“จุติ” แจงสภาฯเร่งแก้ปมเรียกเบี้ยคนชราย้อนหลัง นัดหารือกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ 5 กุมภาพันธ์นี้เห็นควรไม่เรียกคืน ด้านรมว.แรงงาน เคลียร์ปมผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพ มีสิทธิ์รับเบี้ยยังชีพสูงอายุด้วย
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่รัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงกระทู้ถามสด นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งกระทู้ถาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ถึงปัญหาการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้อนหลัง กรณีที่พบว่ารับสวัสดิการซ้ำซ้อน เป็นความผิดของหน่วยงานราชการ ไม่ใช่ความผิดของผู้สูงอายุ การถูกเรียกคืนเบี้ยผู้สูงอายุถือว่าน่าเห็นใจ ทั้งนี้รัฐบาลต้องชี้แจงถึงการรับเบี้ยผู้สูงอายุ ว่าจะได้ต่อไปหรือไม่ รวมถึงต้องดำเนินการกับกรมบัญชีกลาง อย่างไรก็ดีในหลักเกณฑ์ที่ไม่ให้รับค่าตอบแทนซ้ำซ้อน ตนขอฝากกรมบัญชีกลางพิจารณาการรับค่าตอบแทนหลายทางของอดีตคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ผ่านมา เป็นมูลค่ารวมสูงกว่าคนละ 10 ล้านบาท
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ชี้แจงประเด็นการเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ว่าการจ่ายเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เกิดขึ้นปี 2552 มีประชากรไม่มาก แต่ปี 2564 พบว่ามีประชากรผู้สูงอายุมากถึง 20% ของประชากร หรือคิดเป็นจำนวน 12 ล้านคน ปี 2578 เพิ่มเป็น 20 ล้านคน หรือ 30% ของประชากร ทั้งนี้ปี 2561 กรมบัญชีกลางและกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นได้บูรณาการข้อมูล พบว่าจำนวนที่ใช้สิทธิ 10.1 ล้านคน พบว่าซ้ำซ้อน 15,300 คน ซึ่งความผิดพลาดเพียง 0.001% เท่านั้น และได้แก้ไขโดยติดต่อไปยังผู้สูงอายุ ว่าหากได้รับการติดต่อขอเงินคืนให้ติดต่อทนายความ
นายจุติ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี ได้ให้บูรณาการแก้ปัญหาไม่ให้ผู้สูงอายุเดือดร้อนและต้องทำตามกฎหมาย โดยวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการประชุมด่วนของกรรมการผู้สูงอายุแห่งชาติ หาทางแก้ปัญหาทางกฎหมาย ซึ่งมีข้อสรุปตรงกันว่าไม่ควรเรียกเงินคืน ทั้งนี้กรณีที่คนชราได้รับบำนาญพิเศษนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่ามีบำนาญพิเศษมากถึง 24 ประเภท และมีบำเหน็จตกทอด ดังนั้นกรรมการจะพิจารณาให้เป็นธรรม หรือได้มาโดยอาจจะแจ้งไม่ถูกต้อง ก็จะพิจารณาเป็นรายบุคคล
นายจุติ กล่าวชี้แจงถึงกรณีให้กรมบัญชีกลางเรียกค่าตอบแทนของนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีว่าไม่มีเรื่องเบี้ยยังชีพจึงตอบไม่ได้
ขณะที่นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กล่าวว่า ขณะนี้ผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นการรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จะซ้ำซ้อนกับการรับเงินบำนาญ หรือสวัสดิการอื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ได้แก่ ผู้รับเงินบำนาญ เบี้ยหวัด บำนาญพิเศษ หรือเงินอื่นใดหรือไม่ เพื่อให้ผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม คลายข้อกังวลดังกล่าว จึงได้ให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.)สร้างการรับรู้กรณีดังกล่าวให้แก่ผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม
ส่วนนายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการ สปส.เปิดเผยว่า แม้ผู้ประกันตนจะได้รับเงินบำนาญชราภาพจากกองทุนประกันสังคม ก็มิใช่เป็นผู้ได้รับสวัสดิการหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดจากหน่วยงานของรัฐ ผู้ประกันตนดังกล่าวจึงเป็นผู้สูงอายุที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ตามข้อ 6 (4) แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น2552 ดังนั้นผู้ประกันตนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพ จึงเป็นผู้สูงอายุที่มีสิทธิได้รับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ทั้ง 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาหรือผ่านสายด่วนประกันสังคม โทร.1506 ได้ตลอด 24ชั่วโมง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี