แรมโบ้อีสาน เตรียมชงลุงตู่ ของบ 2-3 พันล้าน ทุ่มสร้างโรงงานผลิตน้ำแร่พุโซดา ห้วยกระเจา แจกจ่าย ปชช.หากเจอวิกฤตน้ำท่วย-ภัยแล้ง เล่นงาน พร้อมพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้ชุมชน หลังควงอธิบดีฯน้ำบาดาล-นักวิชาการเคมี ม.เกษตรฯกำแพงแสน ลงพื้นที่ศึกษาพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน (บ่อน้ำพุโซดา) ห้วยกระเจา
3 มีนาคม 2564 นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยกำแพงแสน พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานโครงการศึกษา สำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกัดเก็บในหินแข็งระดับลึก ในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน (บ่อน้ำพุโซดา)บ้านทุ่งคูณ หมู่ 19 ต.ห้วยกระเจา อ.ห้วยกระเจา จ.กาญจนบุรี
โดยมีนายทนงศักดิ์ ล้อชูสกุล ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) นายเกรียงศักดิ์ ภิระไร ผอ.สำนักสำรวจและประเมินศักยภาพน้ำบาดาล นายสุรินทร์ วรกิจธำรง ผอ.สักนักพัฒนาน้ำบาดาล นายสุดใจ วงชารี ผอ.กองวิเคราะห์น้ำบาดาล นายศุภเวท ทองประยูร ผอ.สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 8(ราชบุรี)นายเฉลิมพล กลิ่นนิ่มนวล ที่ปรึกษากรมทรัพยากรน้ำบาดาล นายชลพรรษา บุญซื่อ นักวิชาการทรัพยาธรณีชำนาญการฯ เขต 2 (สุพรรณบุรี)นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นายก อบจ.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต 2 (สุพรรณบุรี) รวมทั้งผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ และประชาชนให้การต้อนรับ
เมื่อคณะเดินทางมาถึงได้เดินพบปะพูดคุยกับประชาชนที่ได้รับประโยชน์จากโครงการฯและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมและทดลองดื่มน้ำพุโซดาที่ทางเจ้าหน้าที่แจกให้ฟรีคนละ 500 ซีซี จากนั้นตรวจติดตามโรงผลิตแร่ และระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำแร่ พร้อมกับมอบน้ำแร่ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว เยี่ยมชมบ่อน้ำพุโซดา
ซึ่งครั้งนี้นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล รวมทั้ง รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ และคณะได้ทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่บริเวณบ่อน้ำดิบที่ยังไม่ผ่านการกรอง และทดลองดื่มน้ำแร่โซดาที่ผ่านระบบการกรองที่ได้มาตรฐานน้ำดื่ม เพื่อยืนยันและสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวไทยด้วย
ทั้งนี้ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปะศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาลัยกำแพงแสน เปิดเผยว่า สำหรับบ่อแร่โซดาที่เป็นน้ำดิบ สามารถทดลองดื่มได้แต่อย่าดื่มมากเนื่องจากปริมาณแร่เหล็ก(Fe)มีเกินเกณฑ์กำหนดที่เหมาะสม ส่วนน้ำแร่พุโซดาที่ผ่านการกรองแล้วพบเหล็กเหลือ 0 มิลลิกรรมต่อลิตรซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์กำหนดที่เหมาะสม ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีห้องแลปสำหรับตรวจคุณภาพน้ำอยู่แล้ว ซึ่งเป็นการตรวจจริงไม่ใช่มโนเมื่อค่าเหล็กเหลือ 0 ประชาชนจึงสามารถมารับน้ำบริเวณดังกล่าวได้
เมื่อถามว่าการตรวจเพื่อให้ได้มาตรฐานน้ำดื่มจะต้องผ่าน อย.ด้วยหรือไม่ ซึ่งนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ตอบและอธิบายว่าหากดำเนินการทางด้านการค้าจะต้องมี อย.เช่นบริษัทผลิตน้ำดื่มต่างๆเพราะเป็นการค้า แต่ถ้าหากทำเพื่อการแจกจ่ายให้ประชาชนไม่จำเป็นต้องมี อย.เพราะกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีห้องแลปสำหรับปฏิบัติการตรวจสอบคุณภาพน้ำที่ได้มาตรฐานน้ำดื่มอยู่แล้ว ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีจุดจ่ายน้ำ 203 แห่งทั่วประเทศ ไม่ใช่มีเพียงแค่ที่นี่ที่เดียว และที่แห่งนี้เป็นจุดจ่ายน้ำแห่งที่ 204 โรงงานที่เป็นแหล่งผลิตขวดน้ำของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีอยู่จำนวน 13 โนงงาน 80 เปอร์เซ็นต์มี อย.ซึ่ง อย.เขาจะไปดูขบวนการผลิตว่าสะอาดหรือไม่ ถูกหลักมาตรฐานน้ำดื่มหรือไม่เท่านั้นเอง เพราะมาตรฐานน้ำดื่มเขาจะระบุเอาไว้ว่าแร่ต่างๆที่มีอยู่จะต้องอยู่ในเกณฑ์กำหนดเอาไว้เท่าไหร่จึงจะเหมาะสม ที่เป็นมาตรฐานน้ำบาดาลที่จะสามารถใช้ดื่มได้ เช่นเหล็กที่พวกเราเป็นห่วงกันคือมีได้ไม่เกิน 1.00 มิลลิกรรมต่อลิตร แต่เครื่องกรองของเราตรวจสอบคุณภาพน้ำผลออกมาแล้วคือเหลือ 0 มิลลิกรรมต่อลิตร หมายถึงไม่มีแร่เหล็กปนเปื้อนอยู่เลย
เพราะฉะนั้นต้องขอขอบคุณคนที่เป็นห่วง และผมอยากให้คนที่เป็นห่วงได้ไปตรวจดูตามตู้กดน้ำตามสถานที่ต่างๆเพื่อดูว่าได้มาตรฐานหรือไม่ อย่ามาห่วงกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพราะอธิบดีฯรับผิดขอบอยู่แล้ว
ด้านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาที่ทำเนียบรัฐบาลท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยท่านวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งท่านปลัดกระทรวง และอธิบดีฯ ได้นำน้ำแร่ที่มีคุณภาพไปโชว์ ท่านนายกก็รู้สึกประทับใจและดีใจว่าอย่างน้อยที่สุดเลยคือประเด็นแรกสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตของภัยแล้ง สามารถที่จะใช้ในการอุปโภคบริโภคของประชาชนได้ ซึ่งท่านอธิบดีฯก็ได้รายงานทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของสายน้ำใต้ดินที่มีความยาวถึง 23 กิโลเมตร และมีน้ำมากถึง 500 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้น้ำที่มีอยู่ใต้ดินนั้นเพียงพอต่อประชาชนในพื้นที่ ในที่สุดท่านายกรัฐมนตรี ได้มีแนวคิดว่าจะขยายไปดูจุดอื่นๆที่จะมีน้ำใต้ดินที่มีลักษณะเป็นน้ำแร่อย่างนี้ เพื่อที่จะได้น้ำที่มีคุณภาพให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งจะเป็นการแก้วิกฤตของภัยแล้งได้
นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ส่วนตัวผมเองได้พูดคุยกับท่านอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และมีแนวทางที่จะกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ว่าอยากจะมีงบประมาณจำนวนหนึ่งหรือประมาณ 2,000-3,000 ล้านบาท เพื่อนำมาสร้างโรงงานผลิตน้ำดื่มที่เป็นของรัฐ โดยเฉพาะน้ำแร่ โดยผลิตเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในยามเกิดวิกฤตภัยอุทกภัยน้ำท่วมเพื่อนำไปแจกจ่ายให้ตามครัวเรือนที่ประสบอุทกภัย หรือแม้กระทั่งพี่น้องที่ประสบปัญหาวิกฤตภัยแล้งก็สามารถนำไปแจกจ่ายได้
ถ้ารัฐบาลมีโรงงานของรัฐเองโดยให้กรมทรัพยากรย้ำบาดาลเป็นเจ้าภาพจะสามารถผลิตน้ำดื่มที่มีคุณภาพขึ้นมาใช้เอง ผมเชื่อมั่นว่าต่อไปพี่น้องประชาชนจะมีน้ำอุปโภคและบริโภคที่สะอาดดื่มทุกครัวเรือนและเป้น้ำที่มีคุณภาพทางแร่ธาตุด้วย ตรงนี้ถ้าทางรัฐบาลลงมือทำประชาชนจะได้ประโยชน์และประชาชนคนไทยจะได้ดื่มน้ำที่สะอาดจริงๆตามที่ท่านอธิบดีฯศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ได้ให้สัมภาษณ์เอาไว้
ที่สุดแล้วท่านนายกรัฐมนตรี ได้พูดคุยกับท่ารัฐมนตรี ท่านปลัดกระทรวงฯและท่านอธิบดีฯว่า ต่อไปพื้นที่ตรงนี้จะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของชาวตำบลห้วยกระเจาและชาวจังหวัดกาญจนบุรี โดยเราอาจจะมีการให้ทางท่านนายก อบจ.นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ หรือหมอหนุ่ย รวมทั้งทางท้องถิ่น ได้เสนอโครงการขึ้นไปเพื่อจัดหางบประมาณที่จะนำมาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้
เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชมน้ำพุโซดาที่พวยพุ่งขึ้นมาโดยไม่มีวันลดลง ขณะเดียวกันจะได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนท้องถิ่น จึงถือว่าเป็นการสร้างแหล่งท่องเที่ยงแห้งใหม่ให้กับชาวจังหวัดกาญจนบุรีได้เป็นอย่างดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี