วันที่ 9 ก.พ.64 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงข้ามอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ชาวเมียนมา ซึ่งมาจากหลากหลายอาชีพทั้งหน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ พ่อค้า นิสิต นักศึกษาและประชาชนกว่า 20,000 คน ได้ร่วมกันทำกิจกรรมชุมนุมทางการเมืองติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้วภายหลังจากกองทัพทหารเมียนมาได้ทำการปฎิวัติรัฐประหารและจับกุมผู้นำทางการเมือง โดยกิจกรรมยังเน้นเป็นการเดินขบวนเพื่อประท้วงเรียกร้องให้ทางคณะปฎิวัติได้ปล่อยตัวผู้นำทางการเมืองที่ถูกจับตัวและคัดค้าน การปฎิวัติรัฐประหารคืนอำนาจให้กับประชาชน

ซึ่งการเดินขบวนการก็ยังคงรูปแบบเดิมเหมือนวันก่อน คือรวมตัวกันที่บริเวณเจดีย์ชะเวดากองจำลองจากนั้นได้แสดงพลังด้วยการเดินเท้าและขับขี่รถจักรยายนต์ไปตามถนนสายต่างๆ ทั่งตัวเมืองท่าขี้เหล็ก ตั้งแต่บริเวณวงเวียนหน้าสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ไปตามถนนสายหลักผ่านย่านชุมชนสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 และไปสิ้นสุดที่บริเวณหน้าสนามบินท่าขี้เหล็ก ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร รวมระยะทางไปกลับประมาณ 14 กิโลเมตร 

ทั้งนี้ การชุมนุมยังได้มีการนำป้ายข้อความการคัดค้านการปฎิวัติรัฐประหหารและข้อเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวผู้นำทางการเมือง มีการชูมือแสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้ว พร้อมกับถือป้ายรูปภาพนางออง ซาน ซูจี อดีตที่ปรึกษาแห่งรัฐและแกนนำพรรคสันนิบาตรแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) และบุคคลสำคัญอื่นๆเช่น นายอู วิน หมินท์ อดีตประธานาธิบดีเมียนมา และร้องตะโกนเรียกร้องไปตามถนน ซึ่งประชาชนที่ทางผู้ชุมนุมผ่านก็มีการตบมือให้การต้อนรับและเคาะประตูหรือวัสดุให้เกิดเสียงดังเพื่อแสดงออกร่วมกัน

อย่างไรก็ตาม การชุมนุมก็ยังเป็นไปด้วยความสงบ ไม่ได้หน่วยทางทหารเมียนมาออกมากดดันหรือออกมาสลายการชุมนุมเหมือนการชุมนุมในพื้นที่อื่นๆ จึงไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ ทำให้การชุมนุม ใช้เวลาเพียงครึ่งวันผู้ชุมนุมก็พาการสบายการชุมนุม 

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าในช่วงคืนที่ผ่านมาทางเจ้าทหารเมียนมามีการจับกุมตัวแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมไปจำนวน 2 คน แต่ยังไม่มีรายงานว่ามีการปล่อยตัวหรือมีการดำเนินการด้านใดบ้าง รวมไปถึงแกนนำเมืองอื่นๆ เช่น เมืองเชียงตุง เมืองหลวงของรัฐฉาน ก็พบว่าทางการทหารเมียนมาก็ทยอยจับกุมตัวแกนนำคนสำคัญแต่ละพื้นที่ไปเช่นกัน แต่ยังไม่มีการประกาศชัดเจนว่าจะดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่างๆ อย่างไรบ้าง จึงทำให้ไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยมากนัก มีเพียงผู้ประกอบการส่งออกสินค้าชายแดนบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 เท่านั้น ที่มีการชะลอการส่งออกสินค้าชั่วคราวในช่วงที่มีการจัดการชุมนุม ทำให้มีรถยนต์บรรทุกและรถยนต์ขนสินค้าติดค้างบริเวณหน้าด่านบ้างในช่วงเช้า แต่พอการชุมนุมสิ้นสุดก็มีการส่งออกสินค้ากันตามปกติ