"สพฐ."ถอดบทเรียนจัดสอบของเตรียมอุดมฯให้ ร.ร.แข่งขันสูง-ทั่วไปใช้จัดสอบ เพื่อเฝ้าระวังโควิด-19 ย้ำ สพฐ.พร้อมเยียวยานักเรียน หากเจ็บป่วยเข้าสอบเลื่อนชั้นไม่ได้
เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2564 นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ สพฐ.ครั้งที่ 5/2564 เพื่อสื่อสารทำความเข้าใจการขับเคลื่อนภาระกิจของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ในรอบเดือนเพื่อให้ที่ประชุมรับทราบและนำไปปฏิบัติ โดยในวันนี้ได้หารือถึงการขับเคลื่อนระบบการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) เพื่อให้การขับเคลื่อนหน่วยงานมีความสุจริตโปร่งใส โดย สพฐ.ประกาศเจตจำนงที่จะต่อต้านการทุจริตในการบริหารงานของ สพฐ.และจะขับเคลื่อนตัวชี้วัดที่ยังไม่บรรลุผล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.อยู่อันดับ 8 ของหน่วยงานในระดับ สำนักงาน หรือระดับกรม โดย สพฐ.ได้คะแนน 93 คะแนน แต่ สพฐ.ต้องการขยับขึ้นไปที่เป้าหมาย คือ 95 คะแนน เพื่อจะให้ได้ A
เลขาธิการ กพฐ.กล่าวต่อว่า ตามที่ สพฐ.ได้ออกประกาศแนวทางการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2564 ไปแล้วนั้น และมีบางโรงเรียนการดำเนินการตามประกาศการรับนักเรียนไปแล้ว เช่น โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ได้จัดสอบเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (ม.4) และการรับนักเรียนในระดับชั้นอนุบาล และในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (ป.1) ของโรงเรียนต่างๆ ซึ่ง สพฐ.ได้สรุปผลการดำเนินการ โดยผลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่พบปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการจัดสอบ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
นายอัมพร กล่าวถึงการจัดสอบเข้าเรียนชั้น ม.4 ของโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ที่ผ่านมา โดยมีนักเรียนเข้าสอบ จำนวน 1.2 หมื่นคน แต่โรงเรียนรับได้แค่ 1.5 พันคน และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) จึงต้องเพิ่มปริมาณห้องสอบ และมีการเฝ้าระวังมากขึ้น มีการเว้นระยะห่างกัน 2 เมตร และแยกกลุ่มจังหวัดเสี่ยง ตามมาตการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค.ใหญ่ ส่วนโรงเรียนในกลุ่มที่ยังไม่ดำเนินการจัดสอบ คือ โรงเรียนแข่งขันสูงและโรงเรียนทั่วไป ซึ่งตนก็ได้กำชับให้สำนักนโยบายและแผน ออกแบบการดำเนินการจัดสอบ และหาข้อตกลงร่วมกันกับสาธารณสุขจังหวัด ทั้งในการดำเนินการจัดสอบและการรายงานตัว โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเรียน และให้การดำเนินงานเป็นไปตามที่ ศบค.ใหญ่ กำหนด
"สพฐ.ได้ถอดบทเรียนการจัดสอบของโรงเรียนเตรียมอุดมฯ ที่จะนำไปให้โรงเรียนแข่งขันสูงใช้ ทั้งการจัดห้องเรียน หรือห้องสอบตามกลุ่มจังหวัดที่มีความรุนแรงของโรค และกรณีที่ใช้ห้องเรียนจัดเป็นห้องสอบ จะต้องจัดให้นักเรียนสอบไม่เกิน 20 คนต่อห้อง เพราะต้องใช้พื้นที่ในการเว้ยระยะห่าง หากใช้ห้องประชุมใหญ่เป็นห้องสอบรวม ก็ให้เว้นระยะห่างกันประมาณ 2 เมตร ส่วนจะมีมาตรการอื่น เช่น สวมแมส หรือมาตรการอื่นใดก็ต้องให้อยู่ในข้อกำหนดของ ศบค.ใหญ่ เพราะตอนนี้โรคระบาดยังไม่ได้หายไปจาากประเทศไทย ยังคงเกิดขึ้นในตลาดบางแค กรุงเทพฯ ซึ่งยังเป็นสิ่งที่น่ากลัว สพฐ.จึงต้องกำหนดมาตรการและกำชับไปยังโรงเรียน แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สพฐ.ยังไม่ได้รับรายงานว่ามีนักเรียนติดโควิด-19 แต่หากมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เจ็บป่วย หรือต้องถูกกักตัวในช่วงสอบเลื่อนชั้น สพฐ.ก็จะรีบหามาตรการดูแล โดยให้ทางโรงเรียนอนุโลมให้นักเรียนสามารถสอบในภายหลังได้ หรือในกรณีที่นักเรียนต้องกักตัวในช่วงสอบเลื่อนชั้น ทางโรงเรียนก็จะต้องนำข้อสอบไปให้ทำในสถานที่กักตัวได้ แต่ถ้าเป็นการสอบเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องให้ทางมหาวิทยาลัยกำหนดมาตรการช่วยเหลือเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมเชื่อว่าจะต้องมีวิธีเยียวยาดูแลนักเรียนอยู่แล้ว" เลขาธิการ กพฐ.กล่าว
นายอัมพร กล่าวต่อว่า สำหรับการพัฒนาองค์การเพื่อการยกระดับหน่วยงานภาครัฐในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) ปีงบประมาณ 2564 ซึ่ง สพฐ.จะปรับปรุงพัฒนาแผนงานและโครงการ กิจกรรม ภารกิจของ สพฐ.ให้เป็นไปตามมาตรการที่ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กำหนด ซึ่งในปีนี้ค่าคะแนนของ สพฐ.ลดลงกว่าเดิม ดังนั้น ที่ประชุมจึงหารือถึงสาเหตุที่ทำให้ สพฐ.ยังไม่เข้าระบบ 4.0 ซึ่งมีตัวชี้วัดบางตัวที่เราจะต้องปรับปรุง หรือกำหนดแนวทางในการบริหารจัดการ เพื่อยกระดับให้เป็นระบบราชการ 4.0 อย่างแท้จริง สพฐ.มีหน่วยงานที่แยกข้อมูลอยู่ 8 หน่วย โดย สพฐ.จะทำให้ข้อมูลทั้ง 8 หน่วย มาอยู่หน่วยงานเดียวกัน แบบทะลายการทำงานแบบไซโล เพื่อให้ระบบข้อมูลที่ทันสมัย ทุกคนสามารถเข้าไปตรวจสอบฐานข้อมูลในที่เดียวกันได้ เป็นการดำเนินการด้านการบูรณาการข้อมูลสารสนเทศในส่วนของ สพฐ.หรือ Big Data โดยกำหนดให้เสร็จภายใน 1 ปี หาก สพฐ.ทำสำเร็จ ก็จะทำให้ทุกคนเข้าถึงข้อมูล และสามารถนำข้อมูลไปตัดสินหรือพัฒนางานในระบบของ สพฐ.ได้ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เป็นหน่วยงานอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี