ย้อนถอยหลังไปพื้นที่ “เมืองโบราณโนนเมือง อ.ชุมแพร” ช่วงรอยต่อก่อนศาสนาพุทธเข้ามาเผยแผ่ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยุคนั้นชาวบ้านยังคงใช้วิธีการฝังศพผู้เสียชีวิต และนำสิ่งของเครื่องใช้ฝังลงไปพร้อมผู้ตาย เพื่อนำไปใช้ในโลกหน้า นอกจากสิ่งของเครื่องใช้แล้ว บางศพยังพบกำไล ต่างหู ซึ่งบ่งบอกฐานะของผู้ตายอีกด้วย และยังพบใบเสมา ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันอีกหลายจุด การพบใบเสมา นั้นหมายถึงเป็นช่วงที่ไทยรับเอาศาสนาพุทธเข้ามาแล้วในยุคทวารวดี นอกจากเป็นเมืองโบราณยุคก่อนประวัติศาสตร์แล้ว พื้นที่แห่งนี้ยังเป็นศาสนสถานยุคทวารวดีอีกด้วย สำนักศิลปากรที่ 8 ได้สำรวจไปได้เพียง5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ภายใต้ผืนแผ่นดินแห่งนี้เชื่อว่ายังคงมีร่อยรอยต่างๆ รอการพิสูจน์อีกมากมาย
ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมด้วยส่วนราชการ อบจ.ขอนแก่น สำนักงานวัฒนธรรม จ.ขอนแก่น สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.ขอนแก่น สำนักงานประชาสัมพันธ์ จ.ขอนแก่น พร้อมด้วยสื่อมวลชนใน จ.ขอนแกน ได้ลงพื้นที่ “เมืองโบราณ” ซึ่งตั้งอยู่ที่ บ้านโนนเมือง อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ประเภทประวัติศาสตร์ อยู่ในความรับผิดชอบของ สำนักศิลปากรที่ 4 ในอดีตประมาณ 2,500 ปี เมืองแห่งนี้เป็นเมืองโบราณที่ค้นพบร่องรอยโบราณคดียุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ต่อด้วยสมัยทวารวดี พบเนินดินมีลักษณะเป็นคูเมือง โครงกระดูก ข้าวของเครื่องใช้ของมนุษย์ ในหลุมขุดจำนวน 6 หลุม ขุดพบโครงกระดูที่สมบูรณ์ถึง 35 โครงทั้งศพ เด็ก ผู้ชาย ผู้หญิง อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้พร้อมที่จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกรมศิลปากร ผลักดันให้พื้นที่แห่งนี้ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ (Historical Park) จังหวัดขอนแก่น นอกจากเป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ ไมซ์ซิตี้ แล้ว ยังเป็นเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่ โดยจังหวัดขอนแก่นได้รับการรับรองจากยูเนสโกให้เป็นเมืองหัตถกรรมโลกของผ้ามัดหมี่เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561 ส่วนอุทยานธรณีประเทศไทย ที่พบไดโนเสาร์ถึง 5 สายพันธุ์ เมื่อ 130 ล้านปี ที่ภูเวียง และเวียงเก่า และที่โนนเมือง อ.ชุมแพ ยังเป็นเมืองโบราณ 2,500 ปียุคก่อนประวัติศาสตร์ รอโควิดซา ขอนแก่นก็พร้อมที่จะอ้าแขนรับนักท่องเที่ยวทุกท่าน โดยมีหลายแพ็กเกจให้เลือก จะดูความทันสมัย หรือจะมาดูเมืองเก่า ดูไดโนเสาร์ เราก็มีให้เลือก
สำหรับพื้นที่เมืองโบราณโนนเมือง อ.ชุมแพ ซึ่งเป็นแหล่งก่อนประวัติศาสตร์ยุคทวารวดี มีซากโครงกระดูกและซากวัฒนธรรมดั้งเดิมเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่าเป็นเกาะเมืองเก่าที่มีการขุดค้นคูรอบเมืองโนนเมืองแห่งนี้ ซึ่งค่อนข้างจะเป็นปริมณฑลที่ชัดเจนและปริมาณที่ขุดค้นอาจจะใหญ่ที่สุดในภาคพื้นเอเชียก็ได้
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ในอีก 3 ปี กรมศิลปากรมีแผนจะขุดหลุมประวัติศาสตร์ในพื้นที่แห่งนี้เพิ่มเติม จากเดิมที่มีอยู่ 5 หลุม ก็จะขุดเพิ่มเป็นหลุมใหญ่ขนาด 30x30 เมตร เพื่อจะทำเป็นแหล่งประวัติศาสตร์โนนเมือง โดยจะเห็นการพัฒนา การเคลื่อนตัวของเมืองในอดีตของประเทศไทย เมื่อกรมศิลปากรขุดเมืองโบราณอีกครั้งจะทำให้ประชาชนชาวขอนแก่นและนักท่องเที่ยวได้ทราบเรื่องราวต่างๆ อย่างชัดเจนขึ้น เพราะกรมศิลปากรวางแผนจะยกเมืองโบราณโนนเมืองชุมแพจุดนี้ให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2568 แต่ถ้าทุกหน่วยได้เคลื่อนตัวพร้อมกัน คิดว่าโนนเมืองจะได้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์เร็วกว่าที่กำหนด และเมื่อขุดค้นและยกให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ อยากให้ประชาชนในท้องถิ่นได้รับผลประโยชน์
ในการพัฒนาเกิดประโยชน์ด้านท่องเที่ยว เป็นการเชื่องโยงด้านการท่องเที่ยว เมื่อนักท่องเที่ยวรู้แหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยวแล้ว เมื่อออกจากจังหวัดขอนแก่นมาที่จีโอ PARK ที่ อ.ภูเวียง และอ.เวียงเก่าแล้ว ก็สามารถเดินทางมาที่อุทยานประวัติศาสตร์โนนเมืองแห่งนี้ได้เป็นการเชื่อมต่อฮับระบบโลจิสติกส์ เส้นทางถนนที่สามารถไปยัง อ.ภูกระดึง จ.เลย ไปที่ อ.ภูผาม่าน หรือจะไปภาคเหนือของประเทศไทยก็ผ่านทางน้ำหนาวได้ด้วย
ที่สำคัญ อุทยานประวัติศาสตร์โนนเมืองชุมแพเป็นรอยต่อของการท่องเที่ยวที่เชื่อมต่อระหว่างขอนแก่นไปยังพื้นที่ภาคเหนือ และจังหวัดอื่นของภาคอีสาน ฉะนั้นประชาชนต้องมีการเรียนรู้ที่จะผลิตผลิตภัณฑ์ภายในชุมชนให้เป็นอัตลักษณ์ หรือสินค้าของชาวโนนเมือง ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ที่แสดงออกว่านี่คือสินค้าจากอุทยานประวัติศาสตร์เมืองโบราณแห่งนี้
สมใจ นามสุดตา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี