8 มีนาคม 2564 อธิบดีกรมป่าไม้สั่งการรองอธิบดี นำทีมพยัคฆ์ไพรลงพื้นที่ตรวจสอบ กรณีมีชาวบ้านในตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งหนังสือร้องเรียนกรณีถูกปิดถนนสาธารณะที่เคยใช้สอยมานานกว่า 40 ปี จนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเข้าทำกินและขนย้ายพืชเกษตรในแปลงที่ดินที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำกินตาม มติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ได้ตามปกติ”
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากมีชาวบ้านดงหลง ในตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่งหนังสือร้องเรียนมายังอธิบดีป่าไม้ ขอให้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กรณีถูกปิดถนนที่เคยใช้สอยมานานกว่า 40 ปี จนได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถเข้าทำกินและขนย้ายพืชเกษตรในแปลงที่ดินที่ได้รับการผ่อนผันให้ทำกินตาม มติคณะรัฐมนตรี 30 มิถุนายน 2541 ได้ตามปกติ และที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานราชการหลายแห่ง และมีการเข้าร่วมกันตรวจสอบกันมาหลายครั้ง แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
ล่าสุด นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สั่งการเร่งด่วนให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม รองอธิบดีกรมป่าไม้ นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) ที่นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร ประสานการปฏิบัติร่วมกับ พันเอกพงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน ปลัดอำเภอเขาค้อ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เขาค้อ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องนี้
จากการตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นซอยภายในหมู่บ้านดงหลง ตำบลแคมป์สน อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเขาโปลกหล่น โดยมีการสร้างด่าน ปักเสาปูนปิดกั้นถนน ซึ่งเป็นการกระทำของผู้ครอบครองที่ดิน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศพบว่า มีร่องรอยการใช้เป็นเส้นทางสัญจรตั้งแต่ปี 2509 เรื่อยมา และตรวจสอบพบอยู่ในโครงการที่กรมป่าไม้ ใช้อำนาจตามมาตรา19 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ให้หน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้เขาค้อ (ชื่อหน่วยงานปัจจุบัน) ร่วมกับเทศบาลตำบลแคมป์สน ปรับปรุงเส้นทางให้เป็นทางสัญจรตามระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และเพื่อใช้ในการควบคุม ดูแล รักษาป่าสงวนแห่งชาติ และได้ชี้แจงทำความเข้าใจให้ผู้ที่ปิดถนนทราบว่า ไม่สามารถปิดถนนได้ เพราะเป็นถนนสาธารณธที่ใช่ร่วมกันทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ป่าไม้
สำหรับประเด็นปัญหาความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ได้ขอให้ทางผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองเข้ามาร่วมไกล่เกลี่ย และร่วมกันชี้แจงให้ทั้งสองฝ่ายทราบและเป็นที่เข้าใจด้วยดี จึงได้ทำบันทึกร่วมกันไว้ทั้งสองฝ่ายต่อหน้าเจ้าหน้าที่ว่า จะต้องดำเนินการรื้อถอน ด่านและเสารั่วออก เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ ได้ใช้สัญจรไปมาได้ตามปกติเหมือนเดิม ภายใน 7 วัน ซึ่งทั้งสองฝ่ายรับทราบและเข้าใจเป็นอย่างดี.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี