เมื่อเอ่ยถึง ผ้าขาวม้า ทุกคน จะนึกถึง ผ้าทอมือรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกว้าง 80 x 200 เซนติเมตร ฝีมือการทอจะเป็นลวดลายตารางเล็กๆหรือลวดลายตาลายสก๊อต และ ถือว่า เป็นอาภรณ์สารพันประโยชน์ สำหรับเพศชาย เช่น ใช้นุ่งอาบน้ำ เช็ดตัว คลุมศีรษะกันแดด ทำเปลนอน ผูกเอว เป็นต้น 

กลุ่มสตรีชาวนาอำนาจเจริญ  จึงได้นำเอาผ้าขาวม้ามาแปรรูป กลายเป็นผลิตภัณฑ์สินค้า หลากหลายชนิด ออกวางจำหน่าย ด้วยรูปลักษณ์แปลกสวยงาม เด่นสะดุดตา แถมทนทานอีกต่างหาก จึงเป็นที่ต้องการของผู้นิยมสินค้าพื้นเมือง สินค้าท้องถิ่นเป็นอย่างมาก โดยซื้อไปใช้ ไปเป็นของฝาก ของที่ระลึก เงินไหลเข้าชุมชน มีความสุขถ้วนหน้าเลยทีเดียว  

นางสาว ธนิดา พูนจิตร อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100 หมู่ที่ 1 ต.นาแต้ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ ผู้ก่อตั้ง
แบรนด์นุชบา แปรรูปผ้าขาวม้า กล่าวว่า รับราชการตำแหน่ง นักวิชาการพัฒนาชุมชน อ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ตระหนักถึงปัญหา ชาวนาปลูกข้าวได้ผลผลิตไม่เต็มที่ เพราะสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง บางปีฝนไม่ตกตามฤดูกาล จึงอยากให้ชาวนาผู้ปลูกข้าวมีรายได้เสริม จึงได้จัดตั้งกลุ่มผ้าขาวม้า นุชบา แปรรูป OTOP ขึ้น เมื่อปี 2558 โดยเข้าไปส่งเสริม สนับสนุน แม่บ้านชาวนา ทำการผลิตสินค้าจากผ้าขาวม้า เช่น กระเป๋าหลากหลายชนิด เสื้อผ้า ทำตามใบสั่งลูกค้า เรียกว่า ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า ทำขายทุกอย่าง

ที่โดดเด่น ก็คือ พวงมาลัยกร ซึ่งที่นี่ ทำจากผ้าขาวม้า ออกมาสวยงาม ทนทาน แปลก สะดุดตา เป็นที่สนใจแก่ผู้พบเห็นยิ่งนัก ทำให้ขายดีและโด่งดังมาก เพราะพวงมาลัยกรเมื่อคลี่ออกเป็นผ้าขาวม้า จะใช้ประโยชน์ได้มากมาย ซึ่งจะแตกต่างจาก พวงมาลัยดอกไม้ ซึ่งไม่กี่วัน ก็เหี่ยวเฉาแห้งไปตามเวลา ที่ผ่านมา มีใบสั่งทำเข้ามามากกว่าสินค้าอื่นและที่ภาคภูมิใจมากที่สุด เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2561 วันสงกรานต์  ได้นำ “พวงมาลัยกร ทำจากผ้าขาวม้า” ไปมอบให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้รับคำชมเชย ยกย่อง ว่า เป็นงานฝีมือจากภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สวยงามมาก และมีการประชาสัมพันธ์ ให้มีการช่วยเหลือส่งเสริม สนับสนุน สินค้าจากกลุ่มแม่บ้าน ให้มีความเข้มแข็ง ยั่งยืน ยิ่งขึ้น  

นางสาวธนิดา พูนจิตร ผู้ก่อตั้ง แบรนด์นุชบา  กล่าวว่า ที่นี่ ให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้เกษตรกรชาวนาทั้ง 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอำนาจเจริญ, เสนางคนิคม,ลืออำนาจ, หัวตะพาน, ปทุมราชวงศา, ชานุมาน และพนา ด้วยการทอผ้าขาวม้าจากอุปกรณ์ทอผ้าจากภูมิปัญญาชาวบ้าน เริ่มจาก ปลูกต้นฝ้าย กลายเป็นเส้นด้ายและนำมาทอเป็นผ้าโดยใช้กี่ทอผ้า เป็นผ้าเมตร ส่งมาที่กลุ่มฯ  ซึ่งภายในที่ทำการกลุ่ม ก็จะแบ่งการทำงานเป็นแผนก เช่น ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ทันสมัยหรือทำตามใบสั่งลูกค้า, ตัดเย็บ,คัดเลือกและตรวจสอบสินค้าก่อนจะส่งให้ลูกค้าหรือนำไปวางจำหน่ายตามศูนย์จำหน่ายสินค้าสำคัญๆ ในพื้นที่และต่างจังหวัด ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 15 บาทขึ้นไป โดยเฉพาะช่วงโควิด-19 ระบาด หน้ากากอนามัยทำจากผ้าขาวม้า ด้วยรูปแบบ ลวดลาย ที่แปลกและทันสมัย ทำให้ขายดีมาก 

นางสาวธนิดา พูนจิตร ผู้ก่อตั้งแบรนด์นุชบา แปรรูปผ้าขาวม้า กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่ติดตามการทำงานของสมาชิกกลุ่ม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุทำการทอผ้าขาวม้าส่งให้กลุ่ม เพราะว่า มีเวลาว่างประกอบกับมีความชำนาญเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ที่สำคัญมีใจรัก ที่ต้องการอนุรักษ์งานทอผ้าขาวม้าให้อยู่ยั่งยืน และมีหลายคน บอกสอนลูกหลานให้รู้จักวิธีทอผ้าขาวม้าให้สามารถทำเองได้ ส่วนคนหนุ่มสาววัยแรงงาน ก็จะทำนา และมีบางคนทอผ้าขาวม้าขาย เป็นอาชีพหลัก ส่วนการทำนาปลูกข้าว เป็นอาชีพเสริม พอได้มีข้าวกิน ไม่ต้องไปซื้อข้าวตลาด เพื่อประหยัดเงินก็มี 

นางสาวธนิดา พูนจิตร ผู้ทำให้ชาวนาไม่ว่างงาน มีเงินใช้ กล่าวทิ้งท้ายว่า เพียงชั่วระยะเวลาไม่กี่ปี ผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้า แปรรูป ภายใต้ชื่อ นุชบา สร้างชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ มีใบสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เงินไหลเข้าชุมชนกว่า 1 ล้านบาท/เดือน ชาวนามีความสุขถ้วนหน้า  

สำหรับใครที่สนใจ ผ้าขาวม้า แบรนด์ “นุชบา” สุดยอดงานทำมือ ไปเป็นของใช้ ของฝาก ของที่ระลึก สามารถติดต่อไปที่ โทร. 08-0333-8399 ได้ทุกวัน...