“บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “สืบ ตม.” จับกุมชาวญี่ปุ่น มั่วรู้จักระดับบิ๊ก ตุ๋นเงินเหยื่อนับล้าน อ้างล้มคดีได้
4 พฤษภาคม 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.สส.สตม. , พ.ต.อ.สถิตย์ พรมอุทัย และ พ.ต.อ.อาภากร โกมลสุทธิ รอง ผบก.สส.สตม. ร่วมแถลงข่าวจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติ
สืบเนื่องจากคดีนี้พบว่าผู้ต้องหาสัญชาติญี่ปุ่น ได้ทำการหลอกลวงผู้เสียหายซึ่งถูกฟ้องเป็นคดีแพ่งรวม 3 คดี ว่าตนนั้นสามารถช่วยให้ผู้เสียหายชนะคดีทั้ง 3 คดีได้ โดยอ้างว่าตนเอง “รู้จักคนใหญ่คนโตในประเทศไทยและสามารถช่วยเหลือให้ชนะคดีได้” ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้ตกลงจ่ายเงินให้กับผู้ต้องหา รวมเป็นเงิน 2,060,000 บาท ต่อมาผู้เสียหายทราบภายหลังว่าผู้ต้องหาไม่ได้ช่วยเหลือผู้เสียหายเกี่ยวกับคดีเลย ทำให้ผู้เสียหายยังคงเป็นฝ่ายแพ้คดี สร้างความเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย เป็นเงินจำนวนกว่า 40,000,000 บาท ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้มีการระดมสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ สำหรับกรณีนี้ได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลต่างด้าวตั้งตัวเป็นผู้รับประสานแก้ปัญหาคดีต่างๆ โดยอ้างว่ารู้จักข้าราชการและบุคคลต่างๆ ในประเทศไทยเป็นอย่างดีสามารถช่วยแก้ไขคดีความต่างๆ ได้
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้ทำการสืบสวน โดยใช้ฐานข้อมูล PIBICS และ BIOMETRICS ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จึงพบว่าผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง ที่ ว.61/2564 ลง 4 ก.พ.64 ข้อหา “ฉ้อโกง” ได้เปิดกิจการร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง แถวอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี จนนำไปสู่การสืบสวนจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.2 บก.สส.สตม. ได้ตรวจสอบพื้นที่บริเวณซึ่งเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น พบผู้ต้องสงสัยมีลักษณะรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับบุคคลต่างด้าวที่ปรากฏอยู่ในภาพเดียวกับบุคคลต่างด้าวซึ่งมีหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เข้าตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวคือบุคคลเดียวกับบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริง โดยใช้ฐานข้อมูล PIBICS และ BIOMETRICS ในการตรวจสอบ จึงได้แสดงหมายจับให้ผู้ต้องหาดู โดยผู้ต้องหาให้การยอมรับเบื้องต้นว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงฯ จริง และยังไม่เคยถูกจับในคดีนี้มาก่อน จึงได้จับกุมตัวเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี