"บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “ตม.จว.สกลนคร” ตะครุบ “นักฟุตบอลชาวกีนี” ติดแบล็คลิสต์-เปลี่ยนชื่อนามสกุลทำพาสปอร์ตใหม่ ลอบเข้าเมือง
10 มีนาคม 2564 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.เอกมนต์ พรชูเกียรติ , พ.ต.อ.วีรยศ การุณยธร , พ.ต.อ.ปรีชา กองแก้ว รอง ผบก.ตม.4 , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 /รองโฆษก สตม. , พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.ท.ประพันธ์ ขันธิคุณ สว.ตม.จว.สกลนคร ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติเปลี่ยนพาสปอร์ตเข้าดมือง
สืบเนื่องจากเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ได้มี MR.SALL สัญชาติเซเนกัล เดินทางมายื่นเรื่องขออยู่ต่อในราชอาณาจักร เพื่อเป็นนักกีฬาอาชีพหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องด้านกีฬาอาชีพที่ ตม.จว.สกลนคร เมื่อตรวจสอบผ่านระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมือง (Biometric) แล้วพบความความผิดปกติ เนื่องจากไม่มีข้อมูลอัตลักษณ์พื้นฐานในระบบ จึงประสานไปยัง บก.ตม.4 เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลของบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าวโดยละเอียด
ต่อมาเมื่อทำการส่งข้อมูลลายนิ้วบุคคลต่างด้าวไปตรวจสอบข้อมูลที่ กก.3 บก.สส.สตม. โดยเปรียบเทียบกับระบบฐานข้อมูลลายนิ้วมือบุคคลต่างด้าว (E-finger print) ปรากฏว่ามีลายนิ้วมือตรงกันกับ MR.TASSIROU สัญชาติกินี ซึ่งเคยกระทำความผิดในข้อหาอยู่เกินกำหนดอนุญาต (Overstay) และถูกผลักดันส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักรแล้ว อันถือเป็นบุคคลต้องห้ามมิให้เข้ามาในราชอาณาจักร ตาม ม.12 แห่ง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และ กก.3 บก.สส.สตม. ได้ขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้ามตามประกาศกระทรวงมหาดไทยแล้วนั้น
ตว.จว.สกลนคร พร้อมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.4 จึงได้ลงพื้นที่ เพื่อไปพบบุคคลต่างด้าวรายดังกล่าว และแจ้งพยานหลักฐานพร้อมภาพถ่ายที่เจ้าหน้าที่รวบรวมมาให้กับ MR.SALL ทราบ ต่อมา MR.SALL จึงยอมรับว่าตนเป็นบุคคลคนเดียวกันกับ MR.TASSIROU สัญชาติกินี มีพฤติการณ์ต้องห้ามเข้าลักษณะ Blacklist ห้ามเข้าประเทศ 5 ปี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2561 ถึงปี พ.ศ.2566 โดยหลังจากที่ตนถูกผลักดันกลับไปยังประเทศกินี เมื่อปี พ.ศ.2561 ได้เปลี่ยนชื่อ นามสกุล พร้อมเปลี่ยนแปลงวันเดือนปีเกิด และเดินทางไปทำหนังสือเดินทางที่ประเทศเซเนกัล ซึ่งเป็นประเทศอาณานิคมของประเทศฝรั่งเศสเช่นเดียวกันกับกินี แล้วใช้เดินกลับเข้ามาในประเทศไทย เป็นนักฟุตบอลอาชีพ และมาถูกเจ้าหน้าที่ตรวจพบดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรของ MR.SALL หรือ MR.TASSIROU และนำตัวส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการผลักดันส่งกลับประเทศต้นทางต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. เปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ที่มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ ฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี