จากกรณีที่มีการตรวจสอบแล้วพบว่าคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด ได้มีการทุจริตเงินของสหกรณ์จนมีความเสียหายราว 2,800 ล้านบาท ช่วงปี 2555-2559 ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียน ได้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดมาตามลำดับ จนนำไปสู่การดำเนินคดี โดยร่วมมือกับตำรวจสอบสวนกลาง ติดตามยึดทรัพย์สินที่กลุ่มผู้ต้องหานำไปฟอกเงินในธุรกิจต่างๆ กลับมาได้บางส่วน พร้อมกับออกหมายจับผู้ต้องหา 9 คน ตามที่เคยเป็นข่าวมาแล้วนั้น ซึ่งขณะนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ก็ยังเดินหน้าแก้ไขปัญหาลูกหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด โดยทำคู่ขนานไปกับดีเอสไอ ทั้งนี้ ได้รับการเปิดเผยจากนายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา สหกรณ์เจ้าหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์สโมสรรถไฟ จำกัด (สอ.สรฟ.) 15 แห่ง ซึ่งมียอดหนี้เงินกู้และเงินฝากประมาณ 3 พันล้านบาท ได้เข้าพบเพื่อติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของสอ.สรฟ.ที่ยังไม่สามารถชำระคืนได้ ซึ่งในการหารือได้มีการชี้แจงถึงความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหา อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8 ก.พ. 2564 จะเชิญกรรมการสหกรณ์สอ.สรฟ.มาหารือถึงแผนการชำระหนี้เงินกู้ให้กับ 4 สหกรณ์เจ้าหนี้เงินกู้ เพื่อให้การชำระหนี้เป็นไปตามข้อตกลงที่ได้ทำร่วมกันไว้
นายวิศิษฐ์ บอกว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์รับทราบความกังวลของเจ้าหนี้ทั้งหมดของสอ.สรฟ.โดยเฉพาะประเด็นการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ ซึ่งจะกลายมาเป็นภาระของสหกรณ์นั้นๆ โดยทางกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า ตามหลักเกณฑ์ทางบัญชี หากลูกหนี้ยังชำระตามแผนได้ก็ไม่ต้องตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กรมยืนยันว่าไม่เคยหนีปัญหา และยังติดตามอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ผ่านมา เพื่อช่วยแก้ไขให้กับทุกฝ่าย จนในที่สุดสามารถที่จะประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ติดตามจับกุม นายบุญส่ง หงส์ทอง และพวกซึ่งเป็นอดีตกรรมการสอ.สรฟ.ที่ทุจริต และสามารถอายัดทรัพย์ได้ส่วนหนึ่ง ซึ่งจะเป็นผลให้ สอ.สรฟ.จะมีสินทรัพย์และเกิดสภาพคล่องในอนาคตเพิ่มขึ้น เพื่อที่จะนำมาบริหารจัดการกับหนี้สินทั้งเงินกู้และเงินฝากได้ในลำดับถัดไป สำหรับกรณีที่ 4 สหกรณ์เจ้าหนี้ได้มีการฟ้องร้องดำเนินคดีกันบ้างแล้ว ซึ่งกรมไม่ขอก้าวก่ายสิทธิในการฟ้องร้องของแต่ละสหกรณ์ แต่ในฐานะที่เป็นพี่เลี้ยงของสหกรณ์ก็ยังหวังว่าหากสามารถเจรจากันได้และให้เวลาสอ.สรฟ.ชำระหนี้ตามแผนก็คาดว่าจะเป็นผลดีกับทุกฝ่ายทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้
นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีในการแก้ไขปัญหาร่วมกัน และทราบว่าหลังจากนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย และสหกรณ์ทั้ง 15 แห่ง จะนัดประชุมหารือ เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกันทุกๆ 3 เดือน เพื่อติดตามสถานะทางการเงินของสอ.สรฟ.อย่างใกล้ชิดต่อไป...เป็นเรื่องที่ดีมากครับ สหกรณ์จะไปรอดก็เพราะคนสหกรณ์และขบวนการสหกรณ์ร่วมมือช่วยเหลือกันตามหลักการของสหกรณ์ครับ...
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี