‘อุดรธานี’เปิดไทม์ไลน์ผู้เสียชีวิตรายแรก ยังไม่ประกาศ‘เคอร์ฟิว’
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 25 เมษายน 2564 นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี (ผวจ.อุดรธานี) , นายอุเทน หาแก้ว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) อุดรธานี , นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รอง ผอ.รพ.ศูนย์อุดรธานี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 โดยวันนี้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวน 17 ราย รวมยอดผู้ติดเชื้อสะสม 307 ราย
นายสยาม เปิดเผยว่า จนถึงวันนี้ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน จ.อุดรธานี มีแนวโน้มลดลง ตอนนี้มีผู้ป่วยติดเชื้อ 17 ราย มียอดผู้ติดเชื้อรวม 307 ราย และวันนี้มีผู้ติดเชื้อเสียชีวิต 1 ราย ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นชาว อ.หนองวัวซอ เบื้องต้นมาพบแพทย์ มีโรคประจำตัวที่รักษาตัวอยู่แล้ว และมีเชื้อโควิด-19 อยู่ด้วย ขณะที่จากการไปเยี่ยมศูนย์แคร์ ตอนนี้มีผู้ป่วยอยู่ที่ รพ.สนาม จำนวน 51 คน ทุกคนยังมีกำลังใจดีใช้ชีวิตปกติ ช่วงเช้าพากันออกกำลังกาย ส่วนทีมแพทย์ต้องทำงานหนัก ซึ่งจังหวัดจะกำหนดพื้นที่สำรองให้กับทีมแพทย์และบุคลากรเพิ่มเติม
“ถึงตอนนี้ จ.อุดรธานี ยังคงไม่ประกาศเคอร์ฟิว เพราะมีมาตรการต่างๆอยู่ ผมขอความร่วมมือประชาชน ถ้าไม่จำเป็น ให้อยู่ที่บ้าน เพื่อความปลอดภัยของท่านเอง ส่วนการเปิดเทอมในเดือนหน้านั้น ถ้าสถานการณ์เป็นแบบนี้ จำนวนยอดผู้ติดเชื้อลดไม่มาก การเปิดเทอมในเดือนหน้าคงเป็นไปได้ยาก อาจจะไม่มีการเปิดเทอมนักเรียนเลย แต่ใกล้ๆ วันจะดูสถานการณ์ก่อน” ผวจ.อุดรธานี กล่าว
ด้านนายอุเทน เปิดเผยว่า ถ้าดูแนวโน้มผู้ติดเชื้อลดลง เช่น คลัสเตอร์ใหญ่ๆอย่างสถานบันเทิง เราควบคุมได้แล้ว แนวโน้มน่าจะดีขึ้น เมื่อวานเราตรวจหาเชื้ออย่างต่อเนื่อง 250 ราย พบผู้ติดเชื้อ 12 ราย สำหรับในพื้นที่ จ.อุดรธานี ตั้งแต่วานนี้ไม่มีผู้นำเชื้อเข้ามา แต่พบว่าผู้ติดเชื้อผู้เสี่ยงสูงอยู่ในครอบครัว เพื่อนฝูง แนวโน้มคลัสเตอร์สถานบันเทิงและอีกหลายๆวงลดลง เป็นการแพร่เชื้อเป็นคนในครอบครัวที่เคยสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนเน้นมาตรการส่วนบุคคล เว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอย่างต่อเนื่อง ล้างมือบ่อยๆ วัดอุณหภูมิบ่อยๆ ควรงดกิจกรรมรวมกลุ่ม งานประเพณีต่างๆ ที่มีคนอยู่มากๆ ควรงดเลย งดรับประทานอาหารร่วมกันในองค์กร หรือแม้แต่ในบ้านควรแยกกันทาน ส่วนเตียงผู้ป่วยตอนนี้ทั้งรพ.อุดรธานีและรพ.ประจำอำเภอมีอยู่ 477 เตียง ตอนนี้มีใช้ไป 100 กว่าเตียง เราเหลืออีก 300 กว่าเตียงสามารถรองรับผู้ป่วยได้อีก ไม่มีปัญหาเรื่องเตียงขาดแน่นอน
ทั้งนี้ ขอแจ้งให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาจังหวัดเสี่ยง 22 แห่ง คือ กรุงเทพ,เชียงใหม่,ชลบุรี,สมุทรปราการ,ประจวบคีรีขันธ์,สมุครสาคร,ปทุมธานี,นครปฐม,ภูเก็ต,นครราชสีมา,นนทบุรี,สงขลา,ตาก,สุพรรณบุรี,สระแก้ว,ระยอง,ขอนแก่น,เพชรบุรี,พระนครศรีอยุธยา,มหาสารคาม,สุราษฏร์ธานีและเชียงราย ต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันเพราะแต่ละวันมีผู้ติดเชื้อ 25-30 ราย
ส่วน นพ.สุมน กล่าวว่า สำหรับรายที่เสียชีวิตเป็นชายวัย 24 ปีเป็นชาว อ.หนองวัวซอ ทำงานในห้องอาหารโรงแรมแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองอุดรธานี มีโรคประจำตัวคือเนื้องอกของหลอดน้ำเหลืองที่เอวแต่กำเนิด ขาดการรักษามาแล้ว 2 ปี ประวัติสัมผัสโรควันที่ 13 เม.ย. ผู้ป่วยสังสรรค์กับญาติและเพื่อนที่มาจากจังหวัดสมุทรปราการมีการสังสรรค์ในที่ทำงาน วันที่ 21 เม.ย.64 มีอาการชาที่ขาหนีบข้างซ้ายและบวมแดง วันที่ 22 เม.ย.64 ถ่ายเหลวบ่อยครั้งอาเจียนมีไข้ วันที่ 24 เม.ย.64 ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อยไข้สูงไปรักษาที่รพ.หนองวัวซอ แพทย์ ประเมินตรวจหาเชื้อ covid จากนั้นได้ส่งต่อมายังโรงพยาบาลอุดรธานีและ ตรวจพบเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตในเวลา 21.45 น.
สำหรับผู้ป่วยรายนี้มีโรคประจำตัวคือระบบทางเดินน้ำเหลืองไม่ดี มี ภาวะติดเชื้อที่ขาซ้าย และลามเข้ากระแสโลหิต ทางรพ.อุดรธานีก็ให้การรักษาเต็มที่ มีแผนว่าจะตัดเนื้อตายแขนซ้าย แต่ไม่สามารถยื้อเสียชีวิตได้ ซึ่งผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อโควิด 19 เป็นโรคร่วม และไม่ใช่สาเหตุของการเสียชีวิต
“อยากจะเรียนพี่น้องประชาชนว่า เนื่องจากขณะนี้มีคนไข้เยอะทางรพ.อุดรธานีมีมาตรการดูแลผู้ป่วยดังนี้ ผู้ป่วยนอกเราจะส่งยาทางไปรษณีย์ ส่วนผู้ป่วยใน ที่ต้องการรักษาผ่าตัด ฉุกเฉินเราให้บริการตามปกติ ส่วนผู้ป่วยไม่ฉุกเฉินเราจะเลื่อนออกไป มีบุคลากรทางแพทย์ห้องผ่าตัดติดเชื้อหลายราย” นพ.สุมน กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี