“ผบช.สตม.” นำแถลง “สืบ ตม.1” เฝ้าแกะรอยพฤติกรรม ก่อนรวบ “ไนจีเรีย” หนีหมายจับคดี “โรแมนซ์สแกม” คาหอพักหรู ตุ๋นหญิงไทยโอนเงิน เหยื่อเพียบ มูลค่าเสียหายกว่า 370 ล้านบาท
7 เมษายน 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และ พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 พร้อมชุดสืบสวน ร่วมแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติ
สืบเนื่องจากจากการสืบสวนหาข่าว และสายลับรายงานว่ามีชาวต่างชาติผิวสีมีพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจน่าสงสัยมักเก็บตัวไม่สุงสิงกับใคร เชื่อได้ว่าพักอาศัยอยู่บริเวณหอพักแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 83 ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่แฝงตัวจึงได้สอบถามข้อมูลจากหอพัก ทราบว่ามีชาวต่างชาติผิวสีพักอาศัยอยู่ในหอพักดังกล่าวจริง แต่ไม่ทราบชื่อ จากการสืบสวนเฝ้าสังเกตการณ์ พบว่าชาวต่างชาติผิวสีดังกล่าวมีการเข้าออกหอพักเป็นเวลามักจะออกไปทำงานเป็นเวลาสายๆ ช่วงเวลาประมาณ 09.00-10.00 น. อาศัยช่วงเวลาที่คนพักภายในบริเวณนั้นออกไปทำงานหมดแล้ว จึงค่อยออกไปทำงาน เวลากลับมาที่พักมักจะกลับมาช่วงกลางคืนตอนที่ประชาชนบริเวณนั้นเข้าพักอาศัยหมดแล้ว ชาวต่างชาติผิวสีมักจะเดินทางเข้ามาในซอย จะไม่นั่งวินมอเตอร์ไซด์เข้ามาเพื่อจะได้ไม่ให้เป็นที่สังเกตและจดจำของคนบริเวณแถวนั้น
จากการสืบสวนชาวต่างชาติผิวสีดังกล่าวจะไม่ลงมารับประทานอาหารแต่จะให้คนไทยเป็นคนสั่งอาหารผ่านทางแอพพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือมาส่งให้ตน ชุดสืบสวนได้สอบถามกับผู้จัดการหอพักว่าใครเป็นผู้เช่าให้กับชาวต่างชาติผิวสี ทางหอพักทราบเพียงแต่เป็นผู้หญิงคนไทยเป็นคนเช่าให้ จึงได้ตรวจสอบจากใบเสร็จค่าเช่าปรากฏว่าผู้ชำระค่าเช่าเป็นชาวต่างชาติโดยการเงินโอนเงินผ่านตู้ ATM จากอาคารแห่งหนึ่งทุกเดือน
ชุดสืบสวนจึงไปเฝ้าสังเกตการณ์และสืบสวนหาข่าวที่อาคารดังกล่าว จนเป็นที่ทราบแน่ชัดแล้วว่าชาวต่างชาติรายนี้ทำงานอยู่ตึกดังกล่าวจริง จากนั้นชุดสืบสวนจึงได้กลับไปที่หอพักเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อดูพฤติกรรมการเข้าออกและลักษณะตำหนิรูปพรรณของชาวต่างชาติรายนี้ว่าสวมเสื้อผ้าอย่างไรจนได้ข้อมูลที่แน่ชัด ชุดสืบสวนก็เฝ้าสังเกตการณ์จนกระทั่งพบตัวคนต่างด้าว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง จึงได้นำหนังสือเดินทางมาตรวจสอบกับรถสายตรวจอัจฉริยะ พบว่า คนต่างด้าวชื่อนายเบอร์ทาน (MR.BERTRAND) อายุ 60 ปี สัญชาติไนจีเรีย ได้เดินทางเข้ามาเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2562 และไม่ได้มีการขออยู่ต่อฯกับทางตรวจคนเข้าเมือง จึงเป็นเหตุให้การอนุญาตสิ้นสุด ทำให้ชาวต่างชาติรายนี้อยู่เกินที่กฎหมายกำหนด เป็นจำนวน 551 วัน
ชุดสืบสวนจึงได้เชิญตัวมาที่กองกำกับการสืบสวนกองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 เพื่อตรวจสอบในระบบ BIOMETRICS ผลปรากฏว่าตรวจพบหมายจับศาลอาญาของไทยในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น,ร่วมกันปลอม,ใช้เอกสารปลอม,ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่นหรือประชาชน”
จากการตรวจสอบข้อมูลพบอีกว่าชาวต่างชาติรายนี้ เคยถูกจับในข้อหาเดียวกันนี้มาก่อนและมีความเกี่ยวข้องกับแก๊งโรแมนซ์สแกม โดยจะหลอกลวงหญิงชาวไทยให้หลงเชื่อและโอนเงินมาให้กับตนเอง โดยมีเหยื่อหลายรายตกเป็นผู้เสียหาย มีมูลค่าความเสียหายถึง 370 ล้านบาท ชุดสืบสวนจึงได้ประสานไปทางกองบังคับการปราบปรามกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) เพื่อส่งตัวให้กับพนักงานสอบสวน ปอท. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี