นายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า กรมประมงให้ความสำคัญกับการพัฒนางานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นภารกิจหลักของหน่วยงาน เพื่อสนับสนุนการประกอบอาชีพและเสริมสร้างรายได้ให้เกษตรกรไทยอย่างต่อเนื่อง โดยได้ส่งเสริมให้นักวิชาการประมงมีการพัฒนาผลงานวิจัยใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการผลิตสัตว์น้ำให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยคำนึงถึงการลดต้นทุนในการผลิต แต่ยังคงรักษาคุณภาพและมาตรฐานเพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขัน ตามนโยบายของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยล่าสุด กรมประมงได้มีการคิดค้นงานวิจัยเพื่อลดต้นทุนในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ด้วยการใช้วัตถุดิบ ซึ่งเป็นเศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์ปีก และผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต
เอทานอลในกิจการอุตสาหกรรมมาทำการผลิตเป็นอาหารเม็ดต้นทุนต่ำสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบโปรตีนที่หาได้ง่าย และมีราคาถูก สามารถทดแทนการใช้ปลาป่น และกากถั่วเหลือง ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักที่มีราคาค่อนข้างสูงและยังหาได้ยากอีกด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 50-60 เปอร์เซ็นต์ ของต้นทุนการเลี้ยงทั้งหมด ประกอบกับในปัจจุบันปริมาณปลาป่นที่ผลิตได้ทั่วโลกมีแนวโน้มลดลงและขาดแคลนในบางฤดูกาล ส่งผลทำให้ราคาปลาป่นและกากถั่วเหลืองปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางพิชญา ชัยนาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งภูเก็ต กล่าวในรายละเอียดว่า ทางศูนย์ฯ ได้ทดลองนำเศษเหลือจากการแปรรูปสัตว์ปีก และผลพลอยได้จากการผลิตเอทานอล ซึ่งมีโปรตีนไฮโดรไลเสตจากการย่อยเศษเหลือของการแปรรูปปลาทะเลในท้องถิ่น กากปาล์มเนื้อในและวัตถุดิบอื่นๆ มาผลิตเป็นอาหารสัตว์น้ำชนิดเม็ดแบบลอยน้ำ ให้มีระดับโปรตีน 38-42 เปอร์เซ็นต์ โดยทำการอัดเม็ดที่มีขนาดเหมาะสมกับขนาดของปากสัตว์น้ำ ซึ่งทางศูนย์ฯ ได้นำร่องใช้อาหารดังกล่าวทดลองเลี้ยงกับปลาทะเลกลุ่มกินเนื้อ ได้แก่ ปลากะพงทอง และปลาช่อนทะเล ซึ่งมีความต้องการอาหารที่มีโปรตีนสูง ซึ่งอาหารเม็ดที่ใช้เลี้ยงสัตว์น้ำกลุ่มนี้มีราคาสูงกว่ากลุ่มกินพืช โดยจากการทดลองวิจัยดังกล่าว พบว่า อาหารเม็ดต้นทุนต่ำนี้สามารถลดต้นทุนการเลี้ยงสัตว์น้ำได้ไม่น้อยกว่า 35 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งปลาทะเลที่เลี้ยงด้วยอาหารเม็ดต้นทุนต่ำนี้ พบมีการเจริญเติบโตที่ดีและอัตรารอดสูง รวมถึงคุณภาพเนื้อปลาทะเลไม่ลดลง ไม่มีของเสียจากตัวปลาทะเล และอาหารที่ทำให้เกิดดินและน้ำเสียบริเวณแหล่งเลี้ยงอีกด้วย
อธิบดีกรมประมง กล่าวตอนท้ายว่า กรมประมงยังคงมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพด้านการเพาะเลี้ยง เพื่อลดต้นทุนการผลิต โดยจะเร่งพัฒนาสูตรการผลิตอาหารเม็ดต้นทุนต่ำ เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพสำหรับใช้เลี้ยงปลาทะเลชนิดอื่นและปลาน้ำจืด รวมทั้งสัตว์น้ำกลุ่มกุ้งทะเล และกุ้งน้ำจืดต่อไป เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อให้เกษตรกรได้รวมกลุ่มกันผลิตอาหารเม็ดต้นทุนต่ำ คุณภาพดี ไว้ใช้เองและขยายผลต่อยอดในการผลิตเชิงพาณิชย์ต่อไป
ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งภูเก็ต กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง กรมประมง โทรศัพท์ 0-7662-1822 ในวันและเวลาราชการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี