TED Fund โชว์ความสำเร็จ นวัตกรรมเกษตรสมัยใหม่ ระบบประมวลผลภาพดิจิทัลร่วมกับโดรน ช่วยเกษตรกร
รู้ปริมาณผลผลิตในแปลงปลูกได้แม่นยำ
เมื่อเร็วๆ นี้ ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ในฐานะประธานกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) พร้อมด้วย ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช
ผู้จัดการกองทุนฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบโครงการ ได้ลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการ
ของผู้ประกอบการที่ได้ทุนสนับสนุนจาก TED Fund ภายใต้โครงการจัดสรรสนับสนุน ผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเครือข่ายอุทยานวิทยาศาสตร์ รุ่นที่ 1 โครงการพัฒนาระบบการวิเคราห์การเจริญเติบโตของพืชด้วยประมวลผลภาพดิจิทัลร่วมกับอากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตร (โดรน) ธุรกิจประเภท Modern Agriculture ของนายมนตรี ธนะสิงห์ กรรมการ
ผู้จัดการ บริษัท ไลลา เอวิเอชั่น จำกัด
ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม หรือ TED Fund เปิดเผยว่า
โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการใช้อากาศยานไร้คนขับร่วมกับระบบประมวลผลภาพดิจิทัลในการเพาะปลูกเปรียบเทียบกับการเพาะปลูกแบบปกติ เพื่อนำไปใช้ในงานด้านการเกษตร เป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ และคุณค่าทางเศรษฐกิจให้กับเกษตรกรไทย ลดการใช้แรงงานในการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของประเทศไทยสู่การแข่งขันในตลาดโลก
“ทาง TED Fund ได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการจำนวน 2 ล้านบาท เพื่อให้ผู้ประกอบการได้นำไปใช้ในการพัฒนาระบบการควบคุมประมวลผลภาพดิจิทัลทุกรูปแบบร่วมกับอากาศยานไร้คนขับ และเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการใช้อากาศยานไร้คนขับร่วมกับระบบประมวลผลภาพดิจิทัลในการเพาะปลูกเปรียบเทียบกับการเพาะปลูกแบบปกติ ซึ่งขณะนี้โครงการได้เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย และเกิดผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่กำหนด”
ผู้จัดการ TED Fund กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลสำเร็จที่เกิดขึ้น คือ ความสามารถในการควบคุมตำแหน่งความสูงที่ถูกต้องแม่นยำและมีความเสถียรภาพของอากาศยาน สามารถพ่นสารน้ำ สารชีวภาพ การให้ปุ๋ย และพ่นสารกำจัดแมลง ที่สำคัญ ยังได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ในระยะเวลาอันสั้นและมีความแม่นยำสูง ประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเดิม ช่วยให้พืชผลเพิ่มประสิทธิภาพให้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถเก็บข้อมูลภูมิสารสนเทศอื่นๆ ได้แก่ ลักษณะภูมิประเทศ ดิน น้ำ พืชพรรณ จะมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นต่อการวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนและหลังเหตุการณ์
ทั้งนี้ สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารการเปิดรับสมัครทุนได้ที่ www.tedfund.mhesi.go.th หรือเพจ
Facebook : TED Fund หรือสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2333-3700 ต่อ 4072-4074
ด้านนายมนตรี ธนะสิงห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไลลา เอวิเอชั่น จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ได้รับทราบว่า ทาง TED Fund มีโครงการให้การสนับสนุนด้านทุนแก่ผู้ประกอบการจึงเกิดความสนใจและยื่นเสนอโครงการดังกล่าว ด้วยเล็งเห็นว่าเกษตรกรประสบปัญหาการใส่ปุ๋ยให้แก่พืช ซึ่งมีทั้งที่ให้แบบมากเกินไป และน้อยเกินไป จึงทำให้พืชเจริญเติบโตได้ไม่สมบูรณ์ในบางพื้นที่ ทำให้เกิดความเสียหาย เกษตรกรต้องขาดทุน รวมถึงกรณีที่เกษตรกรผลิตพืชเกษตรเพื่อการส่งออก แต่ไม่สามารถประมาณการยอดการผลิตได้จะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการผิดสัญญาซื้อขาย อาจนำไปถึงการต้องเสียเงินค่าปรับในกรณีคำนวณปริมาณผลผลิตผิดพลาด
“ด้วยปัญหาต่างๆ ที่เกษตรกรต้องประสบ จึงทำให้บริษัทมีความประสงค์ที่จะพัฒนาระบบการประมวลผลภาพดิจิทัลร่วมกับ
อากาศยานไร้คนขับเพื่อการเกษตรที่มีความแม่นยำสูงในการตรวจสอบความอุดมสมบูรณ์ของพืชจากกล้อง ช่วยให้พืชผลเพิ่มประสิทธิภาพให้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ สามารถบริหารจัดการการสำรวจได้ง่ายและยังได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ในระยะเวลาอันสั้นและมีความแม่นยำสูงประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเดิม ช่วยให้พืชผลเพิ่มประสิทธิภาพให้เจริญเติบโตได้อย่างสมบูรณ์ และสามารถเก็บข้อมูลภูมิสารสนเทศอื่นๆ ได้แก่ ลักษณะภูมิประเทศ ดิน น้ำ พืชพรรณ จะมีประโยชน์มากยิ่งขึ้นต่อการวิเคราะห์สถานการณ์ก่อนและหลังเหตุการณ์”
นายมนตรีกล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ ยังมีความแม่นยำสูงในการประมาณการยอดผลผลิตของพืชต่อครั้งได้อย่างมีประสิทธิ เพื่อทราบผลผลิตที่แน่ชัดและบริหารจัดการในการขายได้อย่างถูกต้อง ประหยัดเวลาและลดความเสี่ยงในการขายทอดตลาด ซึ่งการเก็บข้อมูลภาคสนามด้วยแรงงานคนนั้นสิ้นเปลืองงบประมาณเป็นอย่างมาก และบางครั้งก็ได้ข้อมูลไม่ครบเนื่องจากพื้นที่บางแห่งไม่สามารถเข้าถึงได้ ด้วยการเดินสำรวจ มีประสิทธิภาพในการทำงานมากกว่าเดิม
“เกษตรกรจะทราบได้จากข้อมูลที่แสดงในรูปแบบของแถบสีต่างๆ ที่เรียกว่า NIR Images โดยในส่วนที่เป็นสีแดงแสดงว่า ต้นพืชที่ปลูกนั้นมีความสมบูรณ์ ทำให้คาดว่าจะสามารถเก็บผลผลิตได้ตามปริมาณ แต่หากเป็นสีเหลือง แสดงว่า ต้นพืชส่วนนั้นมีปัญหา ขาดความอุดสมบูรณ์ ไม่สามารถให้ผลผลิตได้ตามปริมาณที่ควรเป็น
ตรงนี้จะช่วยให้เกษตรกรสามารถคำนวณปริมาณผลผลิตของตนเองได้ว่า เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว จะได้ผลผลิตในปริมาณเท่าไร”
ทั้งนี้นายมนตรีได้เปรียบเทียบให้เห็นประสิทธิภาพในการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิระหว่าง แรงงานเกษตรกรกับระบบประมวลผลภาพดิจิทัลร่วมกับโดรนเพื่อการเกษตร โดยยกตัวอย่าง ปริมาณผลผลิตข้าวหอมมะลิ ถ้าใช้แรงงานเกษตรกร จะได้ผลผลิตที่ประมาณ 2,172 กิโลกรัม แต่เมื่อใช้ระบบประมวลผลภาพดิจิทัลร่วมกับโดรนเพื่อการเกษตร จะได้ผลผลิตที่ 2,428 กิโลกรัม ระยะเวลาในการตรวจการณ์ แรงงานเกษตรกรใช้เวลา 43 นาที 12 วินาที แต่
ภายใต้ระบบดังกล่าวจะใช้เวลาเพียง 7 นาที 28 วินาที และเวลาในการจัดการความผิดปกติของพืช แรงงานเกษตรกรใช้เวลา 46 นาที แต่ภายใต้ระบบดังกล่าวจะใช้เวลาเพียง 10 นาที เป็นต้น
“ความสำเร็จในวันนี้ ที่บริษัทสามารถสร้างระบบที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเกษตรกรได้นั้น เพราะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก TED Fund และขณะนี้มีเป้าหมายที่จะยอดต่อการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น เพื่อช่วยหลือเกษตรกรสามารถประกอบอาชีพอย่างประสบความสำเร็จ มีความเป็นอยู่ที่มั่นคงและยั่งยืน” นายมนตรีกล่าวในที่สุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี