สถานีเกษตร-สิ่งแวดล้อม : ทุ่งใหญ่นเรศวร

สถานีเกษตร-สิ่งแวดล้อม : ทุ่งใหญ่นเรศวร

วันศุกร์ ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2564, 06.00 น.
Tag :

 

ช่วงวันหยุดต่อเนื่องเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาท่องเที่ยวธรรมชาติใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ผืนป่าที่ที่ได้รับยกย่องให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จากองค์การยูเนสโก


เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ถูกประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2517 มีเนื้อที่มากกว่า 2 ล้่านไร่ แยกการบริหารเป็นด้านตะวันตก อยู่ในท้องที่ อ.ทองผาภูมิ และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และด้านตะวันออกอยู่ในพื้นที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก

“ทุ่งใหญ่นเรศวร” เป็นดินแดนที่มีตำนาน สันนิษฐานจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ว่า บริเวณนี้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเคยใช้เป็นฐานที่มั่นและแหล่งเสบียงอาหารเพื่อเตรียมทำศึกกับพม่าในปี พ.ศ. 2138 และ 2142 ว่ากันว่า พื้นที่นาข้าวผืนใหญ่ ที่หมู่บ้านจะแก หรือบ้านหินตั้ง ที่อยู่ใจกลางทุ่งใหญ่ฯ ใช้ปลูกข้าวสำหรับเป็นเสบียงอาหารทำศึก

การเดินทางเข้าทุ่งใหญ่ฯในครั้งนี้ขอบคุณ หัวหน้าฯศุภฤกษ์ กลั่นประเสริฐ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ทำหน้าที่หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ที่อนุญาตเข้าไปในพื้นที่ได้ และ น้องแมน-ภาณุวัฒน์ พันชนะ ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกที่ช่วยประสานงานให้จนภารกิจสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี

แม้การเดินทางครั้งนี้จะเข้าไปในพื้นที่ชายขอบทุ่งใหญ่ฯ คือ ที่บ้านไล่โว่ บ้านสาละวะ และบ้านเกาะสะเดิ่ง แต่ก็ได้เห็นความอุดมสมบูรณ์ของป่า ลำธาร และความสวยงามของธรรมชาติ ที่จะต้องจดจำอีกยาวนาน เหมือนย้อนเข้าไปในอดีต..สวยงามจริงๆ โดยตั้งแคมป์พักแรมที่หน่วยพิทักษ์ป่าสาละวะ และหน่วยพิทักษ์ป่าเกาะสะเดิง

นอกจากจะเข้าไปศึกษาท่องเที่ยวธรรมชาติ ยังได้รับการร้องขอจาก ผอ.สุวินัย พลีเพื่อชาติ ผู้อำนวยการโรงเรียนกองม่องทะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ให้บรรทุกนมโรงเรียนเข้าไปส่งให้กับโรงเรียนสาขาที่ที่บ้านไล่โว่
บ้านสาละวะ และบ้านเกาะสะเดิ่ง รวมประมาณ 300 กล่องใหญ่ อีกด้วย เพราะทางโรงเรียนไม่มีงบประมาณในการจัดส่ง

“ค่าขนส่งเข้าไปในพื้นที่ค่อนข้างแพงกล่องละประมาณ 70 บาท 300 กล่องคิดเป็นเงินมากกว่า 20,000 บาท โรงเรียนมีงบไม่เพียงพอ” ผอ.สุวินัยเล่าให้ฟัง แต่พวกเราขนส่งฟรีครับ เพื่อเด็กๆ จะได้มีนมบริโภคตลอดปีการศึกษา สร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในพื้นที่ทุรกันดาร

การเดินทางเข้าทุ่งใหญ่ฯ จะต้องยื่นหนังสือขออนุญาตล่วงหน้าอย่างน้อย 10 วันก่อนเดินทาง รถยนต์ที่จะใช้ควรจะเป็นรถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้น และจะต้องปฏิบัติตามประกาศของกรมอุทยานแห่งชาติฯอย่างเคร่งครัดขนาดยางต้องกว้างไม่เกิน 10.5 นิ้ว สูงไม่เกิน 32.5 นิ้ว เพื่อป้องกันการทำลายเส้นทาง เนื่องจากเส้นทางที่ท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ เป็นเส้นทางเดียวกับที่ชาวบ้านในพื้นที่ใช้สัญจรทั่วไป หากเส้นทางถูกทำลาย การสัญจรซึ่งปกติก็ลำบากอยู่แล้ว ยิ่งจะลำบากมากขึ้น ชาวบ้านที่ป่วย ไม่สบาย อาจจะเดินทางเข้ามารักษาในเมืองไม่ได้

แม้ทางกรมอุทยานแห่งชาติฯ จะอนุญาตให้เข้าไปท่องเที่ยว ศึกษา วิจัย และทำงานจิตอาสาได้ก็ตาม แต่ต้องทำกฎระเบียบ เพราะเขตรักษาพันธุ์สัตว์ฯ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เป็นพื้นที่ให้สัตว์ที่ได้อยู่อาศัย เราไปเยือนก็ต้องเป็นผู้เยือนที่ดีด้วย

ดินแดนนี้มีอาถรรพ์ ใครทำอะไรไม่ดี ไม่ถูก ไม่ควรผลกรรมจะตามมาอย่างที่เราๆได้เห็นเป็นข่าวกัน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top