ราชทัณฑ์ ชี้แจงปมไม่ตัดผมแกนนำกลุ่ม กปปส. ขณะการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก"เพนกวิน-อานนท์ "เป็นการโพสต์โดยแอดมินเพจ ยืนยันผู้ต้องขังห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด”
วันที่ 27 ก.พ.64 นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงข้อสงสัยของสังคมในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง กรณีการโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน แกนนำคณะราษฎร และนายอานนท์ นำภา ว่าเพราะเหตุใดจึงสามารถโพสต์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ได้ รวมถึงกรณีของการไม่ดำเนินการตัดผมนายสุเทพ เทือกสุบรรณ พร้อมพวก ซึ่งเป็นแกนนำกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ว่าเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอชี้แจงว่า กรณีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของนายพริษฐ์ฯ และนายอานนท์ บ่อยครั้ง นับตั้งแต่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และกรมราชทัณฑ์ได้ทำการตรวจค้นภายในเรือนจำฯ รวมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรียบร้อยแล้ว ไม่พบว่ามีการใช้เครื่องมือสื่อสารภายในเรือนจำฯ จึงสันนิษฐานได้ว่าเป็นการโพสต์ข้อมูลจากเครื่องมือสื่อสารภายนอก โดยแอดมินเพจหรือผู้ที่มีรหัสผ่านดำเนินการโพสต์สารที่ได้รับจากนายพริษฐ์ฯ และนายอานนท์ฯ ในระหว่างเข้าพบทนายความส่วนตัวเพื่อปรึกษาคดีเป็นการเฉพาะ ซึ่งเป็นการสนทนาผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้ นายพริษฐ์ ได้เคยยืนยันเองว่า ถ้อยคำที่สื่อสารออกไปเป็นข้อความที่ตนได้ฝากไว้กับทนายความและคนไว้วางใจให้ช่วยถ่ายทอดสู่สาธารณะ โดยไม่ได้โพสต์ในเรือนจำแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในกรณีดังกล่าว กรมราชทัณฑ์ได้เข้าร้องทุกข์ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท. เพื่อหาตัวบุคคลผู้เป็นคนโพสต์ และให้ตรวจสอบการกระทำดังกล่าว เนื่องจากถูกนำชื่อเข้าไปเกี่ยวข้องในโพสต์ และทำให้สังคมเข้าใจผิดต่อการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ ซึ่งสร้างความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ของกรมราชทัณฑ์เป็นอย่างมาก
นายอายุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีการไม่ตัดผมแกนนำกลุ่ม กปปส. นั้น โดยแนวทางปฏิบัติทั่วไป เมื่อบุคคลใดต้องโทษเข้ามาในเรือนจำและทัณฑสถาน จะได้รับการปฏิบัติตามระเบียบขั้นตอน คือ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจค้นตัวตามหลักสิทธิมนุษยชน พร้อมดำเนินการตรวจคัดกรองโรคโดยแพทย์ และเจ้าหน้าที่พยาบาล ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าอบรบชี้แจงระเบียบ การปฏิบัติตน รวมถึงการใช้ชีวิตในเรือนจำ ซึ่งอย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครได้รับตัว นายสุเทพฯ พร้อมกับพวก คือ เวลาประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 และเจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจค้นตัว และคัดกรองตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19แล้วเสร็จ ในเวลาประมาณ 22.45 น. ซึ่งสมควรแก่เวลาที่ต้องแยกขัง
และในวันต่อมา เวลาประมาณ 08.30 น. นายสุเทพ พร้อมกับพวกได้ออกพบทนายความ กระทั่งถึงเวลา 10.30 น. ทั้งหมดได้ออกพบแพทย์ตรวจอาการ ตามที่ได้แจ้งไว้กับเจ้าหน้าที่พยาบาล จนดำเนินการแล้วเสร็จในเวลาประมาณ 14.45 น. โดยเวลาดังกล่าวเป็นเวลากระชั้นชิดกับเวลาที่ผู้ต้องขังต้องเตรียมตัวขึ้นเรือนนอน จึงยังไม่ได้ดำเนินการตัดผมของนายสุเทพฯ พร้อมกับพวก จนกระทั่งในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ๒ เวลา 08.30 น. ทางเรือนจำฯ ได้รับการประสานงานว่าให้นำตัวนายสุเทพฯ และแกนนำกลุ่ม กปปส. ทั้งหมดไปยังที่ทำการพัศดีเวร เพื่อรอการปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นเวลาต่อเนื่องจึงเป็นเหตุที่นายสุเทพ พร้อมกับพวก ยังไม่ได้รับการตัดผมตามระเบียบกรมราชทัณฑ์
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ตนขอให้สังคมและประชาชนทุกฝ่ายเชื่อมั่นต่อการปฏิบัติงานของกรมราชทัณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน และเป็นมาตรฐาน ตามหลักสิทธิมนุษยชน และไม่มีการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง โดยยึดถือกฎ ระเบียบ และวินัยต่างๆ ที่ข้าราชการกรมราชทัณฑ์ทุกคนพึงยึดถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี