นายไพฑูรย์ สีลาพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 9 สงขลา (สศท.9) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์ระบาดของโรคใบร่วงยางพาราที่เกิดจากเชื้อรา Colletotrichum sp. ที่พบระบาดใน 14 จังหวัดภาคใต้ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่มีพื้นที่การระบาดมากที่สุด 4 อันดับแรก เป็นเขตภาคใต้ตอนล่าง ได้แก่ นราธิวาส ยะลา สงขลา และปัตตานี พบการระบาดและสร้างความเสียหายมากที่สุดในจังหวัดนราธิวาส เนื้อที่เสียหายรวม 758,670 ไร่ หรือร้อยละ 94 ซึ่งการยางแห่งประเทศไทยสาขาจังหวัดนราธิวาส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ได้ดำเนินการแก้ไขพร้อมเข้าช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางอย่างเร่งด่วน
สศท. 9 ได้ร่วมลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคอย่างต่อเนื่องในพื้นที่จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 24-26 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่า จ.นราธิวาสมีพื้นที่ยืนต้นยางพาราทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. 799,803 ไร่ พบการระบาดซ้ำใน 13 อำเภอ เนื้อที่เสียหายรวม 758,670 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 94 ของเนื้อที่กรีดยางได้ทั้งจังหวัด ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลผลิตลดลงร้อยละ 60 โดยอำเภอที่พบการระบาดมากที่สุด ได้แก่ อำเภอเจาะไอร้อง จำนวน 40,621 ไร่ ซึ่งคาดว่าการระบาดของโรคจะทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายน- ธันวาคมที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก เพราะเป็นช่วงฤดูฝน มีความชื้นมาก และบางพื้นที่ลาดชั้นทำให้สารเคมีหรือสารชีวภัณฑ์ที่ใช้กำจัดเชื้อราถูกชะล้างไปกับน้ำฝน
สำหรับช่วงที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่และสศท.9 ได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคใบร่วงยางพารา โดยสร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญในการให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาโรคดังกล่าว ผ่านเวทีการประชุมในระดับต่างๆ ร่วมกับสถาบันการศึกษา และสถาบันวิจัยยางเพื่อศึกษาวิจัยหาเชื้อสาเหตุ รวมถึงวิธีการป้องกันในอนาคตซึ่งจากการลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาโรคระบาดใบร่วงยางพาราจังหวัดนราธิวาสได้ดำเนินการร่วมกับสถาบันวิจัยยางและสถาบันการศึกษา ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช ดำเนินการวิจัยหาเชื้อสาเหตุและการป้องกันกำจัดโรคใบร่วงชนิดใหม่ในยางพารา ปัจจุบันมีการพบเชื้อที่แตกต่างกัน โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ พบเชื้อ Neopestalotiopsis 2 สายพันธุ์คือ Neopestalotiopsiscubanaและ N. formicarumสถาบันวิจัยยาง พบเชื้อ Pestalotiopsis sp. และเชื้อ Colletotrichum sp. ซึ่งมีความหลากหลาย การควบคุมกำจัด การใช้สารเคมี สารชีวภัณฑ์จึงแตกต่างกันไปการนำมาใช้กับแปลงทดลองจึงต้องพิจารณาปัจจัยภายนอกต่างๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น สภาพอากาศ สภาพพื้นที่ ความสูงต่ำของต้นยางพารา
ทั้งนี้ เกษตรกรควรหมั่นเฝ้าระวัง สังเกตอาการของโรคใบร่วงได้ด้วยตนเอง ซึ่งใบยางพาราโดยเฉพาะใบแก่จะมีลักษณะเป็นรอยช้ำเป็นกลุ่มเห็นชัดเจนด้านหลังใบ หลังจากนั้นจะแสดงอาการเป็นวงค่อนข้างกลมสีเหลือง ต่อมาเนื้อเยื่อรอยสีเหลืองจะแห้งตาย เป็นแผลกลมสีสนิมซีด หากเกษตรกรพบหรือสงสัยว่ายางพาราที่ปลูกเป็นโรคดังกล่าวให้รีบติดต่อ การยางแห่งประเทศไทย สาขาจังหวัดนราธิวาส โทร. 0-7351 4745 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองนราธิวาส โทร.0-7353-2221 และสำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส โทร. 0-7353-2222
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี