สมุทรสาครตรวจโควิดวันละหมื่น
เจอติดเชื้อพุ่ง914
ย้ำโค้งสุดท้ายปฏิบัติการเข้มข้น
ลุ้นทยอยคลายล็อกต้นก.พ.
บิ๊กคลีนนิ่ง‘ตลาดกลางกุ้ง’
แต่ยังไม่เคาะวันเปิดทำการ
ระยอง2ผัวเมียป่วยไม่รู้ที่มา
ไทยติดเชื้ออีก 187 ราย เสียชีวิต 2 ราย ชี้สัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคมต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด มาตรการตรวจเชิงรุกจะเข้มข้นขึ้น โดยเฉพาะในสมุทรสาคร ระดมทีมแพทย์ลุยตรวจคัดกรองวันละหมื่น ดีเดย์จันทร์นี้วันแรก เจอยอดติดเชื้อเกินคาดพุ่งไป 914 คน พร้อมลุ้นพิจารณาผ่อนคลายมาตรการ ที่แต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน โดยพื้นที่สีแดงยังเข้มข้น ระยองเพิ่มอีก 2สามีภรรยาไม่รู้ติดจากไหน ด้านสมุทรสาครยกระดับค้นหากลุ่มเสี่ยง บิ๊กคลีนนิ่งครั้งใหญ่ แต่ตลาดกลางกุ้งยังไม่ชัดเปิดได้วันไหน
เมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง
ติดเชื้อใหม่187-ตายเพิ่ม2ราย
โดยระบุว่าไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 187 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 177 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 61 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 116 ราย ในจำนวนนี้เป็นการค้นหาเชิงรุกในจ.สมุทรสาคร 113 ราย กรุงเทพมหานคร (กทม.) 2 ราย และระยอง 1 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 10 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 13,687 ราย หายป่วยสะสม 10,662 ราย อยู่ระหว่างรักษา 2,713 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม 2 ราย
เปิดไทมไลน์2ผู้เสียชีวิต
รายแรกเป็นชายชาวอังกฤษ อายุ 61 ปี มาจากอังกฤษถึงไทยวันที่ 25 ธันวาคม 2563 เข้าสถานกักตัวของรัฐที่จ.ชลบุรี จากนั้นมีอาการป่วยเมื่อยกล้ามเนื้อ ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 30 ธันวาคม 2563 มีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ระยะแรกผู้ป่วยปฏิเสธใช้ท่อช่วยหายใจ ต่อมาอาการหนักมากขึ้น ต้องใช้ท่อช่วยหายใจ อาการแย่ลงและเสียชีวิตวันที่ 24 มกราคม รายที่ 2 เป็นหญิงไทย อายุ 56 ปี ชาว จ.สมุทรสงคราม มีโรคหลอดเลือดสมอง ใช้ชีวิตอยู่บ้าน ไม่ได้ไปพื้นที่เสี่ยง แต่สามีมีอาชีพส่งปลาที่ตลาดทะเลไท จ.สมุทรสาคร สัมผัสผู้ค้าอาหารทะเล วันที่ 21 มกราคมผู้ป่วยมีอาการแน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหอบ ต้องนำส่งโรงพยาบาล แพทย์ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ มีภาวะหัวใจหยุดเต้น แพทย์กู้ชีพผู้ป่วยไม่ตอบสนอง และเสียชีวิตในวันที่ 21 มกราคม ทั้งนี้ ทีมแพทย์สงสัยเนื่องจากมีประวัติเสี่ยงสัมผัสจึงเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลออกมาวันที่ 24 มกราคมว่าติดเชื้อโควิด
ชี้สัปดาห์เฝ้าระวังเข้มค้นหาเชิงรุก
รองโฆษก ศบค.กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 24-25 มกราคม มีจังหวัดที่มีรายงานผู้ติดเชื้อเหลือ 7 จังหวัด แต่ภาพรวมแนวโน้มผู้ติดเชื้อตัวเลขยังขึ้นๆลงๆ บางช่วงยอดกราฟค่อนข้างแหลม สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด ในส่วนจ.สมุทรสาคร ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,480 ราย สำหรับมาตรการของสัปดาห์นี้ของจ.สมุทรสาครและทั่วประเทศจะเข้มข้นขึ้น จะระดมสรรพกำลังทั้งในและนอกพื้นที่ เพื่อค้นหาเชิงรุกในชุมชน หอพัก สถานประกอบการ โรงงานขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ อาจขอกำลังแพทย์ทหารเข้าไปช่วย การค้นหาเชิงรุก
คาดยอดติดเชื้อมากกว่า800ราย
“สัปดาห์นี้จะทำให้ได้วันละ 10,000 ราย หมายความว่าจะเจอผู้ติดเชื้อค่อนข้างสูง โดยบ่ายวันนี้อาจเห็นตัวเลขผู้ติดเชื้อมากถึงกว่า 800 ราย ทั้งนี้ ได้เตรียมมาตรการรองรับที่จ.สมุทรสาครไว้แล้ว ขณะนี้มีโรงพยาบาลสนามที่เปิดใช้การได้แล้ว 1,091 เตียง ขณะที่รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครรายงานว่า วันที่ 26 มกราคมจะเปิดอีก 400 เตียง และวันที่ 29 มกราคม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจะเปิดอีก 1,000 เตียง และยังเสนอให้โรงงาน สถานประกอบการใช้เป็นโรงพยาบาลสนามอีก 2,000 เตียง รวมแล้วจะมี 3,000 เตียง ซึ่งการพบผู้ติดเชื้อหลายร้อยรายเป็นไปตามแผนที่เราคาดการณ์ไว้” รองโฆษก ศบค.กล่าว และยืนยันว่าเราพร้อมรับมือสถานการณ์นี้ได้
ทยอยคลายล็อคบางจว.เว้นพื้นที่สีแดง
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า จากวันนี้เป็นต้นไปมาตรการผ่อนคลายจะพิจารณาอย่างละเอียด โดยนำข้อมูลมาประเมินเพื่อคลายล็อก บางจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัดกับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด และศบค.ทำงานร่วมกันใกล้ชิด เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนมาตรการคลายล็อกสัปดาห์นี้ แต่ละวันจะเห็นมาตรการคลายล็อกออกมา บางจังหวัดอาจผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนบางพื้นที่ที่ยังเป็นสีแดงจะเข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม สัปดาห์นี้เป็นช่วงสำคัญ เพราะทุกคนร่วมมือทำให้ตัวเลข 1 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในช่วงที่เราประมาณการ ทำให้มาตรการผ่อนคลายเกิดขึ้นได้มาก แต่หากมีมาตรการผ่อนคลายแล้ว ทุกคนต้องการ์ดสูงช่วย
รร.พื้นที่สีเขียวอาจเปิดก่อนเสี่ยงสูง
ผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมในการเปิดเรียน จากเดิมมีกำหนดเปิดวันที่ 30 มกราคม รองโฆษก ศบค.กล่าวว่า ผู้ปกครองหลายคนเห็นต่าง บางส่วนเป็นห่วงการติดเชื้อเพราะตัวเลขยังไม่นิ่ง จึงอยากให้ปิดไปก่อน แต่อีกบางส่วนเห็นว่าว่าการเรียนออนไลน์นั้นลำบาก ผู้ปกครองต้องทำงาน ไม่มีเวลาดูแล ซึ่ง ศบค.รับทุกความเห็นมาพิจารณา โดยใช้ข้อมูลของสาธารณสุขและพื้นที่เป็นหลัก รวมถึงทำงานกับกระทรวงศึกษาธิการเพื่อหามาตรการที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ ถ้าตัวเลขประมาณการไม่หลุดไปกว่านี้อาจจะให้เปิดเรียนในเร็ววัน แต่อาจไม่พร้อมกัน บางพื้นที่เสี่ยงสูงอาจเปิดเรียนช้า บางพื้นที่ที่เป็นสีเขียวจะอาจจะมีข่าวดีในช่วงนี้ ขอให้ติดตาม
5จว.แดงลุ้น1กพ.แบ่งกลุ่ม-สลับวันเรียน
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวถึงการเตรียมเปิดเรียนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ว่า ขณะนี้ศธ.อยู่ระหว่างหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการเปิดการเรียนการสอนใน 5 จังหวัด คือ กทม.สมุทรสาคร สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี ซึ่งจะยึดความปลอดภัยเป็นหลักพิจารณา โดยอาจให้เรียนในรูปแบบแบ่งกลุ่ม และสลับวันเรียน เแต่ต้องพิจารณามาตรการหลาย รูปแบบให้เหมาะสมแต่ละพื้นที่ และจะพยายามให้จัดการเรียนการสอนที่โรงเรียนให้ได้มากที่สุด
กทม.บิ๊กคลีนนิ่งโรงเรียนกทม.437แห่ง
ด้านพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกล่าวว่า สำนักการศึกษาและสำนักพัฒนาสังคม รายงานความพร้อมเปิดการเรียนโรงเรียน 437 แห่งในสังกัดกทม.และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กก่อนวัยเรียน ซึ่งวางมาตรการป้องกันโรค เช่น จำกัดผู้ปกครองและบุคคลที่จะเข้ามาในโรงเรียน การคัดกรอง เน้นย้ำให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือ ทำความสะอาด ค้นหาและติดตามผู้สัมผัสเสี่ยงในโรงเรียน การจำกัดเวลากินอาหารกลางวัน เพื่อให้นักเรียนใช้เวลาถอดหน้ากากอนามัยน้อยที่สุด โต๊ะอาหารต้องมีฉากกั้น และเว้นระยะนักเรียน แม่ครัว และพนักงานล้างจานต้องสวมหน้ากากอนามัย ถุงมือ อาหารที่ปรุงต้องสะอาดและสุกใหม่ จัดให้เหลื่อมเวลาพัก โดยวันที่ 27 มกราคมนี้จะจัดกิจกรรม Big Cleaning เตรียมพร้อมหากมีประกาศให้เปิดการเรียนการสอน และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครอง
เจาะคอผวจ.สมุทรสาคร-ปัดใช้ปอดเทียม
ด้านศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล แถลงความคืบหน้าอาการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า เนื่องจากนายวีระศักดิ์ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ทำให้มีเสมหะเยอะ และกระตุ้นให้ผู้ว่าฯต่อต้าน ดังนั้น วันที่ 23 มกราคม จึงปรับการรักษา และแจ้งครอบครัวนายวีระศักดิ์ว่าจะเจาะคอ ทำให้การระคายเคืองลดลง ซึ่งนายวีระศักดิ์ไม่ต่อต้าน การเจาะคอทำให้ดูแล ดูดเสมหะทำได้ง่ายขึ้น และลมเข้าปอดดีขึ้น ทำให้การควบคุมการหายใจดีขึ้น ถือว่าการเจาะคอ 48 ชั่วโมง ดีขึ้น วันที่ 24 มกราคมไข้ลดลง ผลเอ็กซเรย์ดูการทำงานของปอด และสมอง พบปอดอักเสบ บางส่วนบ่งชี้ว่าเยื่อพังผืดเกิดขึ้น เป็นปฏิกิริยาตอนสนองต่อการอักเสบ ส่วนหลอดเลือดในปอดทุกอย่างเรียบร้อยดี สมองดี ไม่มีอะไรผิดปกติ
“ขณะนี้ต้องติดตามการทำงานของปอด เพราะต้องใช้ยาเยอะ นอกจากนี้ วันนี้ดูดน้ำออกจากหลอดลมเพื่อไปตรวจหาเชื้อโควิดอีกครั้ง จะดูเซลล์ที่หลอดลมประกอบการตัดสินใจเพื่อให้ยาบางอย่างลดการอักเสบของปอดควบคู่กับการให้ยาลดเป็นพังผืด และดูผลตอบสนองใน 72 ชั่วโมงว่าระบบทุกอย่างจะดีขึ้นหรือไม่ ตอนนี้พยายามซื้อเวลา เพื่อควบคุมการติดเชื้อในปอด ดังนั้น การเจาะคอคือสิ่งที่จำเป็นต้องทำ”ศ.นพ.ประสิทธิ์ระบุ และว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาปลูกถ่ายปอด ยังไม่ต้องใช้ปอดเทียม ทั้งนี้ อย่าคิดว่า โควิดรอบนี้ไม่หนัก เพราะคนที่อาการหนักก็รุนแรงมากจริงๆ
ระยองพบอีก2ผัวเมียไม่รู้ติดจากไหน
ส่วนสถานการณ์ในหลายจังหวัดยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยนายอนันต์ นาคนิยม รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมนพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สาธารณสุขจังหวัดระยองแถลงสถานการณ์ในพื้นที่ว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 จ.ระยอง เพิ่มขึ้นอีก 2 ราย อยู่ในต.เนินพระ อ.เมืองระยอง รวมผู้ติดเชื้อสะสม 576 คน สำหรับผู้ติดเชื้อ 2 รายใหม่ เป็นสามีภรรยากัน ภรรยาทำงานเป็นเซลส์ สามีทำงานบริษัท ไม่พบอาการ แต่พบหลังตรวจเบื้องต้น ก่อนส่งไปตรวจที่โรงพยาบาลผลยืนยันพบเชื้อโควิด ส่วนไทม์ไลน์ พบเพื่อนพนักงานในบริษัท จึงเรียกกลุ่มเสี่ยงเข้าตรวจหาเชื้อแล้วทั้งหมด เบื้องต้นผลเป็นลบ จึงให้กักตัวดูอาการ
นอกจากนี้ ยังไปซุ้มไก่ชน ดูการเลี้ยงไก่ จึงลงพื้นที่สอบสวนโรค กักตัวผู้เสี่ยงสูงแล้ว ส่วนฝ่ายภรรยา จากการสอบสวนโรค ตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงสูงทั้งหมดแล้ว ยังไม่พบเชื้อ จึงให้กักตัวดูอาการก่อนรอตรวจเชื้อยืนยันอีกครั้ง ทั้งนี้ ผู้ป่วยทั้ง 2 ไม่รู้ว่าตัวเองติดเชื้อมาจากไหน เนื่องจากเชื้อที่ตรวจพบอ่อนแล้ว คาดว่าติดเชื้อมานานแต่ไม่แสดงอาการ เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ไม่สามารถทราบข้อมูลได้เลย จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่คิดว่าตัวเองเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ป้องกันการระบาดต่อไป
นนท์เจอเพิ่มอีก1สะสม161คน
ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.นนทบุรีรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 1 คน สะสม 161 คน รักษาหายแล้ว 143 คน อยู่ในโรงพยาบาล 18 คน พร้อมเปิดเผยไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อรายใหม่ รายที่ 277 (รายที่ 161 ของการระบาดระลอกใหม่) เป็นหญิงไทยอายุ 31 ปี อ.เมืองนนทบุรี สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทำงานที่อาคารศรีจุลทรัพย์ ชั้น 14 กรุงเทพฯ พักอาศัยที่คอนโดลุมพินี ถ.รัตนาธิเบศร์ ประวัติเดินทางจากที่พักโดย MRT บางกระสอ ไปต่อสถานีเตาปูน เปลี่ยนเป็นสายสีน้ำเงิน ไปลงสถานีจตุจักร ต่อ BTS สถานีสนามกีฬา และต่อรถโดยประจำทาง ไปซื้อของที่ตลาดพระราม 5 ไปกินปิ้งย่างที่บ้านเพื่อน ไปกินอาหารที่ร้าน Fallabella ชั้น 6 ไอคอนสยาม กับเพื่อนรวม 12 คน ไปตลาดพระราม 5
บิ๊กคลีนนิ่งตลาดกลางกุ้งส่อเลื่อนเปิด
ส่วนที่จ.สมุทรสาคร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ระดมทำความสะอาดครั้งใหญ่ บริเวณตลาดกลางกุ้ง จ.สมุทรสาคร แต่ยังไม่ชัดเจนว่าคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด จะให้ตลาดกลางกุ้งกลับมาค้าขายได้เมื่อไหร่ เพราะการตรวจคัดกรองเชื้อวันที่ 23-24 มกราคมที่ผ่านมา ยังพบแรงงานข้ามชาติติดเชื้อรวม 118 คน นำส่งโรงพยาบาลสนามแล้ว ขณะที่เช้าวันนี้ บุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลหลายแห่งยังระดมมาช่วยกันค้นหากลุ่มเสี่ยง COVID-19 ตามชุมชนต่างๆ เช่น ทีมจากโรงพยาบาลศิริราช มาช่วยตรวจเชิงรุกตลาดมหาชัยวิลล่า
นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยถึงการเปิดตลาดกลางกุ้งว่า บ่ายวันนี้ได้เชิญผู้ประกอบการ และเจ้าของตลาดกลางกุ้ง มาสอบถามมาตรการจัดการภายในตลาด การจัดการแรงงาน เพื่อนำเสนอให้ศบค.พิจารณา ทั้งนี้ ผลตรวจแรงงานรอบสุดท้าย 1,217 คนผลยืนยัน พบผู้ติดเชื้อโควิด 113 คน ส่วนแรงงานที่ไม่พบเชื้อ ถือว่าเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง ต้องเข้าสู่การสอบสวนโรคต่อไป ทั้งนี้ ความเป็นไปได้ที่จะเปิดตลาดกลางกุ้ง ตามกำหนดเดิมคือ 27 มกราคม คงเป็นไปได้ยาก เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้อยังมีจำนวนมาก ซึ่งจะต้องมีมาตรการรัดกุมมากพอ ไม่ให้เกิดปัญหาภายหลัง
ดีเดย์ยกระดับค้นหากลุ่มเสี่ยงวันละหมื่น
สำหรับการตรวจเชิงรุก นอกพื้นที่ตลาดกลางกุ้ง วันนี้ เป็นวันแรกที่ศูนย์ COVID-19 จ.สมุทรสาคร ยกระดับตรวจค้นหากลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นวันละ 10,000 คน ตั้งเป้าตรวจให้ได้ 60,000 คนภายใน 7 วัน ทั้งโรงงานขนาดใหญ่ 15 แห่ง ตรวจคนงานกว่า 41,000 คน, โรงงานขนาดกลาง 5 แห่ง ตรวจคนงานกว่า 1,200 คน, โรงงานขนาดเล็ก 13 แห่ง ตรวจคนงานกว่า 1,008 คน ขณะที่ยังมีชุมชน 15 แห่ง ตรวจบุคคลกว่า 7,500 คน, ตลาด 3 แห่ง ตรวจบุคคล 600 คน ตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10,900 คน รวมเป้าหมายตรวจทั้งหมด 63,126 คน คาดการณ์ว่าจะพบผู้ติดเชื้อ 4,419 คน หรือเท่ากับ 7% ของผู้เข้าตรวจ
พุ่งเกินคาดสมุทรสาครติดอีก914คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานผลการตรวจเชิงรุกประจำวันว่า พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 914 คน มาจากการตรวจคัดกรองเชิงรุก 844 คน เป็นการไปตรวจที่โรงพยาบาล 70 คน เป็นคนไทย 119 คน แรงงานข้ามชาติ 795 คน ทำให้ยอดสะสมคนคิดเชื้ออยู่ที่ 6,555 คน แบ่งเป็นคนไทย 1,327 คน แรงงานข้ามชาติ 5,228 คน ยังรอผลตรวจยืนยันอีก 3,311 คน
ตรวจลูกจ้างสมุทรสาครแล้ว2.5หมื่น
ด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยความคืบหน้าผลดำเนินการตรวจคัดกรองโควิด-19 ให้แรงงานเชิงรุกในสถานประกอบการจังหวัดสมุทรสาครว่า ผลตรวจแรงงานเชิงรุกเพื่อค้นหาเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบการจังหวัดสมุทรสาคร ตั้งแต่วันที่ 9-25 มกราคม พบผู้ประกันตนรับการตรวจคัดกรองเชิงรุกในสถานประกอบการในจ.สมุทรสาครแล้ว 25,162 ราย ทั้งนี้ มาตรการต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติสอดรับกับมาตรการของ ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี