UNODC ห่วงผลิตยาเสพติดใน “สามเหลี่ยมทองคำ” เติบโตมากขึ้น แฉปรับวิธีผลิตใหม่ มอบ 2 เครื่องตรวจสารเสพติดดีที่สุดในโลกให้ ป.ป.ส. ด้าน “สมศักดิ์” ชอบใจหวังช่วยให้ไม่ผิดพลาดซ้ำยึดเคตามีนที่บางปะกง
24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ยาเสพติด สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กรุงเทพมหานคร (ทุ่งสองห้อง) นายเจเรมี ดักลาส ผู้แทนจาก UNODC ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก มอบอุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์สารเสพติดและสารเคมีโดยใช้เทคนิค Raman Spectroscopy ชนิดพกพาจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime : UNODC) ให้กับ ป.ป.ส. โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นผู้รับมอบ
นายเจเรมี กล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดในภูมิภาคเอเชีย ยังรุนแรงและมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้น โดยเฉพาะการผลิตยาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งยังเป็นปัญหาหลักที่ทำให้การแพร่ระบาดไม่ได้ลดลง เนื่องจากการผลิตยาเสพติดได้เปลี่ยนจากการใช้พืชเสพติดมาใช้สารสังเคราะห์เพิ่มมากขึ้น ส่วนสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองในเมียนมาจะส่งผลกระทบต่อการผลิตยาเสพติดหรือไม่นั้น ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าอาจจะเลวร้ายหรือไม่ เพราะสถานการณ์การเมืองในเมียนมามีความสลับซับซ้อนมากๆ
นายเจเรมี กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาการทำงานของ ป.ป.ส. ด้านการปราบปรามยาเสพติดถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องการยืดทรัพย์เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดและการจับกุม ซึ่ง UNODC พร้อมสนับสนุนเครื่องมือเพื่อนำมาใช้ตรวจวิเคราะห์สารเสพติดและสารเคมีโดยใช้เทคนิค Raman Spectroscopy ชนิดพกพา จำนวน 2 เครื่อง ถือเป็นเครื่องตรวจหาสารเสพติดที่ดีที่สุดในโลก และนิยมใช้ตรวจหาสารเสพติดในสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้สำหรับเจ้าหน้าที่ภาคสนาม โดยอุปกรณ์ดังกล่าวจะตรวจพิสูจน์สารสังเคราะห์ได้มากถึง 500 ชนิดตัวอย่าง และมีระดับความแม่นยำในการตรวจพิสูจน์เบื้องต้น 95-100% นอกจากนี้ยังได้มอบอุปกรณ์ดังกล่าวให้กับกัมพูชา และ สปป.ลาว ด้วย
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการทดสอบวิธีการใช้งานอุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์สารเสพติดและสารเคมีชนิดพกพาถือว่ามีความแม่นยำสูง เพราะหลังจากตรวจเบื้องต้นแล้ว ก็จะต้องนำของกลางหรือสารสังเคราะห์ส่งตรวจในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์อีกครั้ง เชื่อว่าเครื่องมือดังกล่าวจะไม่ทำให้เกิดความผิดพลาดเหมือนกรณีที่ตรวจพบสารไตรโซเดียมฟอสเฟตโดยเข้าใจผิดว่าเป็นเคตามีน เหมือนเมื่อครั้งตรวจยึดของกลางที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
ส่วนนายวิชัย กล่าวว่า อุปกรณ์ตรวจวิเคราะห์สารเสพติดและสารเคมีใช้เทคนิค Raman Spectroscopy ชนิดพกพา ที่ได้รับมอบจาก UNODC จะมอบให้เจ้าหน้าที่ในภาคสนามใช้ตรวจสอบยาเสพติด สารตั้งต้น เคมีภัณฑ์ และสาร Cutting agent(สารที่เติมเข้าไปในยาเสพติด) แต่ไม่ใช่สารเสพติด เช่น แป้ง สารส้ม สารแต่งกลิ่น สี ฯลฯโดยจะตรวจวิเคราะห์สารได้ทั้งรูปแบบผง ผลึก เม็ด แคปซูล ของเหลว และยังสามารถจำแนกสารชนิดต่างๆ โดยใช้วิธีการยิงแสงเลเซอร์และวัดค่ากระเจิงของแสง เฉพาะในกรณีที่ภาชนะหรือวัสดุหุ้มโปร่งใสหรือโปร่งแสงมีความหนาไม่เกิน 2 มิลลิเมตร โดยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับของกลางโดยตรง ลดความเสี่ยงของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และรักษาหลักฐานไว้ได้ การตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจากการใช้อุปกรณ์นี้ มีความแม่นยำกว่าการตรวจพิสูจน์ด้วยวิธี Color test แบบปัจจุบัน และรวดเร็วใช้เวลาไม่เกิน 30 วินาที
“ป.ป.ส. จะนำอุปกรณ์ดังกล่าวไปใช้ตรวจพิสูจน์ยาเสพติดที่สนามบินและท่าเรือจำนวน 1 เครื่อง และอีก 1 เครื่องจะส่งไปไว้ที่ ป.ป.ส.ภาค 5 เพื่อให้เจ้าหน้าที่นำไปใช้พื้นที่ภาคเหนือและชายแดนภาคเหนือต่อไป เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีปัญหาเรื่องการลักลอบนำเข้ายาเสพติดบ่อยครั้ง”เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี