บุกจับที่นราธิวาส

มือบึ้มรามฯ

แฉประวัติร้ายโยงโจรใต้

ก่อคดีฆ่าเผาพระปัตตานี

ผบ.ตร.รีบปัดไม่เกี่ยวกัน

เมื่อเวลา 02.00น. วันที่ 18มิถุนายน พล.ต.ต.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบช.ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (รอง ผบช.ศชต.) สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สส.บก.ภ.จ.นราธิวาส รวม 30นาย บุกจู่โจมจับกุม นายอิดริส สะตาปอ อายุ 24ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีร่วมกับพวกลอบวางระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง43/1 ถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 26พฤษภาคมที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7รายและร้านค้าเสียหาย 2แห่ง โดยขณะเข้าจับกุม นายอิดริส กำลังนอนอยู่ในบ้านพักของตัวเองในพื้นที่ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส

การบุกจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการซัดทอดของ นายคัมภีร์ ลาเต๊ะ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกเจ้าหน้าที่รวบตัวได้ก่อนหน้านี้และจากการสอบปากคำเบื้องต้น นายอิดริส ให้การรับสารภาพว่าเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดปากซอยรามคำแหงจริง จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้คุมตัว นายอิดริสไปสอบสวนขยายผลที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) จ.ยะลา ก่อนจะนำตัวไปตรวจค้นบ้านพักที่ ต.โคกคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส จากการซักถาม นายอิดริส รับสารภาพว่า นายคัมภีร์ ลาเต๊ะ ผู้ต้องหาเคยเกี่ยวข้องคดีฆ่าเผาพระวัดพรมประสิทธิ จ.ปัตตานีและถูกดำเนินคดีพกพาอาวุธปืนที่ สภ.สายบุรี จ.ปัตานี กับพวก เป็นผู้ร่วมวางระเบิดแผงค้าหน้ารามคำแหง โดยมี นายอิบรอเฮง แวแมและนายฮาเล็ม มะลี ร่วมก่อเหตุด้วย

พ.ต.อ.สะท้านฟ้า กล่าวว่า จากข้อมูลเชิงลึกพบว่า นายอิดริส มีความเชื่อมโยงกับระดับแกนนำขบวนการก่อเหตุไม่สงบในชายแดนภาคใต้ แต่เปิดเผยรายละเอียดไม่ได้ เพราะเกรงจะเสียรูปคดีและต้องการจะสาวไปถึงตัวการใหญ่ที่วางแผนวางระเบิดกลางเมืองหลวงให้ได้ อย่างไรก็ตามยังพบอีกว่า กลุ่มนี้เชื่อมโยงการก่อเหตุฆ่าและเผา พระพิสุทธิ์แก้ว ปัญจเพชร อายุ 80ปี เจ้าอาวาสวัดพรหมประสิทธิ์ มรณภาพพร้อมลูกวัดรวม 3ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16ตุลาคม2548 ที่วัดพรหมประสิทธิ์ ม.2 บ้านเกาะ ต.บ้านนอก อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี อีกด้วย

แหล่งข่าวจากหน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ยังพบว่านายอิดริส ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบวางระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์รถบัสทหารค่ายจุฬาภรณ์ รับ - ส่งนักเรียนด้วย โดยเหตุเกิดบริเวณปากซอยโต๊ะกา บ้านฮูแตทูวอ ม.4 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 7 ส.ค.56 ที่ผ่านมา

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการจับกุมผู้ต้องสงสัยที่คาดว่า จะเป็นคนร้ายที่ลอบวางระเบิดหน้าถนนรามคำแหง43/1 ได้ที่ จ.นราธิวาส ว่า ได้รับรายงานตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 17มิถุนายนที่ผ่านมา ตำรวจรู้เบาะแสมาตั้งแต่ต้น ถ้าเรารู้แล้วไปพูด มันก็หนีไปไกล แต่พอเรารู้แล้วทำเหมือนไม่รู้ สุดท้ายก็จับได้เหมือนรายนี้

เมื่อถามว่าเป้าหมายของการก่อเหตุครั้งนี้คืออะไร เพราะมีข่าวว่าโยงแนวร่วมโจรใต้ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่สามารถพูดได้ เพราะเกรงว่าจะเป็นการชี้นำ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขยายผลการดำเนินการต่อไป

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ยืนยันว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ร่วมกับพวกรวม 4คน ก่อเหตุจริง จากแนวทางการสืบสวนไม่พบว่า กลุ่มคนร้ายเกี่ยวข้องกับกลุ่มอาร์เคเค เนื่องจากไม่มีประวัติ หรือมีหมายจับ อีกทั้งรูปแบบประกอบระเบิดที่ใช้ก่อเหตุไม่ใช่รูปแบบเดียวกัน แต่เป็นการประกอบลอกเลียนแบบ คาดว่าปมก่อเหตุอาจมาจากขัดผลประโยชน์ทางธุรกิจ หรือปัญหาแผงค้าหรือไม่ ซึ่งต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.และตำรวจสันติบาล ลงพื้นที่ติดตามคดีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด พร้อมเร่งติดตามจับกุมคนร้ายอีก 3คนต่อไป

“ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ถูกชักชวนจากเพื่อนให้มาร่วมขบวนการ โดยมีหน้าที่ประกอบระเบิดและวางระเบิด ซึ่งรายละเอียดยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ส่วนจะเป็นคนเดียวกับที่ปรากฏอยู่ในกล้องวงจรปิดหรือไม่ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ”พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าว

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวถึงการจับกุมตัวคนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณปากซอยรามคำแหง43/1ว่า ได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมว่า สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุได้แล้วในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะประสานส่งตัวมาดำเนินคดีในพื้นที่ที่เกิดเหตุต่อไป

ทางด้าน พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) เปิดเผยกรณีตำรวจนราธิวาสจับมือวางระเบิดบริเวณซอยรามคำแหง43/1 ว่า จับกุมได้จริง แต่เชื่อว่าไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุไม่สงบในภาคใต้ แต่มุ่งก่อเหตุด้วยปมขัดแย้งทางธุรกิจ