ไล่ล่าข้ามจังหวัดจับ 7 ผู้ต้องหา‘แก๊งสุพรรณบุรี’ ขน‘ไอซ์’600กก. มาจากเชียงราย
20 เมษายน 2564 พ.ต.อ.นพดล ใบเรือ ผกก.สภ.แม่พริก พร้อมกำลัง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร นำโดย พ.ต.อ.ทัพพ์เศรษฐ์ เขื่อนแก้ว ผกก.สภ.วชิรบารมี , เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปส.3 ด่านตรวจพยุหะคีรี นำโดย พ.ต.อ.อนุชิต อุดมภักดี ผกก.3 บก.ปส 3 , เจ้าหน้าที่ บก.สกส.บช.ปส. นำโดย พ.ต.ท.สุภเวช มั่งคั่ง สว.กก.บก.สกส. ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาลักลอบขนยาเสพติด 7 ราย ประกอบด้วย
1.นายอภิวัฒน์ อายุ 24 ปี อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี คนขับรถหมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. 2.นายภาคิน อายุ 24 ปี อยู่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี คนนั่งโดยสารในรถ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. 3.นายศักดา อายุ 25 ปี อยู่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี คนขับรถหมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี) 4.น.ส.น้ำฝน อายุ 23 ปี อยู่ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี คนนั่งโดยสารรถหมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี
5.นายธนากร อายุ 37 ปี อยู่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี คนขับรถหมายเลขทะเบียน 4 กต 9079 กทม. 6.น.ส.ปิยะวรรณ อายุ 30 ปี อยู่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี คนโดยสารหมายเลขทะเบียน 4 กต 9079 กทม. และ 7.น.ส.ดารารัตน์ อายุ 21 ปี อยู่ อ.เมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี คนนั่งโดยสารรถหมายเลขทะเบียน 4 กต 9079 กทม.
ขณะที่ของกลาง ประกอบด้วย ไอซ์ ซุกซ่อนในถุงปุ๋ยและเป้สีเขียวบรรจุ อยู่ในถุงกระสอบสายรุ้ง 10 ถุง รวม 500 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 500 กิโลกรัม บรรทุกอยู่บนที่นั่งผู้โดยรถยนต์ของกลางยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. และในถุงปุ๋ยและเป้สีเขียวบรรจุอยู่ในถุงกระสอบสายรุ้ง 2 ถุง รวมจำนวน 100 ก้อน น้ำหนักก้อนละประมาณ 1 กิโลกรัม รวมน้ำหนักทั้งหมดประมาณ 100 กิโลกรัม วางอยู่บริเวณริมถนนพหลโยธิน(ขาขึ้น) หลักกิโลเมตรที่ 592-593 รวมของกลางเป็นไอซ์ ทั้งหมด 600 กิโลกรัม และรถยนต์จำนวน 3 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. , รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี และรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 4กต 9079 กทม. พร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือรวม 8 เครื่อง
สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับ ว่า จะมีขบวนการลักลอบขนยาเสพติดกลุ่ม จ.สุพรรณบุรี ใช้รถยนต์เป็นยานพาหนะจากพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ไปส่งยังพื้นที่ภาคกลาง จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และร่วมกันวางแผนเพื่อตรวจสอบรถยนต์ตามที่ได้รับแจ้ง โดยได้ตรวจสอบจากระบบกล้องวงจรปิดอ่านป้ายทะเบียนรถแบบอัตโนมัติ เพื่อค้นหารถยนต์เป้าหมาย ที่เดินทางมาจากพื้นที่ภาคกลางไปยัง จ.เชียงราย
จากการตรวจสอบพบข้อมูลว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 3 คันดังกล่าว จึงได้ทำการตรวจเช็ครายละเอียดข้อมูลผู้ครอบครองรถ พบว่า เป็นคนพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี วิ่งติดตามกันจากภาคกลางขึ้นไปในพื้นที่ จ.เชียงราย และกำลังวิ่งมุ่งหน้าลงมายังจุดตรวจแม่พริก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้วางแผนจัดกำลังตามจุดต่างๆ
ต่อมาเวลาประมาณ 03.30 น.วันที่ 19 เมษายน 2564 ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมกำลังปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าจุดตรวจยาเสพติดแม่พริก มีรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 4กต 9079 กทม. ตรงกับเป้าหมายว่าเป็นรถนำทาง ภายในรถมีคนขับและผู้โดยสาร รวม 3 คน จากนั้นรถคันดังกล่าวได้หยุดจอดห่างจากจุดตรวจ 100 เมตร แล้วมีคนที่อยู่ภายในรถยนต์ชะโงกออกมามอง เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนทำทีว่าเลิกปฏิบัติงาน แล้วรถยนต์เก๋งคันกล่าวจึงวิ่งออกไปจากที่จอด
จากนั้นมีรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม.มาถึงจุดตรวจ ซึ่งตรงกับรถยนต์เป้าหมาย ภายในรถยนต์มีคนขับและผู้โดยสารรวม 2 คน จึงเรียกให้หยุดจอด แต่รถยนต์คันดังกล่าว ได้เร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปทางถนนพหลโยธินขาล่อง เจ้าหน้าที่ไล่ติดตามไปจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 589 พบรถยนต์คันดังกล่าวเสียหลักจอดอยู่ร่องกลางถนน โดยเปิดประตูด้านผู้โดยสารทิ้งไว้เครื่องยนต์ยังติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงได้แบ่งกำลังออกติดตาม อีกทั้งประสานงานพื้นที่ใกล้เคียงให้ช่วยสกัดจับ
ต่อมาได้รับแจ้งจากด่านตรวจพยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ สกัดจับรถยนต์เก๋ง หมายเลขทะเบียน 4กต 9079 กทม. พร้อมบุคคลในรถ จำนวน 5 คน ทั้งหมดให้การยอมรับว่าได้หลบหนีการจับกุมจากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก
น.ส.ปิยะวรรณ ให้การว่าร่วมกับ นายธนากร และ น.ส.ดารารัตน์ ไปรับ นายอภิวัฒน์ และนายภาคิน ที่จอดรถยนต์ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. ทิ้งไว้และพากันหลบหนี เพื่อจะไป จ.สุพรรณบุรี จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัวมายัง สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี
ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอีกชุดหนึ่งได้ดำเนินตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ญภ 4366 กทม. พบ ไอซ์ 10 ถุง ต่อมามีรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผก 9134 สุพรรณบุรี ขับมาถึงจุดตรวจด้วยความเร็ว ซึ่งตรงกับรถยนต์เป้าหมายอีกคัน ภายในรถยนต์มีคนขับและผู้โดยสาร 2 คน เมื่อเห็นรถเจ้าหน้าที่เปิดไฟสัญญาณ จึงได้กลับรถและทิ้งวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายกระสอบ จำนวน 2 ใบลงจากรถที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น ห่างจากจุดตรวจประมาณ 1 กม. ตรวจสอบเป็นถุงกระสอบสายรุ้ง ข้างในถุงมีกระสอบฟาง จึงได้แกะดูพบว่าเป็น ไอซ์ 100 ก้อน รวม 100 กิโลกรัม จึงจัดกำลังไล่ติดตามประสานงานพื้นที่และจังหวัดใกล้เคียง
ต่อมาได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำจุดตรวจบ้านนา สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ว่ามีรถยนต์รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผก 9134 พร้อมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ นายศักดา และน.ส.น้ำฝน แล่นมาถึงด่านตรวจบ้านนา จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอทำการตรวจค้น โดยทั้งสองให้การรับว่าได้หลบหนีมาจากจุดตรวจยาเสพติดพื้นที่ สภ.แม่พริก แล้วทิ้งถุงที่บรรจุยาเสพติด จำนวน 2 ถุง ที่บริเวณข้างถนนพหลโยธินขาขึ้น จึงได้ร่วมกันจับกุมและควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่พริก เพื่อดำเนินคดี
จากการซักถามผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันลักลอบขนยาเสพติดของกลางดังกล่าว จากพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อนำส่งปลายทางในพื้นที่ภาคกลาง โดยใช้รถยนต์ของกลาง 3 คัน เป็นยานพาหนะในการลักลอบขนยาเสพติดในครั้งนี้ โดยใช้เส้นทางถนนพหลโยธินจาก อ.พาน จ.เชียงราย ผ่าน จ.พะเยา เข้าทาง อ.งาว และมาถูกจับกุมได้ที่ด่านตรวจยาเสพติด สภ.แม่พริก จ.ลำปาง
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์)ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จึงได้ทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 คน เพื่อทำการขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว โดยในวันที่ 21 เมษายน 2564 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 จะเดินทางมาแถลงข่าวผลการจับกุมยาเสพติดรายสำคัญนี้ ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธร จ.ลำปาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี