ตม.รวบเมียนมา

ลอบขนต่างด้าวเข้าไทย

แลกค่าจ้างคนละ5พันบ.

ทพ.ลาดตระเวนสกัดเข้ม

นายกฯ เรียก ผบ.ทสส. หารือมาตรการคุมเข้มชายแดน สกัดการลักลอบเข้าเมืองผิด กม. หวั่นคนไทยแห่กลับจากมาเลย์ ที่กักตัวไม่เพียงพอ ชี้กองทัพถูกตัดงบ 11% ช่วยสถานการณ์โควิด-19 ส่วนทหารพรานเฝ้าระวังชายแดนเข้มงวด ด้าน ตม.รวบหนุ่มเมียนมาลักลอบขนชาวต่างด้าวเข้าไทย รับค่าจ้างหัวละ 5 พันบาท

เมื่อวันที่ 19 เมษายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลตามปกติ โดยได้เรียก พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด(ผบ.ทสส.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง(ศปส. ศปม.) เข้าพบเพื่อรายงานความคืบหน้าการตั้งโรงพยาบาลสนาม ในการสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุข รองรับผู้ป่วยโควิด-19 พร้อมทั้งสั่งการให้ดูแลความมั่นคงในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 18 จังหวัดและพื้นที่ควบคุม 59 จังหวัด หลัง ศบค.ยกระดับการควบคุมสถาการณ์ โดยมีผลบังคับใช้ไปแล้ว

นอกจากนี้ ได้มีการรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ ความมั่นคงตามแนวชายแดน โดยเฉพาะฝั่งตะวันตก ที่มีชายแดนติดกับประเทศเมียนมา และชายแดนฝั่งตะวันออก ที่ติดกับประเทศกัมพูชา ซึ่งต้องคุมเข้มการคัดกรอง และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยเฉพาะขณะนี้ ฝั่งชายแดนกัมพูชา สาธารณสุขรายงานว่า พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ อังกฤษ ระบาด ในพื้นที่นั้น จึงต้องเพิ่มความเข้ม คัดกรองโรคเป็นพิเศษ

ทางด้าน พล.อ.เฉลิมพล เปิดเผยว่า นายกฯ ได้สอบถามผลการปฏิบัติและการดำเนินการจัดทำโรงพยาบาลสนาม ในภาพรวม ว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ โดยที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ มอบหมายให้ ศบค.ชุดเล็ก ที่มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)ในฐานะประธานคณะกรรมการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ควบคุมการปฏิบัติและการเพิ่มมาตรการต่างๆ โดยที่ประชุม ศบค.เน้นการขอความร่วมมือประชาชน โดยยังไม่อยากให้มีข้อบังคับใดๆ เพราะเกรงว่าจะเกิดการต่อต้านทั้งนี้ นายกฯ แสดงความห่วงใยพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซีย เพราะมีคนไทยเดินทางกลับมาเยอะตามช่องทางต่างๆ โดยห่วงว่าจะไม่มีสถานที่เพียงพอในการรองรับการกักตัว

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายการเมืองเสนอให้หั่นงบกองทัพ 10% เพื่อสนับสนุนการจัดหาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 พล.อ.เฉลิมพล กล่าวว่า แนวทางปฏิบัติยังไม่มีอะไร เพราะงบประมาณปี2564 กองทัพได้นำงบมาช่วยเหลือโควิดไปเยอะ พร้อมย้ำว่ากองทัพไม่มีการเบิกใช้งบกลางในการแก้ปัญหาโควิด ส่วนงบประมาณกองบัญชาการกองทัพไทยปี2565 ถูกตัดไป 11% ถือว่าเยอะพอสมควร แต่กองทัพก็อยู่ได้ ในส่วนเหล่าทัพยังไม่มีการตัดยอดเงินในโครงการที่ไม่ได้เป็นงบผูกพัน ซึ่งตนเชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

พล.ท.คงชีพ ตันตระวานิช โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ในฐานะรมว.กลาโหม ได้กำชับให้กองทัพ ประสานงานกับ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข เข้มงวด ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้ในพื้นที่ ได้มีการตั้งด่านคัดกรอง เพื่อขัดขวางขบวนการ ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎกมาย

ด้าน พ.อ.เอกพงษ์ กฤตยาเกียรติชุติ ผู้บังคับชุดควบคุมกรมทหารพรานที่12 ฉก.อรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ร่วมกับ พ.ต.อ.รุ่ง ทองมนต์ ผกก.ตม.สระแก้ว นำกำลังลาดตะเวนพื้นที่ตะเข็บชายแดนด้าน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าวและคนไทยที่เดินทางไปทำงานในบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา แล้วหลบหนีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ลอบมุดรั้วชายแดนช่องทางธรรมชาติกลับเข้าประเทศโดยไม่ผ่านการตรวจคัดกรองและกักตัว14วัน ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการนำเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดในกัมพูชา มาแพร่ระบาดในไทย

วันเดียวกัน พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6 พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.สุราษฎร์ธานี นำกำลังร่วมกับ ตม.สมุทรสาคร ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.6 จับกุม นายจอเท็ทอู อายุ 46 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดไชยา ข้อหาใช้ให้ผู้อื่นให้คนต่างด้าวเข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวนั้นรอดพ้นการจับกุม โดยรู้ว่าคนต่างด้าวนั้นเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย จับกุมได้ในบ้านพักพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร พร้อมของกลาง บัญชีธนาคาร 2 เล่ม และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง คุมตัวส่งพนักงานสอบสน สภ.ท่าฉาง รับไว้ดำเนินคดี

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีนายโทน (ไม่ทราบชื่อจริงและนามสกุล) สัญชาติเมียนมา ว่าจ้างให้รับคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 6 คน จากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปส่งยัง จ.สมุทรสาคร โดยจะได้รับค่าจ้างรายละ 5,000 บาท จึงโทรศัพท์ไปหานายเดชา กับพวก ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ให้ไปรับคนต่างด้าว ก่อนจะมาถูกจับกุมตัวดังกล่าว