26 ก.พ.64 นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ร่วมกันทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระสงฆ์ จำนวน 50 รูป เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและความเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิต เนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2564
โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16-17-18 (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร เป็นประธานสงฆ์/กล่าวสัมโมทนียกถาให้พรแก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมพิธี ณ บริเวณถนนราชดำเนินหน้าวัดพระมหาธาตุ วรมหาวิหาร ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้พุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากได้ร่วมสืบสานประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุในงานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ ประจำปี 2564 ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมาเป็นครอบครัว หมู่คณะ มีการร่วมกันนำผืนผ้าสีเหลืองจีวรเป็นม้วนที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้ด้วยการทำบุญตามกำลังศรัทธา หรือผ้าที่พ่อค้าแม่ค้านำมาจำหน่ายเมตรละ 15-20 บาท จากนั้นมีการนำมาคลี่ออกความยาวประมาณ10-20 เมตร แล้วมีการถือเป็นแถวเดินเวียนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ จำนวน 3 รอบ จากนั้นจะมีการนำไปพันรอบองค์เจดีย์รายที่อยู่รอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา โดยผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนต้องผ่านจุดคัดกรอง และสวมหน้ากากอนามัย 100 %
วันเดียวกัน ที่ศาลาการเปรียญ วัดเจียงอีศรีมงคลวราราม พระอารามหลวง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ พระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับนายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อม รอง ผวจ. นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ประกอบพิธี ทำบุญตักบาตร พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ และพิธีเวียนเทียน งานสัปดาห์ส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันมาฆบูชา ประจำปี 2564 เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว สืบสานวัฒนธรรมประเพณีของไทย และเพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ มีประชาชน พุทธศาสนิกชนร่วมในพิธีคับคั่ง
ขณะเดียวกัน ที่วัดเลียบ เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา ประชาชาวสงขลา ได้นำอาหารหวานคาวข้าวสารอาหารแห้งมาร่วมในพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสงฆ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องวันมาฆบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นวันที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทานพระโอวาทสำคัญอันถือได้ว่าเป็นหัวใจของคำสอนในพระพุทธศาสนา คือ โอวาทปาฏิโมกข์ ในวันเพ็ญ (ขึ้น 15ค่ำ) เดือนสาม ดวงจันทร์โคจรมาเสวยมาฆฤกษ์ แต่ถ้าปีใดมี อธิกมาส คือ เดือนแปดสองแปด วันมาฆบูชาก็จะเลื่อนไปเป็นวันเพ็ญกลางเดือนสี่ เหตุการณ์ดังกล่าวนี้เกิดขึ้นที่ พระเวฬุวัน เมืองราชคฤห์ รัฐมคธ ในปีแรกของการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ คือ หลังจากตรัสรู้แล้วได้ 9
ส่วนที่วัดศรีโคมคำ (พระอารามหลวง )ตำบลเวียงอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา และวัดแม่ใสตำบลแม่ใสอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ได้มีพุทธศาสนิกชนเข้ามาทำบุญตักบาตรไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล วันสำคัญวันมาฆบูชา
สำหรับวันมาฆบูชา คือเป็นวันสำคัญที่พระพุทธเจ้า ให้ “โอวาทปาติโมกข์” เป็นหลักธรรมอันเป็นหลักหัวใจสำคัญในพระพุทธศาสนาที่พระพุทธเจ้าแสดงธรรมให้แก่พระอรหันต์ทั้ง 1,250 รูปในวันนั้น ได้แก่ การทำความดี, ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ ในวันนี้ถือว่าเป็นวันพระใหญ่ “วันมาฆบูชา” ถือว่าเป็นวันสำคัญทางประพุทธศาสนา ทำให้พุทธศาสนิกชนจำนวนมากต่างพาบุตรหลานและครอบครัวไปทำบุญ ตามวัดต่าง ๆ กันอย่างคึกคัก เพื่ออุทิศกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว โดยเฉพาะที่วัดราชบูรณะ อ.เมืองพิษณุโลก ตั้งแต่เช้ามีประชาชนได้พาครอบครัวนำข้าวสุก อาหารคาวหวาน มาถวายพระภิกษุสงฆ์ ฟังเทศน์ ฟังธรรม เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
พระครูสิทธิธรรมวิภัช เจ้าอาวาสวัดราชบูรณะ เปิดเผยว่า ในวันนี้ มีพุทธศาสนิกชนได้มาร่วมทำบุญมากกว่าวันพระปกติ ซึ่งในวันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญยิ่งทางพุทธศาสนา เนื่องจากเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ แก่บรรดาพระอรหันต์ จำนวน 1,250 รูป ตรงกับวันเพ็ญเดือน 3 หรือ วันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 โอวาทปาติโมกข์ ที่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ได้แก่ การไม่ทำบาปทั้งปวง การทำความดีให้ถึงพร้อม และการทำจิตใจให้บริสุทธิ์ หลักธรรมคำสอนดังกล่าว ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา ที่พุทธศาสนิกชนควรจะได้รำลึกถึงคำสอนของพระองค์ ด้วยการสวดมนต์ รักษาศีล และเจริญจิตภาวนา เพื่อขัดเกลาจิตใจ เป็นบุคคลที่มีคุณธรรมจริยธรรม สามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
โดยในยุคของโควิด -19 ตามวัดต่าง ๆ ถือว่าได้รับผลกระทบหลายอย่าง อาทิ มีผู้ใจบุญแจ้งความจำนง ต้องการมาสร้างผ้าป่าข้ามปี ก็งดไปหลายเจ้าภาพ แต่ก็มีการทำบุญแบบออนไลน์ หรือ โอนเข้าบัญชีวัดมากขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี