“ผบช.สตม.” นำทีมบุกทลายแก๊งจีนเช่าบ้านย่านลาดพร้าว เปิดฐานทำแอพปล่อยกู้ออนไลน์ ทั้งโกงเงินต้น ประจานลูกหนี้ รวบหัวหน้าแก๊งคนจีน-สิงคโปร์ พบจ้างพนักงานไทยทวงหนี้กว่า 46 คน
เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย รอง ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สส.สตม. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ศปอส.ตร. ร่วมกันจับกุมแก๊งต่างชาติร่วมกับคนไทย ใช้แอปพลิเคชั่นเงินกู้ ให้บริการกู้เงินออนไลน์ เรียกเก็บดอกเบี้ยโหด หากลูกหนี้ผิดการชำระหนี้ จะใช้วิธีการทวงหนี้ โดยส่งข้อความไปยังรายชื่อเพื่อนในโทรศัพท์มือถือของลูกหนี้ทั้งหมด เพื่อทำให้เกิดความอับอาย มีคนไทยตกเป็นเหยื่อจำนวนมากที่ได้เข้าร้องเรียนต่อ ศปอส.ตร.
ทั้งนี้ สามารถจับกุมชาวต่างชาติสัญชาติจีน ที่เป็นหัวหน้าแก๊ง ได้จำนวน 5 ราย คือ 1. TAN สัญชาติจีน 2. MR.ZEND สัญชาติจีน 3. MR.ZHANG สัญชาติจีน 4. MR.WEIZHI สัญชาติจีน 5.MR.YAO สัญชาติสิงคโปร์ และคนไทยที่ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ Call Center อีกกว่า 46 คน โดยจับกุมได้ที่บ้านเดี่ยว จำนวน 2 หลังในซอยลาดพร้าว 94
พล.ต.ท.สมพงษ์ ระบุว่า กลุ่มผู้ต้องหามีการใช้แอพพลิเคชั่นชื่อ SpeedWallet ให้บริการสินเชื่อในวงเงิน 5,000-20,000 บาท อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 12% สูงสุด 15% ซึ่งผู้เสียหายให้การว่าสามารถกู้เงินจากแอพพลิเคชั่นนี้ได้เงินจริง แต่จะได้รับเงินไม่ตรงตามจำนวนที่ตกลงไว้ เช่น ขอกู้เงินจำนวน 5,000 บาท แต่ได้รับเงินจริงเพียง 2,900 บาท และมีเงื่อนไขว่าต้องจ่ายเงินคืนผู้ให้บริการ จำนวน 5,074 บาท และต้องผ่อนชำระให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน
“หากชำระเงินคืนไม่ตรงตามวันเวลาที่กำหนด ดอกเบี้ยก็จะเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 250 บาท หากหลบหนี หรือไม่ชำระหนี้ จะมีพนักงานคอยโทรศัพท์ทวงถาม รวมถึงมีการส่งข้อความทวงหนี้ไปยังโทรศัพท์ของเพื่อนๆของผู้เสียหายกับผู้อื่นทำให้ได้รับความอับอาย” ผบช.สตม. กล่าว
ส่วนรูปแบบการทำงานของ App Speed Wallet คือ โหลดจาก Web ผู้กู้ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวยินยอมให้เข้าถึงการใช้งาน รายชื่อ ตำแหน่ง บันทึก เครือข่าย ภาพ และต้องกรอกข้อมูลส่วนตัว เช่น เลขบัตรประชาชน วัน เดือน ปีเกิด , การทวงเงิน หากผิดชำระหนี้จะส่งข้อความไปหาเพื่อนในรายชื่อเพื่อให้เกิดการขายหน้า
สำหรับความผิดนั้นเป็นไปตาม พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560 มาตรา 4 บุคคลใดให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทําการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอําพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสองแสนบาทหรือทั้งจําทั้งปรับ (1) เรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนดไว้ (2) กําหนดข้อความอันเป็นเท็จในเรื่องจํานวนเงินกู้หรือเรื่องอื่น ๆ ไว้ในหลักฐานการกู้ยืมหรือตราสารที่เปลี่ยนมือได้เพื่อปิดบังการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกําหนด หรือ (3) กําหนดจะเอาหรือรับเอาซึ่งประโยชน์อย่างอื่นนอกจากดอกเบี้ย ไม่ว่าจะเป็นเงิน หรือสิ่งของหรือโดยวิธีการใดๆ จนเห็นได้ชัดว่าประโยชน์ที่ได้รับนั้นมากเกินส่วนอันสมควรตามเงื่อนไขแห่งการกู้ยืมเงิน
พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า สำหรับบ้านพักที่กลุ่มผู้ต้องหาใช้เป็นสำนักงาน พบว่าได้เช่าเดือนละ 6.5 หมื่นบาทมานาน 1 เดือน โดยการจับกุมพบพนักงานชาวไทยจำนวนมาก ซึ่งให้การเบื้องต้นให้การว่าเห็นประกาศรับสมัครพนักงานบริษัทโดยไม่ระบุหน้าที่ว่าให้ทำอะไรบ้าง แต่จะมีค่าจ้างเดือนละ 1.2 หมื่นบาท
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่ามีพนักงานเป็นชาวต่างชาติ 6 คน แบ่งเป็นชาวจีน 5 คน ชาวสิงคโปร์อีก 1 คน หากตรวจสอบแล้วไม่เข้าข่ายความผิดก็จะกันตัวไว้เป็นพยาน หลังจากนี้จะขยายผลไปยังตัวผู้ร่วมขบวนการรายอื่นๆ พร้อมรวบรวมยอดความเสียหายทั้งหมดต่อไป และขบวนการดังกล่าวจะเปิดแอพเงินกู้ต่างๆ เบื้องต้นตรวจพบมีลูกค้ากว่า 5,000 คน
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม.และ พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี