16 ก.พ. 2564 รศ.ชาญชัย พานทองวิริยะกุล อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวถึงการประชุมร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่น กับ บริษัท เมดิเซนส์ อินเทลลิเจนซ์ จำกัด ณ ห้องประชุม ชั้น 6 อาคารสิริคุณากร มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 9 ก.พ. 2564 ที่ผ่านมา ว่า การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลรูปแบบแผนงานการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันและหนังสือเดินทางสุขภาพด้วยเทคโนโลยีบล็อกเซน รวมไปถึงการหาแนวทางความร่วมมือของทั้งสองฝ่าย เพื่อนำไปสู่การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือร่วมกัน
โดยการดำเนินการของระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันและหนังสือเดินทางสุขภาพ จะเชื่อมโยงกับด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมไปถึงการเปิดประเทศ ซึ่งสถานการณ์โควิด-19 มีส่วนอย่างยิ่งที่เร่งให้การดำเนินการเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยเร็ว โดยในการจัดการโครงการนี้จะมีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นคณะทำงานหลัก ตั้งคณะทำงานมาชุดหนึ่งมีอธิการบดี รองอธิการบดีฝ่ายทรัพยากรบุคคล เป็นที่ปรึกษา ต่อจากนั้นจะลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในลำดับถัดไป
“แผนการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันแบ่งเป็นทั้งหมด 2 ระยะหลัก ระยะที่ 1 เป็นการพัฒนาระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันเพื่อใช้ในบุคลากรทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ระยะที่ 2 ขยายระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันเพื่อใช้สำหรับบุคลากรทั้งหมดของมหาวิทยาลัยขอนแก่น อย่างไรก็ตาม ระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันเมื่อพัฒนาเสร็จสมบูรณ์แล้วสามารถขยายผลเพื่อใช้สำหรับนักศึกษาและประชาชนทั่วไปได้” รศ.ชาญชัย กล่าว
ขณะที่ นพ.ธนภพ ณ นครพนม นักวิชาการด้านสารสนเทศสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า เป็นระบบดิจิทัลที่ต้องการพัฒนาให้บุคลากรมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยระบบจะบันทึก จัดเก็บ และตรวจสอบข้อมูลการให้วัคซีน ซึ่งจะมีประโยชน์กับทั้งผู้ได้รับวัคซีนและผู้ให้บริการวัคซีน โดยมีฟังก์ชันการทำงานที่สำคัญ อาทิ 1.ระบบจัดเก็บและบันทึกข้อมูลของภูมิคุมกัน โดยสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ทั้งผู้ได้รับวัคซีนและผู้ให้บริการวัคซีน
2.ระบบช่วยวิเคราะห์ประเภทวัคซีนที่จำเป็นและเหมาะสมรายบุคคล โดยพิจารณาจากข้อมูลของผู้รับวัคซีน เช่น วัคซีนที่จำเป็นสำหรับบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการสัมผัสสารคัดหลั่งที่อาจก่อให้เกิดโรคติดเชื้อ รวมไปถึงการแจ้งเตือนการรับวัคซีน วันและเวลาในการรับวัคซีนครั้งถัดไป 3.ระบบออกใบรับรองการได้รับวัคซีน (Vaccination Certificate) 4.ระบบติดตามเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ภายหลังการได้รับวัคซีน
และ 5.การให้ความรู้เกี่ยวกับวัคซีน เช่น ความเสี่ยงและประโยชน์ของการรับวัคซีน ซึ่ง ระบบข้อมูลภูมิคุ้มกันนี้จะพัฒนาโดยอ้างอิงแนวทางขององค์การอนามัยโลก Centers for Disease Control and Prevention ประเทศสหรัฐอเมริกา และ European Centre for Disease Prevention and Control สหภาพยุโรป และพัฒนาบนมาตรฐานข้อมูลสุขภาพ HL7 FHIR มาตรฐาน W3C Verifiable Credential
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘เดนมาร์ก’เอาแน่‘วัคซีนพาสปอร์ต’เริ่มสิ้นกุมภา64 ให้ภาคธุรกิจก่อน-เชื่อฟื้นศก.ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี