กรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง 8 หน่วยฯ ทั่วประเทศ ปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้ง หมอกควันไฟป่า ปัญหาฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐาน และเติมน้ำในอ่างเก็บน้ำรองรับการใช้การอุปโภค-บริโภคและทำการเกษตร
นายปนิธิ เสมอวงษ์ รองอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ด้านปฏิบัติการเปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เปิดปฏิบัติการฝนหลวงสู้ภัยแล้ง ประจำปี 2564 อย่างเป็นการทางการเรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งในปีนี้เปิดหน่วยปฏิบัติการฯ เร็วขึ้น จากเดิมปกติทุกวันที่ 1 มีนาคมของทุกปี เนื่องด้วยสถานการณ์ภัยแล้งในปี 2564 มีแนวโน้มอาจจะรุนแรงมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา รวมถึงปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำมีปริมาณต่ำกว่า 30% ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบให้พื้นที่การเกษตรและพี่น้องประชาชนการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค-บริโภคน้ำ
โดยในปี 2564 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีแผนปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ การเติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่างๆ ป้องกันการเกิดไฟป่า บรรเทาปัญหาหมอกควัน รวมทั้งสถานการณ์ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในหลายพื้นที่ของประเทศ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ กรุงเทพฯ และปริมณฑล เริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ประกอบด้วยศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามบินกองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก ณ สนามบินท่าอากาศยานตาก อำเภอเมือง จังหวัดตากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ณ กองบิน 46 อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลางตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ ณ สนามบินนครสวรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี ณ สนามบินกาญจนบุรี ค่ายสุรสีห์ อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุดรธานี ณ สนามบินกองบิน 23 อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี และตั้งฐานเติมสารฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น ณ สนามบินท่าอากาศยานขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดบุรีรัมย์ ณ ท่าอากาศยานบุรีรัมย์ อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดระยอง ณ สนามบินอู่ตะเภา อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ณ กองบังคับการกองบิน 7 อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี และ ตั้งหน่วยปฏิบัติการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ท่าอากาศยานหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์อย่างไรก็ตาม ทุกหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจะมีการติดตามสภาพอากาศ และข้อมูลความต้องการน้ำที่เกี่ยวข้องเป็นประจำทุกวันเพื่อวางแผนช่วยเหลือพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ เกษตรกรและประชาชน ติดตามข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติการฝนหลวงและขอรับบริการฝนหลวงได้ทางช่องทางต่างๆ ได้แก่ เพจ Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Instagram, Line OfficialAccount, Twitter (@drraa_pr) หรือโทรศัพท์ 0-2109-5100
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี