย) จะได้รับการช่วยเหลือภายใน 90 วัน โดยยึดหลักตามระเบียบกระทรวงการคลัง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี