กรมส่งเสริมการเกษตรต่อยอดการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต ยกระดับสู่ธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน ผ่านกลไก ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ที่มีศักยภาพ 394 ศูนย์ พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายเกษตรกร เพื่อขยายผลการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง ให้ครอบคลุมพื้นที่การเกษตรในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการเกษตรเห็นความสำคัญของงานดินและปุ๋ย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตให้แก่พืชทั้งปริมาณและคุณภาพ แต่เกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เรื่องการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้อง จึงจัดตั้งศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชน (ศดปช.) ขึ้น จำนวน 882 ศูนย์ ในปี 2558 ต่อมาปี 2560 ศดปช. ถูกจัดให้เป็นเครือข่ายของศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) ด้านดินและปุ๋ยในพื้นที่ มีการบริหารจัดการโดยเกษตรกร เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ให้บริการตรวจวิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจสอบ N P K และ pH ในดินแบบรวดเร็ว บริการวิชาการด้านดินและปุ๋ย โดยให้คำแนะนำการจัดการดินและการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องด้วยเทคโนโลยีการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อลดต้นทุนการผลิตรวมถึงเทคโนโลยีด้านดินปุ๋ยอื่นที่เหมาะสม จัดกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมด้านดินและปุ๋ย จัดทำแปลงเรียนรู้ จุดสาธิตเพื่อขยายผลการใช้ปุ๋ยเพื่อลดต้นทุนการผลิต รวมทั้งบริการรวบรวมความต้องการและจัดหาแม่ปุ๋ยให้สมาชิกได้ใช้ตามคำแนะนำ ซึ่งผลการดำเนินงานของ ศดปช. 882 ศูนย์ ในปี 2563 สมาชิก ศดปช. สามารถลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีในพืชเศรษฐกิจสำคัญ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง อ้อย ไม้ผล พืชผัก ยางพารา และปาล์มน้ำมัน ได้เฉลี่ย 25% และผลผลิตเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 14% ในพื้นที่ 222,293 ไร่
และเนื่องจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ส่งผลกระทบต่อการผลิตและการระบายสินค้าเกษตรของเกษตรกรไทย กรมส่งเสริมการเกษตรได้รับอนุมัติ “โครงการพัฒนาธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน (One Stop Service)” จาก ครม. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 ให้ใช้เงินกู้ภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิตด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการวิเคราะห์ดินและใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินและเพื่อพัฒนา ต่อยอด ศดปช. ที่มีศักยภาพให้สามารถดำเนินธุรกิจในการจัดหาปุ๋ยที่มีคุณภาพใช้ในชุมชน สร้างความเข้มแข็งและพึ่งพาตนเองให้แก่เกษตรกร โดยมีเกษตรกรเป้าหมายคือ เกษตรกรสมาชิก ศดปช. แปลงใหญ่ ที่ปลูกพืชเศรษฐกิจสำคัญ (ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย มันสำปะหลัง ไม้ผล พืชผัก ยางพารา ปาล์มน้ำมัน) ใน 394 ศูนย์ 63 จังหวัด จำนวนประมาณ 107,000 ราย
ทั้งนี้ ศดปช. ทั้ง 394 ศูนย์ จะได้รับชุดตรวจวิเคราะห์ดิน (Soil test kit) แม่ปุ๋ย 3 สูตร ได้แก่ สูตร 46-0-0 สูตร 18-46-0 และ
สูตร 0-0-60 จำนวนหนึ่งเพื่อเป็นทุนตั้งต้นในการทำธุรกิจ และเครื่องผสมปุ๋ย จำนวน 1 เครื่อง โดยศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนให้บริการความรู้เรื่องดินและปุ๋ย บริการตรวจวิเคราะห์ดินด้วยชุดตรวจวิเคราะห์ดินแบบรวดเร็ว (Soil test kit) รวบรวมจัดหา บริการปุ๋ยคุณภาพดีให้แก่สมาชิก และบริการผสมปุ๋ยด้วยเครื่องผสมปุ๋ย หากเกษตรกรไม่สามารถผสมปุ๋ยเองได้ รวมทั้งสนับสนุนเกษตรกรรวมกลุ่มการเรียนรู้ โดย ศดปช. ต้องจดทะเบียนขายปุ๋ยกับกรมวิชาการเกษตร เพื่อจะได้สามารถขายปุ๋ยให้กับเกษตรกรทั่วไปได้ และเพื่อต้องการสร้างความมีส่วนร่วม สมาชิก ศดปช. ทุกคนต้องลงหุ้นเพื่อเป็นทุนในการบริหารจัดการ ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าจ้าง เป็นต้น ตามรูปแบบการทำธุรกิจของแต่ละศูนย์ที่มีการประชุมวางแผนการดำเนินงานร่วมกัน
“หากศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนสามารถดำเนินธุรกิจบริการดินและปุ๋ยได้ ศูนย์จะมีรายได้จากการให้บริการตรวจวิเคราะห์ดิน จำหน่ายปุ๋ย และบริการผสมปุ๋ย มีเงินทุนหมุนเวียน สร้างรายได้ให้แก่ศูนย์จากผลกำไรของศูนย์ นอกจากสมาชิกจะได้รับผลประโยชน์แล้ว ยังสามารถแบ่งปันให้แก่ชุมชน ในรูปแบบสาธารณประโยชน์ต่างๆ และในอนาคตศูนย์ยังสามารถขยายธุรกิจบริการออกไปในด้านปัจจัยการผลิตอื่นๆ เพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้ศูนย์มีความเข้มแข็ง สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน”อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าว
ด้าน นายสิทธิพร เชิดนาม เลขาศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยบ้านไทรนอง ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งเป็นตัวอย่างโมเดลธุรกิจบริการดินและปุ๋ยเพื่อชุมชน เปิดเผยว่า ศูนย์จัดการดินปุ๋ยชุมชนวิสาหกิจชุมชนผลิตปุ๋ยบ้านไทรนอง เกิดจากการรวมกลุ่มของชาวสวนในพื้นที่ ภายใต้การสนับสนุนงบประมาณจากกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อให้เกษตรกรเรียนรู้และดำเนินการตรวจวิเคราะห์ดินก่อนการปลูกพืช นำไปสู่การเพิ่มธาตุอาหารที่ตรงกับความต้องการของพืช สามารถผสมปุ๋ยเคมีเพื่อใช้เอง ตามค่าวิเคราะห์ดินได้ ส่งผลให้ที่ผ่านมาช่วยลดต้นทุนในการทำการเกษตรให้สมาชิกได้เป็นอย่างดี และขณะนี้ได้มีการขยายผลเชื่อมโยงกับเครือข่าย ศพก. และแปลงใหญ่ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้สู่การนำไปปฏิบัติได้เอง รวมถึงต่อยอดธุรกิจในการจัดหาปุ๋ยที่มีคุณภาพใช้ในชุมชน โดยให้สมาชิกถือหุ้นเพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมและเพื่อใช้ในการบริหารจัดการ ซึ่งขณะนี้มีกำลังการผลิตประมาณ 8 ตันต่อวันเพื่อจำหน่ายให้กับเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ตามคำสั่งซื้อเท่านั้น ซึ่งโครงการนี้ช่วยให้เกษตรกรมีความรู้เรื่องดิน การใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องตามค่าวิเคราะห์ดิน ช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตได้มาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี