นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึง โครงการให้สิทธิติดตั้งป้ายโฆษณาบริเวณตอม่อสะพานรถยนต์ข้ามทางแยกและสะพานยกระดับของกรุงเทพมหานคร ว่า โครงการดังกล่าวมี 4 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ 1 ป้ายบริเวณตอม่อสะพานข้ามแยกรามคำแหง และสะพานข้ามแยกบางกะปิ จำนวน 448 ป้าย กลุ่มที่ 2 ป้ายบริเวณสะพานข้ามแยกเกษตรฯ จตุจักร รัชดาฯ ลาดพร้าว รัชโยธิน ประชานุกูล วงศ์สว่าง พงษ์เพชร ประดิษฐ์มนูธรรม-ลาดพร้าว ประดิษฐ์มนูธรรม-นวลจันทร์ และรามอินทรา จำนวน 354 ป้าย กลุ่มที่ 3 ป้ายบริเวณสะพานข้ามแยกยมราช ราชเทวี ประตูน้ำ เพชรบุรี คลองตัน ศรีอยุธยา ราชปรารภ ดินแดง ราชวิถี ศรีนครินทร์-อ่อนนุช ศรีนครินทร์-อุดมสุข ศรีนครินทร์-พัฒนาการ และบางนา จำนวน 163 ป้าย และ กลุ่มที่ 4 ป้ายบริเวณ อสมท คลองเตย พระราม 4 สะพานไทย-เบลเยียม สะพานไทย-ญี่ปุ่น พระราม 3 นางลิ้นจี่ และ บรมราชชนนี จำนวน 482 ป้าย ปัจจุบันได้หมดสัญญาลง เหลือเพียงกลุ่มที่ 2 ซึ่งจะหมดสัญญาเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2577 

ในกลุ่มที่หมดสัญญา ได้มีการรื้อถอนป้ายโฆษณาออกหมดแล้ว คือ กลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 4 ซึ่งเริ่มทยอยทำสัญญาตั้งแต่ปี 2548 อายุสัญญา 9 ปี โดยแต่ละสัญญาทยอยครบกำหนดตั้งแต่ปี 2556 เรื่อยมา เนื่องจากแต่ละสัญญาจะเริ่มไม่พร้อมกัน สำหรับป้ายเก่าที่หมดสัญญา กรุงเทพมหานครจะประกาศขายทอดตลอดให้ผู้ที่ชนะการประมูลดำเนินการรื้อถอนป้ายเองทั้งหมด ส่วนกลุ่มที่ 3 เพิ่งจะหมดสัญญา ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมประกาศขายทอดตลาด เพื่อรื้อถอนป้ายออกจากเสาตอม่อ ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเอกชนที่ได้รับสิทธิ จะรับผิดชอบลงทุนเองทั้งหมด โดยจ่ายผลตอบแทนให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ผลตอบแทนเป็นรายเดือนขึ้นอยู่กับแต่ละสัญญา เฉลี่ยประมาณ 400,000 บาท/เดือนและผลตอบแทนรายปีหรือเงินโบนัส พิเศษประมาณ 300,000 บาท/ปี  ตลอดอายุสัญญา ซึ่งระหว่างดำเนินการ กรุงเทพมหานครจะมีการติดตามประเมินผลเอกชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพิจารณาต่อสัญญาซึ่งจะทำทุกๆ 3 ปี หาก ผลการประเมินพบว่าเอกชนที่รับผิดชอบสัญญาใด มีปัญหาไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น การเผยแพร่สื่อโฆษณาที่มีเนื้อหา และสาระไม่เหมาะสม โดยเฉพาะสื่อโฆษณาที่ขัดต่อศีล 5 หรือเกี่ยวกับ บุหรี่ สุรา สารเสพติด หรือข้อความ ภาพ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง เป็นต้น กรุงเทพมหานครมีสิทธิยกเลิกสัญญาทันที แต่หากรายใดปฏิบัติตามเงื่อนไขก็จะพิจารณาต่อสัญญาให้ดำเนินการต่อไปจนกว่าจะครบอายุสัญญาที่กำหนด สำหรับในอนาคต กรุงเทพมหานครจะดำเนินโครงการนี้ต่อหรือไม่นั้นต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ว่าฯกทม.ว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป