ความคืบหน้ากรณีหญิงสาวท้อง 2 เดือน พักอาศัยในบ้านเช่าภายในหมู่บ้านน่านเจ้า ต.ไซยสถาน อ.เมืองน่าน จ.น่าน หายตัวไปอย่างปริศนา ส่วนสามีชาวต่างชาติชื่อ"เจสัน" ควบรถวิบากออกจากบ้านหายตัวไปอย่างมีพิรุธ โดยเบาะแสล่าสุดพบเห็นที่บริเวณแยกปากนาย มุ่งหน้าตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จ.น่าน ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้ (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘สาวท้อง2เดือน’หายตัวปริศนา สามีฝรั่งควบจยย.ไร้ร่องรอย พบคราบเลือดบนที่นอน)
ล่าสุดที่ สภ.เมืองน่าน พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สุนัขดมกลิ่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย อปท.ในพื้นที่ เข้าตรวจสอบที่บ้านเช่าของ น.ส.พิชชาพร คิดชอบ อายุ 32 ปี บ้านเลขที่ 16 ม.4 ต.แม่สาคร อ.เวียงสา จ.น่าน ที่หายตัวไป หลังจากนางอนงค์ ตันยา อายุ 52 ปี มารดาเข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดตามตรวจสอบเนื่องจากเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายหรือไม่เพราะไม่สามารถติดต่อได้เลย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสุนัขดมกลิ่น ได้กระจายกำลังค้นหาเพิ่มเติมเพื่อหาเบาะแสของการหายตัวไปของ"น้องโอ" ทั้งบริเวณป่าละเมาะข้างบ้าน และท้ายหมู่บ้าน แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไร้วี่แวว โดยแม่ของน้องโอ เล่าให้ฟังว่า ได้ไปทำพิธีเข้าองค์ทรงเจ้าตามความเชื่อของทางญาติ ทางร่างทรงบอกว่าน้องโอยังมีชีวิตอยู่แต่หายใจโรยริน ถูกมัดมือมัดเท้าและมัดปาก และถูกขยะวางทับถมไว้บริเวณร่องน้ำทางทิศใต้ และบอกว่าเจ้าหน้าที่ทีมค้นหาเดินผ่านไปผ่านมาแต่ไม่พบ เพราะถูกบังตาไว้
ส่วนบริเวณบ้านเช่า ขณะทีมค้นหากำลังวางแผนการค้นหาอยู่สุนัขบริเวณรอบๆ พากันหอนขึ้นในเวลากลางวันอย่างน่าแปลกใจ จากนั้นได้พากันปูพรมค้นหาบริเวณป่าหลังบ้าน โดยใช้สุนัขดมกลิ่นเข้าค้นหา แต่จู่ ๆ แม่ของน้องโอก็เป็นลมล้มพับไป ทางเจ้าหน้าที่และทางญาติๆ ได้พากันปฐมพยาบาล พอได้สติกับมีท่าทีแปลกไป แล้วพาเดินไปทางป่าละเมาะอีกฟากแต่ก็ยังหาไม่พบเบาะแสใดๆ
ชาวบ้านในละแวกดังกล่าว ให้ข้อมูลว่า นายเจสันชอบขับมอเตอร์ไซค์วิบากคันดังกล่าวบริเวณโรงงานร้าง จึงระดมทีมเข้าค้นหา โดยให้สุนัขดมกลิ่มเพื่อหาเบาะแส กว่า 3 ชั่วโมงก็ยังไม่พบเบาะแสอะไรเพิ่มเติม จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังไปค้นหาเบาะแสเพิ่มเติมบริเวณที่ทิ้งขยะท้ายหมู่บ้านจุดที่พบที่นอนเปื้อนเลือด โดยใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อค้นหาเบาะแสเพิ่มเติม รวมทั้งออกเดินปูพรมค้นหากว่า 3 ชั่วโมงก็ยังไม่พบวี่แวว
มีรายงานว่า สำหรับนายเจสัน มีคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าโดยได้รับการตัดสินปล่อยตัวชั่วคราวและทำทัณฑ์บนอยู่ และเดินทางเข้ามาในไทยอย่างถูกต้อง ส่วนเบาะแสเพิ่มเติมของนายเจสันยังไม่คืบหน้า หลังจากมีผู้พบเห็นล่าสุดพบขับรถผ่านไปมาในหมู่บ้านบริเวณอำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่นเมื่อเย็นวันที่ 3 พฤษภาคม
จากการเปิดเผยของเพื่อนบ้าน เผยว่า นายเจสันกับน้องโออาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังดังกล่าว ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะหรือสิ่งผิดปกติอะไร โดยทุกวันจะเริ่มทำกิจกรรมช่วงบ่ายโมงเช่นพากันร้องคาราโอเกะ แต่ไม่ได้ไปสังสรรค์กับใครร้องกันอยู่สองคน และตอนเย็นๆก็จะพาสุนัขออกไปเดินเล่นท้ายหมู่บ้าน
ขณะเดียวกันทาง ชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน สืบทราบว่าก่อนเกิดเหตุน้องโอหายตัวไป ทราบว่านายเจสันได้ติดต่อซื้อรถจักรยานยนต์ รุ่นวิบากยี่ห้อ honda สีส้ม ทะเบียน 1กฌ 2854 น่าน ก่อนหน้าวันที่เกิดเหตุร้านแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านในราคา 5 หมื่นกว่าบาทโดยโอนเป็นเงินสดให้ทางร้าน ขณะที่ทางภรรยาที่หายไปไม่พอใจที่นายเจสันซื้อจยย.ในครั้งนี้
ต่อมาในช่วงเวลาตอนเย็นในวันเดียวกัน นายเจสันยังได้ถอนเงินสดจากตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่งในจังหวัดน่านก่อนที่จะหายตัวไปซึ่งทางชุดสืบสวนได้ตรวจสอบตามกล้องวงจรปิดต่างๆในจังหวัดน่านพบว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.00 น.ได้มีรถยนต์ฟอร์ด 4 ประตูสีส้ม ทะเบียน กฉ 2510 น่านซึ่งเป็นชื่อของภรรยาที่หายไป โดยที่นายเจสันเป็นคนซื้อให้ ขับผ่านที่บริเวณตลาดทางแยกบ้านตาแก้ว
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจยึดและทำการตรวจสอบพบถุงดำและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์อยู่ภายในเบาะด้านหลัง และได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการจังหวัดน่านเพื่อทำการตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด ซึ่งทางชุดสืบสวนเชื่อว่านายเจสันยังอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดน่านอยู่เนื่องจากไม่คุ้นเส้นทางภายในจังหวัดเส้นทาง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี