ศาลสั่งประหารชีวิต
2ลูกชาย‘เล่าต๋า แสนลี่’
ครอบครอง/ค้าเฮโรอีน
คุกตลอดชีวิตลูกแก๊ง
ศาลพิพากษา ประหารชีวิตสถานเดียว 2 ลูกชาย “เล่าต๋า แสนลี่” นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ฐานร่วมกับพวกมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย สั่งจำคุกตลอดชีวิตจำเลยเครือข่ายที่ร่วมกระทำความผิด
เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่อัยการคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ฟ้องนายปรีชา แสนลี่ , นายอำนาจ แสนลี่ (ทั้งสองเป็นลูกชายของนายเล่าต๋า แสนลี่ ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่), นายสมเจต แสนฟู่ นายปริญญา หมื่นอภัย, น.ส.ศิริวรรณวงค์สา, นายศุภกร ภารสวัสดิ์, นายนัฐพงษ์ หมื่นอภัย และนายเชาวสิทธิ์ แก้วกองมา เป็นจำเลยที่ 1-8 ในความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ, พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด โดยมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ
คดีนี้โจทก์ได้ฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 12 พฤษภาคม 2561-11 พฤษภาคม 2562 จำเลยได้ร่วมกันมีเฮโรอีน ไฮโดรคลอไรด์ บรรจุในถุงแลหลอด น้ำหนัก 12 กิโลกรัมเศษ ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและร่วมกันฟอกเงิน วางแผนแบ่งหน้าที่กันทำ ส่งจากพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ไปยัง อ.สุไหง-โกลก จ.นราธิวาส และที่อื่น โดยจำเลยที่ 6-8 ให้ความช่วยเหลือเปิดบัญชีธนาคารรับและโอนเงินจากการค้ายาเสพติด นำไปฟอกเงินโดยซื้อบ้าน สิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ ที่ดิน สัตว์เลี้ยงและอื่นๆรวม220รายการ มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ต่อมาวันที่ 3 กันยายน 2562 เจ้าหน้าที่จับกุมจำเลยได้พร้อมของกลางจำนวนมาก ในชั้นสอบสวน จำเลยที่ 1-5 และ 7-8 ให้การปฏิเสธ ส่วนจำเลยที่6 ให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ชี้ให้เห็นว่าจำเลยที่ 1-3 และ จำเลยที่ 6 รับสารภาพเพราะจำนนต่อพยานหลักฐาน ส่วนจำเลยที่ 4-5 และ 7 นำสืบทำนองว่ารายได้ในบัญชีธนาคารได้จากอาชีพรับเหมาก่อสร้าง รวมทั้งบิดามารดาจำเลยมีรายได้ สามารถให้จำเลยที่ 4 ยืมเงิน และจำเลยที่ 4 ได้โอนเข้าบัญชีธนาคารเพื่อชำระหนี้ ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ ในทางนำสืบ จำเลยที่ 4-5และ7-8 ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยที่ 1-5 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ 2522 และ พ.ร.บ.มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 2534 และจำเลยที่ 2-8 มีความผิดตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน 2542 โดยการกระทำของจำเลยที่ 2-8 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
จำเลยที่ 2-4 มีความผิดฐานสมคบกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้กระทำความผิด เพราะเหตุที่ได้สมคบกันฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้ลงโทษประหารชีวิต จำเลยที่ 5-8 ให้ลงโทษฐานเป็นผู้สนับสนุนช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตัวการ ให้ลงโทษประหารชีวิต และตามฟ้องจำเลยที่ 1,4,5 มีความผิดฐานสมคบกันเพื่อมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และกระทำความผิดเพราะเหตุที่ได้สมคบกันฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวแต่เป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานร่วมกันมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ให้ลงโทษประหารชีวิต
จำเลยที่ 2-8 มีความผิดฐานสมคบโดยตกลงกันเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้กระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้สมคบกันฯ เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันฟอกเงินซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักที่สุด ให้ลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี
จำเลยที่ 6-8ให้การในชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษคนละ 1 ใน 3 ฐานเป็นผู้สนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด คงจำคุกจำเลยที่ 6-8 ตลอดชีวิต ฐานร่วมกันฟอกเงิน คงจำคุกจำเลยที่ 6-8 คนละ 16 เดือน
เมื่อลงโทษจำเลยที่2-5ประหารชีวิตและลงโทษจำคุกตลอดชีวิตจำเลยที่ 5-8ตามฟ้องในข้อหาสมคบกันทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดแล้วจึงไม่อาจนำโทษฐานอื่นมาเรียงกระทงลงโทษได้อีกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา91(3)คงประหารชีวิตจำเลยที่1-5สถานเดียว และจำเลยที่6-8ให้จำคุกตลอดชีวิต ริบของกลางทั้งหมด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับ นายเล่าต๋า แสนลี่ นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ ก่อนหน้านี้ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิตฐานมีเฮโรอีน และยาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายมาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี