มหาเถรฯชง
ห้ามวัดถือเงินสดเกิน1แสน
‘สุชาติ’เร่งออกก.ม.คุมเข้ม
สมภาร‘วัดชูจิตฯ’ยอมสึก
ผช.วัดกัลยาณมิตรลาสิกขา
ตร.เร่งสอบโอนเงิน11ล้าน
ปปป.สอบเส้นเงินเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ เมืองกรุงเก่า พบโอนเงิน 11 ล้านบาท ย่องสึกเงียบ ส่วนพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยฯ วัดกัลยาณ์ ลาสิกขาแล้ว ที่จ.ระยอง ด้านเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรยันบริสุทธิ์พร้อมให้สอบ เช่นเดียวกับพระไสว วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ชี้โอนเงิน 1.8 แสนช่วยสีกากอล์ฟ เพราะสงสาร ด้าน ‘สุชาติ’ จี้ออก กม.คุ้มครองฯ คาด 3-4 เดือน ชัดเจน ขณะที่ มหาเถรฯ ออกกฎให้วัดทำบัญชี ห้ามถือเงินสดเกิน 1แสน
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.นำกำลังตำรวจ บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ปปท.เข้าตรวจสอบวัดต่างๆ อาทิ วัดปากน้ำภาษีเจริญ วัดโสธรวราราม ฯลฯ หลังจากพบว่ามีพระชั้นผู้ใหญ่ พัวพันกับสีกากอล์ฟ ตามที่พบภาพและคลิปในโทรศัพท์มือถือของสีกากอล์ฟ ในลักษณะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้ง หรือบางรายมีการหลักฐานการโอนเงินให้กัน รวมกว่า 80,000 ภาพ และอีกกว่า 5,000 คลิป ซึ่งเป็นความผิดวินัยสงฆ์ถึงขั้นอาบัติปาราชิก จนมีพระชั้นผู้ใหญ่ที่ยอมลาสิขา และยังหายตัวไปอีกส่วนหนึ่ง ว่าในส่วนของพระเทพพัชราภรณ์ (สมพงษ์ ฐิตโส ป.ธ.4) เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม จ.พระนครศรีอยุธยา หนึ่งในพระที่มีรายชื่อพัวพันกับกรณีดังกล่าวเพราะได้โอนเงินให้สีกากอล์ฟ 11 ล้านบาท ได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดแล้ว ส่วนที่บริเวณกุฏิได้มีการล็อกประตูไว้
นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รวมทั้งตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดแห่งนี้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ระบุว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่ามีพระที่แอบไปสึกหลายรูป ถ้ารู้ตัวว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการถูกหลอกลวง หรือตกเป็นผู้เสียหาย ก็อยากให้เข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดีได้และทางตำรวจ บก.ปปป.ยังรออยู่
ต่อมาเวลา 14.00 น.มีการเผยแพร่คลิปการลาสิกขาของ พระเทพพัชราภรณ์ (สมพงษ์ ฐิตโส ป.ธ.4) ภายในวัดชูจิตธรรมาราม โดยมีการเปลี่ยนจากจีวรไปใส่ชุดสีขาว ภายหลังพระรูปดังกล่าวได้ตกเป็นข่าว
ส่วนกรณีการหายตัวไปของพระปริยัติธาดา (สมนึกฐิตเมโธ ป.ธ.7.ดร.) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตร กทม.ซึ่งมีชื่อพัวพันกับสีกากอล์ฟ วันเดียวกัน มีรายงานว่า พระปริยัติธาดา ได้ขอลาสิกขาแล้ว ที่วัดบ้านค่าย จ.ระยอง หลังจากเดินทางออกจากวัดกัลยาณมิตร แล้วหายตัวไปหลายวัน
อย่างไรก็ตาม สำหรับพระที่มีหลักฐานเชื่อมโยงกับสีกากอล์ฟ แต่ยังไม่ยอมลาสิกขา ประกอบด้วย พระเทพวัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมราม จ.พระนครศรีอยุธยา , พระเทพวัชรสิทธเมธี วัดท่าหลวง จ.พิจิตร , พระราชรัตนสุธี วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก , พระมหาทิวากร ดีไพร วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร และพระเทพปรวเมธี วัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กทม.
ที่ จ.พิจิตร พระเทพวัชรสิทธิเมธี เจ้าอาวาสวัดท่าหลวง และเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ซึ่งมีข่าวว่าเป็นพระผู้ใหญ่ที่พัวพันกับสีกากอล์ฟ ยังคงปฏิบัติกิจของสงฆ์ตามปกติ ก่อนจะเปิดเผยกับสื่อมวลชน ว่าท่านยังไม่ได้สึก และทำวัตรเช้า ก่อนจะไปประชุมที่มหาวิทยาลัยสงฆ์พิจิตร (มจร.) เตรียมงานแข่งเรือ แต่ยังไม่เดินทางไปที่มหาเถรสมาคม เพราะยังต้องรอการดำเนินการเป็นขั้นตอน
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีอดีต สว.ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก ว่าคอยจับตาดูพระผู้ใหญ่ใน จ.พิจิตร จะทำการสึก ทางพระเทพวัชรสิทธิเมธี กล่าวว่า เป็นเรื่องผูกใจเจ็บระหว่างอาตมากับอดีต สว.มานับสิบปี ท่านก็เชื่อมโยงไปเรื่อย อาตมายังปฏิบัติภารกิจของสงฆ์ต่อไป เพราะยังไม่มีความผิดอะไร สามารถชี้แจงได้ ขณะที่ทนายความของพระเทพวัชรสิทธิเมธี กล่าวว่า พร้อมให้ความร่วมมือในทุกเรื่อง รอหลักฐานตำรวจอยู่ ยืนยันว่าท่านคือผู้บริสุทธิ์ ส่วนกระแสข่าวว่าท่านเคยมีลูก ท่านพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจดีเอ็นเอ
ที่ จ.พิษณุโลก วันเดียวกัน พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ประธานสงฆ์วัดไชยมงคล อ.วังทอง จ.พิษณุโลก กล่าวถึงกรณีที่ถูกพาดพิงว่าเกี่ยวข้องมีการโอนเงินให้กันกับสีกากอล์ฟ ว่าเริ่มรู้จักสีกากอล์ฟ เมื่อปี 2566 หลังจากฝ่ายหญิงติดต่อมาขอคำปรึกษาปัญหาชีวิต ด้วยความเมตตาจึงให้เบอร์โทรศัพท์เพื่อไว้พูดคุย กระทั่งสีกากอล์ฟ ได้ขอยืมเงินก้อนแรก 1 แสนบาท อ้างว่าจะใช้ในธุรกิจ จึงตัดสินใจโอนให้ ต่อมาสีกากอล์ฟ เงียบหายไปกว่า 1 ปี ก็ติดต่อกลับมาช่วงต้นปี 2568 อ้างว่ามีครอบครัว มีลูก แต่ถูกสามีทอดทิ้ง ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูก จึงขอให้ช่วย จึงโอนเงินไปอีกหลายครั้ง พบว่ายอดโอนไปรวม 180,000 บาท
พระภาวนาวิริยคุณ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยพบตัวจริงของสีกากอล์ฟ ไม่เคยไปหา และฝ่ายหญิงไม่เคยมาหาที่วัด ไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ทุกอย่างเกิดจากความสงสาร ยินดีให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกช่องทาง และยืนยันว่าไม่มีภาพ หรือคลิปใดๆ ของตน
อีกด้านหนึ่งจากกรณีที่คณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พระครูศรีปริยัติบัญฑิต หรือพระมหาปพน แสงย้อย รองเจ้าคณะอำเภอเมืองขอนแก่น และรองเจ้าอาวาสวัดเทพปูรณาราม บ้านหนองบัวดีหมี ต.ท่าพระ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ภายหลังพบข้อมูลการโอนเงินให้กับ สีกากอล์ฟ 48,000 บาท และรับโอนเงินจากสีกากอล์ฟ 19,000 บาท นั้น ทางพระครูวชิรอรรถวาที เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดขอนแก่น ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหนองแวง พระอารามหลวง ได้มีผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ส่งไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น แล้ว
พระครูวชิรอรรถวาที เปิดเผยว่า การตรวจสอบของคณะกรรมการครอบคลุม 3 กรณีหลัก ได้แก่ การโอนเงินให้กับสีกากอล์ฟ การรับโอนเงินจากสีกากอล์ฟ และความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ซึ่งผลการตรวจสอบสรุปว่า ไม่ปรากฏความผิดแต่อย่างใด สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างรองเจ้าคณะอำเภอกับสีกากอล์ฟนั้น ทั้งสองรู้จักกันครั้งแรกที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) วิทยาเขตขอนแก่น โดยรองเจ้าคณะอำเภอและพระสหายที่มรณภาพ เป็นอาจารย์สอนที่เดียวกัน และสีกากอล์ฟ มาหาแฟน ซึ่งเป็นฆราวาสที่สอนอยู่ที่เดียวกัน จึงมีการพูดคุยกันเป็นกลุ่ม และรู้จักกันทั้งหมด จากนั้นสีกากอล์ฟ ได้เพิ่มเพื่อนทางเฟซบุ๊ก มาเป็นเพื่อนจึงได้รู้จักกันครั้งแรก และมีการเดินทางไปมาแวะทำบุญบ่อยครั้ง
ที่รัฐสภา นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถาม เรื่อง วิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา พระสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่มั่วสีกา ทำลายศรัทธาของชาวไทยพุทธ ของนายปริญญา วงษ์เชิดขวัญ สว.ถามนายกรัฐมนตรี โดยมอบหมายให้นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบกระทู้แทน
นายปริญญา ตั้งกระทู้ถามว่า ประเทศไทยเราเป็นเมืองพุทธ แต่มีวิกฤตศรัทธาในพุทธศาสนา สมัยก่อนเราจะเห็นพระลูกวัดมั่วสีกา เสพยา แต่วันนี้พระชั้นผู้ใหญ่ถึงราชาคณะ ที่มีพฤติกรรมเลวทราม ทำให้ศาสนาเสื่อมอย่างยิ่ง ทำลายความรู้สึกคนไทยมาก ขณะนี้มีสีกาชื่อดัง คือ”สีกากอล์ฟ” ตนอยากได้สีกากอล์ฟแบบนี้อีก 100 คน เพื่อมาขุดพระเลวๆ พระชั่วๆ จะได้รื้อศาสนาให้กลับมาดีได้อีกครั้ง
นายปริญญา กล่าวว่า ขอถาม 4 ข้อ 1.รัฐบาลและสำนักงานพระพุทธฯ วางแผนและแก้ปัญหานี้อย่างไรในการร่วมกับกรรมการมหาเถรสมาคม 2.การดำเนินคดีกับสมีทั้งหลาย สามารถทำได้หรือไม่ ทั้งเรื่องการมีเพศสัมพันธ์และเรื่องเงิน เพราะต้องยอมรับว่าทุกวันนี้นักการเมือง ข้าราชการกับนักการเมืองอย่างไรก็สู้พระไม่ได้ เพราะพระรวยกว่า 3.ในอนาคตรัฐบาลจะมีการตรวจสอบเงินอย่างจริงจังเมื่อไหร่ หรือจะแก้ไขกฎหมายเพื่อให้ตรวจสอบได้หรือไม่ และ 4.ควรเร่งผลักดัน พ.ร.บ.คุ้มครองพระพุทธศาสนาฯ เพื่อกำหนดโทษ ว่าพระที่กระทำความผิดเช่นนี้ และทำให้เสื่อมเสียพระพุทธศาสนา มีโทษอาญาจำคุกได้หรือไม่
ด้านนายสุชาติ ชี้แจงว่า การเสนอว่าให้คนแบบสีกากอล์ฟ มีเยอะๆ เพื่อที่ปราบปรามพระไม่ดีนั้น ไม่ได้ การที่คนเกิดวิกฤติศรัทธา เกิดจากตัวพระสงฆ์ แต่เรานับถือคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนาของพระพุทธเจ้า ดังนั้นต้องแยกกัน และการแก้ปัญหาสงฆ์มีวิธีอื่นไม่ใช่ส่งสีกาไปก็จะยิ่งเสื่อมเสียกันใหญ่ เรื่องนี้ตนให้นโยบายกับสำนักงานพระพุทธฯ ว่าต้องทำงานเชิงรุก
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า การควบคุมพระสงฆ์เป็นการดำเนินของมหาเถรสมาคม ส่วนการดำเนินคดีกับพระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัย ปัจจุบันยังไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดเอาผิดพระภิกษุสงฆ์ที่เสพเมถุน หรือแม้แต่สีกาที่ไปเสพเมถุนกับพระ ดังนั้นจึงต้องรีบร่าง พ.ร.บ.สงฆ์ โดยด่วน เพิ่มโทษพระที่ผิดพระธรรมวินัยถึงจำคุก หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยค่าปรับประมาณหลายหมื่นถึงหลักแสนบาท ส่วนสีกาก็ต้องมีความผิดด้วย แม้ขณะนี้จะเอาความผิดสีกาไม่ได้ แต่หากพบว่าไปล่อลวง ข่มขู่ เราก็เอาผิดกฎหมายอาญาอื่นๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ควรรีบออกกฎหมาย โดยขณะนี้ได้เริ่มร่างกฎหมายแล้ว คิดว่าภายใน 3-4 เดือนนี้ จะมีการแก้กฎหมาย อาจจะรวมถึงการเอาผิดการเรี่ยไรหรือการบริจาค
“การบริจาคเงินให้วัด ทางมหาเถรสมาคม ออกเป็นกฎกระทรวงแล้ว จะเริ่มใช้วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ว่าตั้งแต่นี้ต่อไป ทุกวัดที่มีเงินบริจาค ต้องนำเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารในพื้นที่ซึ่งวัดตั้งอยู่ และวัดห้ามถือเงินสดเกิน 1 แสนบาท และมีบัญชีรายรับรายจ่าย เป็นการแก้ไขปัญหาไปได้ส่วนหนึ่ง” นายสุชาติ กล่าว
วันเดียวกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟและพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่าจะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้าไปช่วยดู เพราะเป็นคดีที่สะเทือนความรู้สึกประชาชน กระทบความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา โดยทางอธิบดีดีเอสไอ ได้รับไว้พิจารณา และพูดคุยโทรศัพท์กับ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการในต่างประเทศ กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง เริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟ ให้ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา เรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่าน ย้ำว่าได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว
เมื่อถามว่ากรณีที่เกิดขึ้นจะเป็นคดีตัวอย่างของสงฆ์หรือไม่เพราะที่ผ่านมาก็จบกันไปเฉยๆ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะคดีนี้มันสะเทือน แม้ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ของวงการสงฆ์ แต่มีลักษณะบ่อนทำลาย ต้องทำให้เป็นตัวอย่าง สิ่งเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอีก ถ้าเกิดขึ้นเราจะดำเนินการขั้นเด็ดขาด ไม่ใช่แค่สึกไป ผู้ก่อเหตุก็ไม่มีอะไร ตนจะทำให้เห็นว่าตรงนี้ทำไม่ได้และไม่ควรทำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี