‘ผบช.สตม.’ย้ำ‘2 ศูนย์เก็บอัตลักษณ์’ รับพิสูจน์ตัวตนใช้ขึ้นทะเบียนต่างด้าว 3 สัญชาติทุกวัน
12 กุมภาพันธ์ 2564 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) เปิดเผยว่า จากการระบาดระลอกใหม่ของเชื้อโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในประเทศไทยขณะนี้ คนต่างด้าวที่เข้ามาใช้แรงงานภายในประเทศ มีทั้งที่เข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือระยะเวลาที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรสิ้นสุดลง กระทรวงแรงงานได้แก้ปัญหาโดยบริหารจัดการให้แรงงานสัญชาติกัมพูชา ลาว และเมียนมา ได้อยู่และทำงานในประเทศอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาขาดแคลนแรงงาน และสามารถตรวจสอบควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าวได้อย่างเป็นระบบ
ผบช.สตม. ระบุว่า ในการดำเนินการครั้งนี้ได้จัดให้มีการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคล (Biometrics) กับ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับการตรวจโรคโควิด-19 เพื่อการพิสูจน์ตัวตนของคนต่างด้าวและความมั่นคงของประเทศ และส่งข้อมูลให้กรมการจัดหางานออกใบอนุญาตทำงาน ภายในวันที่ 16 เมษายน 2564 ซึ่งตนสั่งการให้เปิดพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2564
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ กทม. มีกลุ่มแรงงานจำนวนมาก จึงสั่งการให้กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 (บก.ตม.1) ซึ่งให้บริการงานเกี่ยวกับคนต่างด้าวในเขตพื้นที่ กทม. เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา จำนวน 2 แห่ง คือ 1.ศูนย์เก็บอัตลักษณ์ ร้านชายคาพักกาย เขตวังทองหลาง เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. รับบริการคิวออนไลน์ 1,200 คนต่อวัน และ 2.ศูนย์เก็บอัตลักษณ์ตลาดสดสี่แยกหนองจอก เขตหนองจอก เปิดทำการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. รับบริการคิวออนไลน์ 2,400 คนต่อวัน โดยขอย้ำว่าทั้ง 2 แห่งจะเปิดทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ การเข้ารับบริการให้จองคิวออนไลน์ล่วงหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี