เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2568 ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช./ผอ.ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ สตม.สกัดกั้น ตรวจสอบ ระดมจับกุมคนต่างด้าวที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทย รวมทั้งให้ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุ หรือโดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.แดนไพร แก้วเวหล รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.สุรศักดิ์ สุรินทร์แก้ว รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.เฉลิมชนม์ แหลมทอง รอง ผบก.สส.สตม., พ.ต.อ.ชูวงษ์ อุทัยสาง ผกก.ปอพ.บก.สส.สตม., พ.ต.อ.ธวัชชัย นรินรัตน์ ผกก.1 บก.สส.สตม.ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ดังนี้
1.บุกรวบผู้ต้องหาอาชญากรรมค้ายาเสพติดตามหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน พ่วงผู้ต้องหาเสพและครอบครองยาบ้า
กก.1 บก.สส.สตม.จับกุมคนต่างด้าวสัญชาติจีน จำนวน 2 คน ดังนี้ 1.นายหลี่ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2568 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2568 ต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน อาชญากรรมค้ายาเสพติด (ออกหมายจับผู้ร้ายข้ามแดน) นำตัวส่งพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน 2.นายหยู (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า 418 เม็ด และไอซ์ 1.05 กรัม) พร้อมด้วยอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด โดยกล่าวหาว่า เสพและมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้าและไอซ์) โดยผิดกฎหมาย นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมาย สถานที่จับกุม บ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากสำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีหนังสือแจ้งมายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ร้องขอให้ทางการราชอาณาจักรไทย ให้ส่งตัวนายหลี่ บุคคลสัญชาติจีน เพื่อส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ไปดำเนินคดีที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ในความผิดฐาน “อาชญากรรมค้ายาเสพติด” อันเป็นความผิดอาญาตามกฎหมายสาธารณรัฐประชาชนจีน ต่อมาพนักงานอัยการ สำนักงานต่างประเทศ ได้ดำเนินการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขอออกหมายจับนายหลี่ และได้ส่งหมายจับศาลอาญา ที่ 624/2568 ลงวันที่ 16 มิ.ย.2568 มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อดำเนินการสืบสวนจับกุม
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้สั่งการให้ บก.สส.สตม.สืบสวนติดตามจับกุมนายหลี่ ตามหมายจับของศาลอาญาดังกล่าว พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สส.สตม.จึงได้สั่งการให้ กก.1 บก.สส.สตม.สืบสวนติดตามจับกุม จากการสืบสวนของ กก.1 บก.สส.สตม.พบว่า นายหลี่ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และพักอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในหมู่บ้านย่านลาดพร้าว 71 นาคนิวาส 48 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ จึงได้ขอหมายค้นต่อศาลอาญาเข้าทำการตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบนายหลี่ พักอาศัยอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว และพบนายหยู ภายในห้องนอนชั้น 2 พร้อมของกลางยาบ้า 418 เม็ด ไอซ์ 1.05 กรัม และอุปกรณ์การเสพ จำนวน 2 ชุด ซึ่งนายหยูทิ้งลงไว้ใต้เตียงนอนเมื่อทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้น จึงได้ทำการจับกุม นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบแก๊สไนตรัสออกไซด์ หรือแก๊สหัวเราะ บรรจุหลอดเล็ก 152 หลอด หลอดใหญ่ 6 หลอด จุกสีขาวสำหรับเสียบหลอดแก๊ส 92 อัน ลูกโป่งถุงใหญ่ 4 ถุง ลูกโป่งถุงเล็ก 2 ถุง ซึ่งนายหลี่อ้างว่าได้ซื้อมาจากย่านอาร์ซีเอไว้เพื่อสูดดมเอง จึงได้ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบและสืบสวนขยายผลหาผู้กระทำผิดต่อไป
2.รวบจีน overstay ภายหลังพบว่าเป็นนักธุรกิจแดนมังกร เปิดบริษัทเก๊หลอกลงทุน (แชร์ลูกโซ่) หนีซุกไทย ความเสียหาย 500 ล้านบาท
สืบเนื่องจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง มีคำสั่งให้สืบสวนปราบปรามและระดมจับกุมคนต่างด้าวซึ่งอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (Overstay) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.ได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีบ้านพักหลังหนึ่งอยู่ภายในซอยศิริถาวร ถนนพระราม 9 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ มีบุคคลสัญชาติจีน พักอาศัยอยู่หลายคน น่าเชื่อว่าจะใช้บ้านหลังดังกล่าวกระทำความผิด จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขอหมายค้นต่อศาลอาญาพระโขนง เข้าตรวจค้น
ผลการตรวจค้นพบ นางหง (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สัญชาติจีน ไม่มีหนังสือเดินทางแสดงแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ตรวจสอบข้อมูลการเดินผ่านระบบสารสนเทศ ตม.พบว่า นางหงเดินทางเข้ามาและอยู่ในประเทศไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด รวมจำนวน 337 วัน จึงจับกุมในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม.ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนคนต่างด้าวรายอื่นอีก 5 คน ไม่พบการกระทำผิด
ทั้งนี้ กก.ปอพ.บก.สส.สตม.ได้ประสานงานไปยัง สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย รับแจ้งว่า นางหง ประกอบอาชีพเป็นนักธุรกิจ ได้ร่วมกับสมาชิกรายอื่นๆ ก่อตั้งบริษัท Zhongguo Finance เพื่อให้บริการแพลตฟอร์มร่วมลงทุน โดยสร้างภาพลักษณ์ว่าเป็นบริษัทด้านการลงทุนในธุรกิจระดับโลก มีการต่อยอดสร้างธุรกิจและโครงการต่างๆ จำนวนมาก อีกทั้งบริษัทยังดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องการกับใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต การพัฒนาแอปพลิเคชัน โทรศัพท์มือถือ และเป็นสื่อกลางในการจัดงานสังสรรค์ระดับสูง ซึ่งโมเดลธุรกิจดังกล่าว สร้างแรงจูงใจให้เกิดผู้ร่วมลงทุน มีการชักชวนสมาชิก และมีผู้สนใจทำธุรกิจเป็นจำนวนมาก โดยผู้สนใจจะต้องจ่ายเงินร่วมลงทุนเป็นเงิน ตั้งแต่ 7,000 - 100,000 หยวน เพื่อให้มีสถานะเป็นสมาชิก มีการแบ่งงาน มอบหมายหน้าที่ในการบริหารจัดการการฝึกอบรม มีการเก็บค่าธรรมเนียมการเป็นสมาชิกรายใหม่ๆ และดูแลกิจการอื่นๆ ของบริษัท ซึ่งเป็นการสร้างเรื่องหลอกลวงทั้งหมด โดยจากตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าว มีเงินทุนหมุนเวียน มูลค่ากว่า 100 ล้านหยวน หรือกว่า 500 ล้านบาท
สตม.ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับ และการเดินทางเข้า - ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง อาคารเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระชนมพรรษา 60 พรรษา เลขที่ 904 หมู่ที่ 6 ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี 11120 หรือติดต่อตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดในพื้นที่ หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี