17 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพของแม่น้ำโขงบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่1 ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เริ่มแห้งและมีสภาพตื้นเขิน ทั้งนี้ทางเจ้าท่าเชียงรายรายงานระดับน้ำโขง หน้าที่ว่าการ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 15 ก.พ. = 1.88 เมตร วันที่ 16 ก.พ. = 1.89 เมตร และเช้าวันนี้ 17 ก.พ. 64 = 1.84 เมตร จนทำให้สันดอนทรายและโขดหินโผล่ขึ้นให้เห็นในหลายจุุด ท่าเทียบเรือหลายแห่งลดระดับจนติดพื้นทราย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำรวก หรือที่เรียกว่า "สบรวก" มีสายน้ำเป็นสองสีและบริเวณด้านหน้าโรงแรมโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล พาราไดซ์ รีสอร์ท ที่มีเนินทรายขนาดใหญ่ ลักษณะดังกล่าวทำให้การเดินเรือ แม้ว่าจะเป็นเรือหางยาวขนาดเล็กที่แล่นผ่านบริเวณองค์พระนวล้านตื้อ เพื่อขนส่งสินค้าหรือผู้โดยสารไปในลำน้ำรวก คนขับเรือต้องอาสํยความชำนาญในการหาร่องน้ำลึก อีกทั้งต้องเร่งเครื่องยนต์อย่างแรงเนื่องจากท้องเรือติดสันดอนทราย ทำให้เรือสามารถไปได้อย่างเชื่องช้าและติดพื้นทรายเป็นช่วงๆ
ขณะที่บริเวณหมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้าน ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านสบรวก ห่างจากบริเวณสามเหลี่ยมทองคำประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีชาวประมงมารวมกันเพื่อออกหาปลามากที่สุดของพื้นที่อำเภอเชียงแสน ก็พบว่าชาวประมงได้มีการนำเรือหาปลาเกือบทุกลำผูกไว้ริมตลิ่งหรือแพปลา โดยไม่มีการออกหาปลากันเลยในระยะนี้ ซึ่งเรือหลายลำและแพปลาหลายจุดเริ่มมีต้นหญ้างอกขึ้นเต็มไปหมด
นายขาน โปราหา อายุ 43 ปี ชาวประมงพื้นบ้านหมู่บ้านชาวประมงบ้านสวรวก กล่าวว่า ปัจจุบันหมู่บ้านชาวประมงบ้านสบรวกเหลือชาวบ้านที่มายึดอาชีพประมงน้ำจืดหาปลาในแม่น้ำเพียง 30 ราย จากเดิมที่มีอยู่มากกว่า 50 ราย ซึ่งทุกวันนี้มีออกหาปลากันเพียง 2-3 รายเท่านั้น เนื่องจากระดับน้ำที่ลดลงจนแห้งเช่นนี้หาปลาไม่ค่อยได้ทำให้หลายคนต้องหันไปทำอาชีพทำสวนทำนา หรือรับจ้างทั่วไปเพื่อหารายได้แทน โดยเป็นเช่นนี้มาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่น้ำโขงเริ่มแห้ง
"ทั้งนี้ปลาที่หายากและน้ำโขงที่ขึ้นลงไม่ปกติ น่าจะมาจากการสร้างเขื่อนน้ำโขงในประเทศและการสร้างเขื่อนล่าสุดในประเทศลาว ซึ่งจีนมีการควบคุมน้ำ และปล่อยน้ำมาในปริมาณไม่มากแม้ในช่วงฤดูแล้งของทุกปีจะเป็นช่วงที่น้ำโขงแห้งอยู่แล้วแต่ก็ไม่เท่ากับที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ในส่วนเขื่อนในประเทศลาว ก็ขวางเส้นทางน้ำทำให้ปลาไม่สามารถขึ้นมาวางไข่ได้ ทำให้ปริมาณปลาน้ำจืดจึงลดปริมาณลง เหลือเฉพาะปลาพื้นถิ่นส่วนปลาจากต่างถิ่นไม่สามารถขึ้นมาได้เหมือนในอดีต ซึ่งอนาคตชาวประมงพื้นบ้านอาจจะหมดไป หรือจะเหลือเพียงเป็นอาชีพเสริมไม่กี่รายเท่านั้น" นายขาน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี