‘เชียงใหม่’วิกฤติ
อันดับ1มลพิษโลก
พิจิตรภัยแล้งหนัก
แม่น้ำยมแห้งขอด
“เชียงใหม่” วิกฤติฝุ่นควันพุ่ง ติดอันดับ 1 เมืองมลพิษโลก “แม่ฮ่องสอน เชียงราย” ยังอ่วม ค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานต่อเนื่อง 3 สัปดาห์ ขณะภัยแล้ง แม่น้ำยม ช่วงไหลผ่าน จ.พิจิตร แห้งขอด โรงสูบน้ำ พลังไฟฟ้าหยุดสูบ ข้าวนาปรังเหี่ยวเฉาตาย ชาวบ้านทำใจไม่สามารถหาแหล่งน้ำได้
เมื่อวันที่ 12 มีนาคม เว็บไซต์ “air4thai”รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย เมื่อเวลา 09.00 น. จากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ในวันที่ 12 มีนาคมพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5ไมครอน(PM2.5) เฉลี่ย24ชั่วโมงมีค่าระหว่าง32-202 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.)คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับ คุณภาพอากาศดีถึงมีผลกระทบต่อสุขภาพ จ.เชียงราย, เชียงใหม่, ลำปาง, ลำพูน, แม่ฮ่องสอน,แพร่, พะเยา, ตาก, พิษณุโลก, กำแพงเพชร
ขณะที่ เว็บไซต์“iqair”จัดอันดับค่า PM 2.5 เกินมาตรฐานในจังหวัด ของประเทศไทยแบบเรียลไทม์ ดังนี้ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน, อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่, อ.แม่สอด จ.ตาก, อ.เมือง จ.ลำพูน, อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่, อ.แม่ริมหางดง จ.เชียงใหม่, อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
ทางด้านเว็บไซต์ “AirVisual”รายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 12 มีนาคม พบว่า จ.เชียงใหม่ ประเทศไทย ติดอันดับ 1 เมืองที่มีค่าฝุ่นละอองสูงสุดในโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นละอองยังเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดมาแล้ว 21 วัน เนื่องจากยังคงมีไฟป่าเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ในช่วงเช้าของวันนี้ ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 อยู่ที่ 211 มคก./ลบม. ถึงแม้ค่าฝุ่นละอองจะสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด 50 มคก. แต่วันนี้ จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นละออง ได้ลดลงมาเป็นอันดับที่3 ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ รองจาก จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ แม้ยังมีพื้นที่หลายแห่งเกิดไฟไหม้ แต่ก็ยังลดลงมาในระดับหนึ่ง ตามนโยบายห้ามเผาเด็ดขาดของผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน จุดเกิดไฟสูงสุดยังคงอยู่ในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง และ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน
ขณะเดียวกัน นายกรัณย์พล แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน กรมป่าไม้ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมด้วยชาวบ้านในเขตพื้นที่รอบๆ บริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน โดยนำเครื่องเป่าลม พร้อมด้วยไม้กวาด ช่วยกันเกลี่ยเก็บใบไม้ ทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่ารุกลามเข้าพื้นที่วัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งในแต่ละปีจะประสบกับปัญหาไฟป่าลุกลามจนมองเห็นได้ทั่วทั้งเมือง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดความแห้งแล้งจัดในแม่น้ำยมที่ไหลผ่าน จ.พิจิตร จนเห็นพื้นทรายในท้องแม่น้ำ ความแห้งแล้งนี้ส่งผลให้โรงสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าบ้านวังปลาทู หมู่ที่ 11 ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม จำนวน 4 เครื่อง ต้องหยุดเดินเครื่องสูบน้ำ เพราะปริมาณในน้ำในแม่น้ำยมที่บริเวณโรงสูบน้ำไฟฟ้าแห้งขอดจนเป็นผืนทราย น้ำไม่เพียงพอ สูบขึ้นมา ให้กับสมาชิกเกษตรกรชาวนา ในริมฝั่งแม่น้ำยมได้
ขณะที่ ข้าวนาปรัง ที่บริเวณ บ้านวังลูกช้าง ต.สามง่าม อ.สามง่าม จำนวน กว่า 10 ไร่ ดินแห้งแตกระแหง ข้าวนาปรังอายุ 1 เดือนเศษ ไม่เจริญเติบโต เนื่องจากขาดน้ำต้นทุนที่แห้งลง รวมถึงเกษตรกรไม่มีแหล่งน้ำบาดาลใต้ดิน จนไม่สามารถหาน้ำให้กับต้นข้าวได้ จึงต้องปล่อยให้ข้าวเสียหาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี