วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการส่งเสริม สนับสนุนและประสานความร่วมมือ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ที่มีตนเป็นประธานเมื่อเร็วๆนี้ ว่า สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ได้รายงานผลการดำเนินงานปี 2563 และรายงานแผนงานที่จะดำเนินการในปี 2565 โดยจะเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งตรงกับแนวทางการขับเคลื่อนงานของ ศธ. นอกจากนี้ ที่ประชุมหารือเรื่องการปรับการเรียนการสอนของ กศน.ด้วย ซึ่งตนเห็นว่าที่ผ่านมาการจัดการศึกษาของ กศน. จะเน้นให้ผู้เรียนได้รับคุณวุฒิการศึกษา แต่ปัจจุบันการศึกษาเกิดการดิสรัปอย่างมาก ดังนั้น กศน.ควรปรับการเรียนการสอนโดยเน้นเสริมทักษะอาชีพที่จะตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงานและศตวรรษที่ 21 ให้กับผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในการทำงาน และในอนาคต เรื่องดังกล่าว กศน.ควรให้ความสำคัญ และน่าจะมีความยืดหยุ่นในการบริการการศึกษามากขึ้น ขณะเดียวกัน กศน.ต้องเน้นให้ความรู้เรื่องภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือเน้นการสอนเพื่อยกระดับรายได้ผ่านกระบวนการขายออนไลน์ ให้ความรู้ความเข้าใจด้านการตลาด และให้ความรู้เรื่องการออกแบบสิ่งของต่างๆ เพราะที่ผ่านมา กศน.ยังไม่ให้ความสำคัญเรื่องเหล่านี้กับผู้เรียนและบุคลากรมากพอ หาก กศน.สามารถพัฒนาและให้ความรู้เรื่องเหล่านี้ได้ จะสามารถยกระดับรายได้ให้กับชุมชนและผู้เรียนได้
นายณัฏฐพล กล่าวต่อว่า การปรับการเรียนการสอนโดยส่งเสริมทักษะด้านอาชีพให้กับผู้เรียนมากขึ้นเพราะจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ศธ.เห็นแล้วว่า ปัจจุบันมีคนเปลี่ยนงานบ่อย กศน.จะต้องมีความยืดหยุ่นในการบริหารจัดการชีวิต และเสริมทักษะอาชีพให้กับผู้เรียนด้วยเพื่อตอบรับการเปลี่ยนแปลง ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์และวางแผนขับเคลื่อนการศึกษาของ กศน. ให้มีความเข้มข้นมากขึ้น เช่น ปรับหลักสูตรให้มีความทันสมัย รองรับผู้สูงวัย วัยรุ่น และวัยทำงาน จะต้องเพิ่มทั้งเรื่องดิจิทัล ภาษาต่างประเทศ และต้องดูว่าจะทำให้หลักสูตรเหล่านี้สอดคล้อง และเชื่อมต่อกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้อย่างไร
“ส่วนการจะแยก กศน. ออกเป็นกรมหรือแท่ง เพื่อให้การบริหารงานคล่องตัวหรือไม่นั้น ผมมองว่าคงยังไม่มีความจำเป็นต้องแยกกศน.ออกเป็นแท่งหรือเป็นกรม เพราะขณะนี้ ศธ.กำลังพยายามกระชับให้หน่วยงานต่างๆมารวมกัน เพื่อให้การทำงานเดินไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้หารือ ถึงความเหมาะสมในการจัดสรรบุคลากร ที่จะต้องทำให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่ชัดเจน ซึ่งศธ.เห็นความสำคัญเรื่องนี้ ส่วนเรื่องคุณภาพของ กศน.ที่สังคมมองว่าอาจจะไม่มีคุณภาพพอนั้น ขณะนี้ข้อจำกัดของผู้ฝึกสอน ที่อาจจะไม่ได้รับผลตอบแทนหรือแรงจูงใจที่จะมาช่วยฝึกสอน แต่ถ้า กศน.แต่ละพื้นที่ร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน จะทำให้พัฒนาชุมชนยกระดับราคาของผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ได้รับการยกระดับเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้ผู้เรียน กศน.มากขึ้น" นายณัฏฐพล กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี