กรมส่งเสริมการเกษตร ชูผลสำเร็จการดำเนินงานโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ซึ่งเป็นโครงการในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งเป้าปี 2564 เน้นการพัฒนาและขยายผล พัฒนาครู นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวน 2,400 คน ร่วมกับโรงเรียน 783 โรงเรียน วางแผนการผลิตพืชผักและผลไม้ในโรงเรียน ให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ พัฒนาโรงเรียนเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ ขยายผลความรู้จากโรงเรียนสู่ครัวเรือน หมู่บ้าน และชุมชน ส่งเสริมการผลิตและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช โดยนำร่อง 15 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน
นายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ตามที่กรมส่งเสริมการเกษตร ได้สนองพระราชดำริและดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงเริ่มงานพัฒนาเด็กและเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ตั้งแต่ พ.ศ. 2523 และได้ทรงงานอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันเป็นเวลากว่า 40 ปี ซึ่งปัจจุบันผลการดำเนินงานดังกล่าวได้ประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยมีหน่วยงานต่างๆ มาร่วมบูรณาการ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานศึกษาที่มีความพร้อม พัฒนาเป็นศูนย์บริการความรู้ พร้อมกับสนับสนุนปัจจัยการผลิตให้แก่ครัวเรือน เพื่อทำการเกษตรแบบผสมผสาน ส่งเสริมและเพิ่มรายได้จากการขายผลผลิต
โดยในปี 2564 นี้ กรมได้วางแนวทางการขับเคลื่อนโครงการในการดำเนินการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตพืชการป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชที่ถูกต้องและปลอดภัยรวมไปถึงการแปรรูปถนอมอาหาร ที่มุ่งเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมให้นักเรียน ครู และผู้ปกครองร่วมกันทำการเกษตรในโรงเรียน เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน และสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในครัวเรือนและขยายผลไปสู่ชุมชน ประกอบด้วย 1. พัฒนาครู นักเรียน และผู้ปกครอง จำนวน 2,400 คน ให้มีความรู้ทางด้านการเกษตรและการฝึกปฏิบัติ การผลิตพืชอย่างเหมาะสม โดยยึดตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2. ร่วมกับโรงเรียน 783 โรงเรียน วางแผนการผลิตพืชผักและผลไม้ในโรงเรียน ให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ สนับสนุนปัจจัยการผลิตให้ตรงตามความต้องการของโรงเรียน สามารถนำผลผลิตที่ได้มาประกอบอาหารกลางวันให้กับนักเรียนได้เพียงพอตลอดช่วงปีการศึกษา 3. พัฒนาโรงเรียนเป็นศูนย์กลางแหล่งเรียนรู้ ขยายผลความรู้จากโรงเรียนสู่ครัวเรือน หมู่บ้าน และชุมชน โดยส่งเสริมเศรษฐกิจพอเพียงในหมู่บ้านที่โรงเรียนตั้งอยู่50 หมู่บ้าน (1,000 ราย) ที่สามารถพัฒนาเป็นอาชีพด้านการเกษตรได้ และ 4. ส่งเสริมการผลิตและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช โดยนำร่อง 15 โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อพัฒนาเป็นโรงเรียนต้นแบบสำหรับการผลิตและเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์พืช ขยายผลสู่โรงเรียนอื่นๆ
“อย่างไรก็ตาม กรมหวังว่า การดำเนินงานและพัฒนาขยายผลของโครงการจะทำให้ ครู นักเรียน ผู้ปกครอง มีความรู้ ความเข้าใจด้านการเกษตร สามารถวางแผนการผลิตพืชให้เหมาะสมตามศักยภาพของพื้นที่ โรงเรียนสามารถผลิตพืชและนำผลผลิตมาประกอบเลี้ยงอาหารกลางวันแก่นักเรียนได้อย่างเพียงพอ โรงเรียนเป็นต้นแบบแหล่งเรียนรู้และขยายผลองค์ความรู้ไปปรับใช้ในครัวเรือน เกิดกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน รวมทั้งสามารถพัฒนาเป็นอาชีพทางด้านการเกษตรให้กับชุมชนได้อย่างยั่งยืนต่อไปได้” อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี