เฮลั่น!ครม.อนุมัติแล้ว
โครงการทัวร์เที่ยวไทย
เราเที่ยวด้วยกันเฟส3
เริ่มตั้งแต่พ.ค.-ส.ค.นี้
ครม.เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ “ทัวร์เที่ยวไทย-เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3”เริ่มพฤษภาคมนี้ ปิดช่องทุจริตต้องการสแกนใบหน้าเมื่อใช้บริการด้วย “บิ๊กตู่” ลำบากใจยังไม่เคาะ“เราผูกพัน” ชี้ ข้าราชการมีเงินเดือนอยู่แล้ว ยันห่วงใย พร้อมหาแนวทางให้ ด้าน รมว.แรงงาน ปลื้ม “ม33 เรารักกัน” วันแรกโอนแล้ว ผู้ประกันตน5.7ล้านคน ใช้จ่ายสะพัด
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว 2 โครงการ โดยโครงการแรกคือ ทัวร์เที่ยวไทย โดยรัฐบาลจะสนับสนุนวงเงินแบบร่วมจ่าย 40% ไม่เกินคนละ 5,000 บาท กำหนดวิธีการ คือจะต้องซื้อแพ็คเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ในประเทศ 3 วัน 2 คืน ราคาขั้นต่ำ 1.2 หมื่นบาท โดยจะต้องไปเที่ยวในวันธรรมดา คือ วันอาทิตย์-พฤหัสบดี ซึ่งผู้มีสิทธิต้องมีอายุ 18 ปีขึ้นไปถึงสามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ซึ่งจะเริ่มต้นโครงการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2564 กำหนดเป้าหมายไว้ 1 ล้านคน การจ่ายเงินจะต้องทำผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังเท่านั้น และต้องสแกนจ่ายผ่านคิวอาร์โค้ด และสแกนใบหน้าด้วย ในระหว่างที่เข้าไปใช้บริการทั้งที่พักและร้านอาหาร
ส่วนอีกมาตรการคือ เราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 มีเพิ่มสิทธิการเข้ามาใช้ห้องพักอีก 2 ล้านสิทธิ โดยต้องเข้ามาจองห้องพักล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 7 วัน เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2564 พร้อมทั้งมีแนวทางป้องกันทุจริตที่เข้มงวดขึ้นคือต้องมีการสแกนใบหน้าผู้เข้าใช้บริการ และแจ้งข้อมูลตำแหน่งจีพีเอสเข้ามาในแอปด้วย ขณะที่บัตรกำนัลอิเล็กทรอนิกส์ (อี-เวาท์เชอร์) ที่เคยให้วันธรรมดาคนละ 900 บาท และวันศุกร์-อาทิตย์คนละ 600 บาท นั้นจะปรับเหลือราคาเดียวคือคนละ 600 บาท และกำหนดให้เดินทางท่องเที่ยวแบบข้ามจังหวัดเท่านั้น
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ว่า วาระการประชุมวันนี้มีหลายเรื่องด้วยกัน เรื่องสำคัญอยากจะบอกว่ารัฐบาลให้ความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะประชาชน ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (soft loan) ต่างๆก็ทยอยปลดล็อกออกมาเพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงในเรื่องมาตรการเยียวยาของรัฐ ซึ่งวันนี้ได้เห็นชอบหลักการขั้นต้น ส่วนรายละเอียดต่างๆก็เป็นเรื่องของหน่วยงานปฏิบัติจะต้องดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น ไม่ว่าจะมาตรการที่เราเคยทำมาแล้วจะทำต่อเนื่องอย่างไร ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ชี้แจงมาตรการที่ทำมาแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามถึงข้อสั่งการในการขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 3 นายกฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการอยู่ เดี๋ยวให้สอบถามกับทางฝ่ายที่ดำเนินการ เมื่อถามอีกว่า รวมถึงโครงการเราผูกพันที่ช่วยเหลือข้าราชการด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังๆ ของข้าราชการ เดี๋ยวต้องดูก่อน ก็เห็นใจจริงๆในส่วนของข้าราชการ แต่เขามีเงินเดือน มันลำบากเหมือนกัน เดี๋ยวไปดูว่าจะทำอย่างไรได้ สิ่งสำคัญที่สุดจะเกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ เป็นสิ่งที่ต้องมองด้วย แต่อย่างไรก็ตามเราต้องดูแลประชาชนให้มากที่สุดก่อน ก็ขอร้อง ทำความเข้าใจกับข้าราชการ ไม่ใช่รัฐบาลไม่ห่วงใย เป็นเรื่องของการเยียวยา”
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงการใช้จ่ายโครงการ ม.33 เรารักกัน ในวันที่ 22 มีนาคม เป็นวันแรก ว่า ได้มีการโอนเงินให้กับผู้ประกันตนคนละ1,000 บาท จำนวน 5.7 ล้านคน ทำให้มีเงินหมุนเวียนถึง 5,700 ล้านบาท และขณะนี้มีผู้ยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง เกือบ 96% มีผู้ทบทวนสิทธิ์ประมาณ 7 แสนคน โดยส่วนนี้พยายามจะดำเนินการให้เร็วและผู้ประกันตนจะได้รับเงินไปในครั้งเดียว 4 พันบาทบาทในวันที่ 12 เมษายนนี้ และสามารถใช้ได้ไปถึงวันที่ 31 พฤษภาคม
นายสุชาติ กล่าวว่า และจากการลงพื้นที่ลงไปสำรวจผู้ใช้แอพเป๋าตัง ทั้งในตลาดและผู้ประกันตนพบว่าราบรื่นดี มีระบบบริหารจัดการลงตัวถือว่าน่าพอใจเพราะไม่มีอะไรที่ผิดพลาดในทุกขั้นตอนพ่อค้าแม่ค้า ได้ยอดขายเพิ่มมากขึ้น3-4 เท่าตัว สร้างบรรยากาศที่ดีทั้งผู้ใช้จ่ายและผู้ขาย เหมือนกับชื่อโครงการ เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ